ตอนนี้เราอยู่ในยุค 4.0 ที่ความเจริญทางเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในสังคม เช่น การใช้โซเชียล ที่นับเป็นสื่อสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นได้รับผลกระทบและอาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปแบบนี้
พฤติกรรมไร้มารยาท ยุค 4.0
ไม่แคร์สื่อ
ในโลกโซเชียลเราสามารถสร้างตัวละครใหม่ได้อยู่ตลอด จนทำให้อาจคิดว่าสามารถนำตัวละครเหล่านี้ไปทำอะไรก็ได้เพราะถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว จะเขียน ถ่ายรูป หรือโพสต์วิดีโออะไรก็ได้ แต่จริงแล้วถ้าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของคำว่า “โซเชียล” ซึ่งไม่มีอะไรเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง หลายเคสที่ต้องโดนจับโดยไม่รู้ตัว และสุดท้ายก็หนีไม่พ้นคำว่า “รู้เท่าไม่ถึงการณ์”
บัญญัติศัพท์ใหม่
วัยรุ่นสมัยนี้ชอบติดการใช้ภาษาแบบไทยคำอังกฤษคำ หรือบางทีก็สนธิเป็นคำใหม่ขึ้นมาเลย อย่างในการแชทกันในกลุ่มเพื่อนก็มักจะใช้ถ้อยคำง่าย ๆ ไม่ค่อยสุภาพมากนัก ถูกบ้างผิดบ้างปนเปกันไปหมด จนสุดท้ายกลายเป็นว่าไม่รู้แบบไหนคืออันที่ถูกต้อง แล้วนำมาใช้กันแบบผิด ๆ
ละเมิดโดยไม่รู้ตัว
เป็นเรื่องง่ายมากถ้าเราอยากจะวิจารณ์ใครสักคนบนโลกโซเชียล เพียงแค่เราไม่ชอบก็สามารถแอบไปถ่ายรูปเขาแล้วโพสต์ลงโซเชียล จากนั้นจะใส่ไข่ใสไฟก็ได้ตามใจ จนมีใครสักคนต้องเดือดร้อน แต่รู้ไหมว่าการทำแบบนี้เข้าข่ายละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล เพียงแค่เอารูปใครสักคนมาโพสต์โดยที่เจ้าของไม่ยินยอมก็ถือว่าเข้าข่ายละเมิดแล้ว
ให้เกียรติฝ่ายชายบ้าง
นี่มันยุคไหนแล้ว การจะให้ผู้ชายไปรับไปส่ง เดินตามถือกระเป๋า เลี้ยงข้าว ซื้อของให้ แบบนี้มันเชยเกินไป สมัยนี้การเดินทางก็แสนจะสบาย ถ้ากระเป๋าในมือไม่หนักจนเกินไปถือเองดูจะสวยงามกว่า หรือในบางมื้อลองเอ่ยปากขอเลี้ยงข้าวฝ่ายชายบ้างเขาน่าจะดีใจ แบบนี้ฝ่ายชายจะรู้สึกสบายใจและชื่นชอบเราแบบเท่าเทียมมากกว่านะ
ไม่ใส่ใจความรู้สึกคนอื่น
ความเจริญทางเทคโนโลยีทำให้โลกแคบลงจนใจของคนแคบตาม เพราะเดี๋ยวนี้เรามักจะเห็นภาพการไม่มีน้ำใจให้กัน วัยรุ่นไม่เอื้อเฟื้อต่อผู้สูงอายุ หรือการกลั่นแกล้งกัน (Bully) หนักมากกว่าแต่ก่อน มีวัยรุ่นถูกล้อเลียนจนถึงกับต้องทำร้ายตัวเอง ที่ร้ายกว่าจนถึงขั้นฆ่าตัวตาย
สุดท้ายแล้วความเจริญทางเทคโนโลยีพัฒนาต่อไปไม่มีหยุด สิ่งสำคัญก็คือความดีที่อยู่ข้างในตัวเราต้องปรับเปลี่ยนตามไปด้วยเป็น มารยาท 4.0 ที่พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง