หลายคนอาจจะยังงง ๆ อยู่ว่าไอ้ Passive Voice เนี่ยมันคืออะไร แล้วมีหลักการใช้ยังไงบ้าง วันนี้เรามี หลักการใช้ Passive Voice ครบทั้ง 12 Tense มาฝากกัน หวังว่าจะช่วยให้เพื่อน ๆ หายงงกันได้บ้างเนอะ
หลักการใช้ Passive Voice ครบทั้ง 12 Tense
Passive Voice
ในภาษาอังกฤษจะมีโครงส้รางประโยค 2 แบบ นั่นก็คือ Active Voice และ Passive Voice ลองสังเกตประโยคด้านล่างทั้งสองประโยคดูนะ
– I eat an orange. = Active Voice ที่มีประธาน (I) เป็นผู้กระทำ
– An orange is eaten by me. = Passive Voice หรือประโยคที่มีประธาน (an orange) เป็นผู้ถูกกระทำ (ถูกกิน) นั่นเอง
*สรุป Passive Voice คือ ประโยคที่มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ
หลักการเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice
1. นำกรรมในประโยค Active เปลี่ยนไปเป็นประธานของประโยค Passive
2. ใช้ Verb to be ให้ถูกต้อง คล้อยตามประธาน
3. เปลี่ยนคำกริยาแท้ให้เป็น กริยาช่อง 3 (V.3)
4. นำประธานของประโยค Active ไปเป็นกรรมของประโยค Passive โดยวางไว้หลัง by
ตัวอย่างเช่น
Present Simple Tense
Active: Lisa writes a book.
Passive: That book is written by Lisa.
Past Simple Tense
Active: Lisa wrote that book last year.
Passive: That book was written by Lisa last year.
Future Simplae Tense
Active: Lisa will write a book next year.
Passive: That book will be written by Lisa next year.
Present Continous Tense
Active: Lisa is writing a book.
Passive: A book was being written by Lisa.
ถ้าในประโยคมีกรรม 2 ตัว
ถ้าในประโยคมีกรรม 2 ตัว ได้แก่ กรรมตรง และกรรมรอง เช่น
He gave me the book.
จากประโยคด้านบน กรรมตรง = money (สิ่งของ) และ กรรมรอง = me (คน)
เมื่อเปลี่ยนเป็น Passive ส่วนใหญ่จะนำกรรมรอง (คน) มาเป็นประธาน แต่ถ้าจะนำกรรมตรง (สิ่งของ) มาเป็นประธานจะต้องใส่ to ที่หน้ากรรมรอง (คน) ได้เป็น
- I was given the book by him.
- The book was given to me by him.
รูปประโยค Passive Voice
Written by: Typrn