สวัสดีเดือนธันวาคม เดือนส่งท้ายปีแห่งความหลัง เชื่อเถอะว่าใครหลายๆ คนต้องหลงรักเดือนนี้ เพราะมีปั้งปีใหม่ ทั้งวันคริสต์มาส ทั้งสองเทศกาลนี้เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการเริ่มต้นใหม่ มองไปทางไหนก็เห็นแต่แสงไฟ ต้นคริสต์มาส กล่องของขวัญ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ เห็นแล้วมันก็ทำให้หัวใจอบอุ่นจริงๆ เหมือนเวลาดูหนังคริสต์มาสเหล่านี้ยังไงล่ะ วันนี้ Campus-Star จะพาคุณไปดู เมอร์รี่ คริสมาสต์! 10 อันดับ หนังคริสต์มาส ที่ดูเมื่อไหร่ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ!! มีเรื่องอะไรบ้างไปดูกัน
หนังคริสต์มาส ที่ดูแล้วเติมไฟในหัวใจ…
10. Home Alone (1990)
ใครที่ดู Home Alone (1990) แล้วไม่ขำนี่บอกเลยว่า คุณเป็นพวกเส้นโคตรลึก! รับรองเลยว่าถึงแม้คุณจะต้องนอนตายรังอยู่บ้านเหงาๆ อยู่คนเดียวในวันคริสต์มาส แต่ถ้าดู Home Alone (1990) ล่ะก็ คริสต์มาสของคุณก็จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ว่ากันด้วยหนุ่มน้อยเควินที่โดนครอบครัวทิ้งและหนีไปเที่ยวต่างประเทศในวันคริสต์มาส แต่ความโชคน้อยของเด็กชายยังไม่หยุดอยู่เท่านี้ ไหนที่เขาจะต้องฉลองคริสต์มาสคนเดียวแล้ว ซ้ำยังต้องป้องกันโจรร้ายสองคนที่จะมาปล้นบ้านอีก บอกเลยงานนี้เควินกินขาด แค่โจร 2 คน ไม่ระหายมือเขาหรอก
9. The Ref (1994)
มาเพิ่มความเรียลในวันคริสต์มาสกันซักเล็กน้อยด้วย The Ref (1994) โดยเรื่องราวมีอยู่ สองสามีภรรยาคู่หนึ่งที่กำลังจะหย่าร้างกัน ปัญหาครอบครัวต่างๆ มากมายมันมากเกินไปกว่าที่คนสองคนจะรับไหว แต่แล้วไม่รู้ว่าโชคชะตาหรือกรรมเวร เพราะ พวกเขาโดนโจรจี้ในวันคริสต์มาส ฟังดูเหมือนเหตุการณ์จะยิ่งเลร้าย แต่คุณรู้อะไรมั้ว่าโจรคนนั้นเหมือนกับจิตแพทย์ที่แก้ปัญหาในชีวิตคู่ในของสามีภรรยาคู่นี้ เชื่อเถอะว่าใครที่กำลังมีปัญหากับแฟนอยู่ พอดู The Ref (1994) คุณจะต้องคิดทบทวนอีกทีชัวร์!
8. A Christmas Carol (2009)
ถ้าแฟนๆ คนไหนเบื่อที่จะดูหนังแต่อยากดูแอนิเมชั่นภาพสวยๆ แต่ให้ข้อคิดมากมายล่ะก็ ต้องนี่เลย A Christmas Carol (2009) ว่ากันด้วย ผู้ร่ำรวยอย่าง เอเบนีเซอร์ สครูจ ส่วนตัวเขานั้นรังเกียจวันคริสต์มาสที่สุด เพราะเขาเห็นว่าเทศกาลนี้เป็นสิ่งที่ไร้สาระ สิ่งที่เขาสนใจมีอยู่อย่างเดียวก็คือตัวเอง จนกระทั่งสครูจได้พบกับ เจค็อบ มาร์ลีย์ หุ่นส่วนทางธุรกิจผู้ล่วงลับไปแล้ว มาร์ลีย์ได้กลับมาเตือนสครูจให้ทำดี เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องพบโชคชะตาที่เลวร้ายเหมือนกับตน ในคืนนี้สครูจจะได้พบกับดวงวิญญาณแห่งคริสต์มาในสอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งทั้งสามดวงวิญญาณนี้แหละจะเปลี่ยนชีวิตของ เอเบนีเซอร์ สครูจ ไปตลอดกาล
7. The journey home (2014)
ไหนใครชอบหมีบ้างยกมือขึ้น แล้วไม่ใช่หมีธรรมดานะ เป็นหมีขาวขั้วโลกเหนือที่ทั้งน่ารักน่ากอดเลย โดย The journey home (2014) มีเรื่องราวอยูว่า เด็กชายคนหนึ่งได้แอบเอาหมีขาวมาเลี้ยง ซึ่งเจ้าหมีนั้นเดิมทีมันพลัดลงกับแม่ ภารกิจของหนุ่มน้อยก็คือ การนำเจ้าหมีน้อยไปคืนแม่ของมัน ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายไม่ว่าจะเป็นความหนาวเหน็บของอากาศ หรือความหิวแบบขีดสุด แล้วเด็กชายกับเจ้าหมีขาวจะทำภารกิจสำเร็จมั้ยล่ะ ลองไปลุ้นดูกัน
6. The Santa Clause (1994)
มากันที่หนังคริสต์มาสผ่อนคลายๆ กันบ้าง สำหรับ The Santa Clause (1994) ว่ากันด้วยเรื่องราวของ สก็อต คาลวิน ผู้ทำหน้าที่เป็นซานต้ามาถึง 8 ปีด้วยกัน พวกเอลฟ์ต่างก็บอกว่า เขาทำหน้าได้อย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง แต่แล้วเรื่องแย่ๆ ก็เกิดขึ้น เมื่อลูกชายตัวแซบของซานต้ากลับมีชื่ออยู่ในบัญชีเด็กดื้อ ถ้าไม่แก้ไขก็เสียหมาน่ะสิงานนี้ แล้วไหนสก็อตยังจะต้องหาเจ้าสาวให้ได้ก่อวันคริสต์มาสอีฟ มิฉะนั้นเขาจะถูกปลดจากตำแหน่งอีก โอ้ยยย อะไรๆ ก็มารุ้มมาตุ้มไปหมด แล้วเรื่องราาวจะจบลงยังไงนะ
5. Arthur Christmas (2011)
Arthur Christmas (2011) หรือชื่อภาษาไทยคือ ของขวัญจานด่วน ป่วนคริสต์มาส โดยแอนิเมชั่นเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ช่างสงสัยในทุกสิ่ง เขาสงสัยว่าซานต้าส่งของขวัญไปให้เด็กๆ ทั่วโลกได้ยังไงภายในคืนเดียว แล้วไหนที่สุดเขาก็ค้นพบความลับที่ไม่มีใครที่ไหนรู้มาก่อน รับรองได้เลยว่า Arthur Christmas (2011) จะทำให้วันคริสต์มาสของคุณพิเศษสุดเลยแหละ
4. Jungle All the Way (1996)
สำหรับหนังฮาๆ เพลินๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความรักอย่าง Jungle All the Way (1996) ก็น่าาสนใจไม่น้อยเลยที่จะหยิบมาดู ว่ากันด้วยของเล่นของขวัญคริสต์มาสสุดฮิตที่เด็กๆ ทุกคนอยากได้เหลือเพียงตัวเดียว งานนี้ก็เลยเกิดศึกระหว่างคุณพ่อด้วยกันอย่าง โฮเวิร์ด แลงสตัน (อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์) พนักงานขายชุดเครื่องนอนที่เห็นครอบครัวเป็นที่ 1 งานนี้บอกเลยใครดีใครได้ แล้วโฮเวิร์ดจะได้ของขวัญคริสต์มาสที่เหลือเพียงชิ้นเดียวรึเปล่านะ ต้องไปรอชมกัน
3. Surviving Christmas (2004)
หนังขำๆ ในวันคริสต์มาสอีกเรื่อง สำหรับ Surviving Christmas (2004) เป็นเรื่องราวของไฮโซหนุ่มผู้ร่ำรวยอย่าง ดรู ลาแธม (เบน แอฟเฟล็ก) ในทุกๆ ปีเขาต้องฉลองคริสต์มาสอยู่คนเดียว แต่ปีนี้เขาอยากจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่เติบโตมา เพื่อซึบซับความทรงจำบรรยากาศเก่าๆ แต่น่าเสียดายที่บ้านหลังนี้มีเจ้าของใหม่แล้ว ดรูเลยใช้เงินในการแก้ปัญหาเหมือนทุกครั้ง แต่เจ้าของใหม่ก็ไม่ยอมง่ายๆ น่ะสิ แล้วเอายังไงล่ะทีนี้ งานนี้รับรองทั้งมันส์ทั้งฮา พูดได้เลยว่าหนังเรื่องนี้คุ้มค่าแก่การดูแน่นอน
2. Love Actually (2003)
ฮาน้ำตาเล็ดและโลดแล่นกันในโลกแฟนตาซีกันมากมาพอแล้ว เรามาหวานซึ้งด้วยหนังรักชุ่มช่ำกับ Love Actually (2003) กันดีกว่า มันเป็นเรื่องราวของ 8 คู่รัก ที่มีเรื่องราวความรักต่างกันไป ทั้งความรักแบบหวือหวา หวานล้ำ หรือแอบซ่อน เชื่อเถอะว่า Love Actually (2003) คงเป็นหนังรักเรื่องโปรดของสาวๆ หลายๆ คนแน่ๆ ใครที่เคยดูแล้วก็ย่อมจะรู้ดีกว่า หนังเรื่องนี้มีหลายฉาก หลายคำคมที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมอย่างที่สุด
1. The Holiday (2006)
เป็นหนังรักที่เหมาะแก่การดูในวันคริสต์มาสอีกเรื่อง สำหรับ The Holiday (2006) นี่เป็นเรื่องราวของหญิงสาวสองคนซึ่งอกหักรักพังพร้อมๆ กัน พวกเธอรู้จักกันในโลกโซเชียลและตัดสินใจจะแลกบ้านกันอยู่ในวันคริสต์มาส ตอนแรกก็กะว่าจะไปรักษาแผลใจซะหน่อย แต่ไปๆ มาๆ ไหงถึงมาพบรักใหม่ซะได้ ก็นะ…เรื่องของความรักมันเป็นอะไรที่ไม่สามารถคาดหวังและจินตนาการได้อยู่แล้วหนิ