รีวิว ศัลยกรรม เสริมจมูก

รีวิว เพื่อนพาไปงัดดั้ง เสริมจมูกทรงเกาหลี !

Home / เรื่องทั่วไป / รีวิว เพื่อนพาไปงัดดั้ง เสริมจมูกทรงเกาหลี !

“เพื่อนกิน .. หาง่าย เพื่อนพาไปทำสวย .. หายาก”

koreann01

สวัสดีค่ะทุกคน รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกของผู้หญิงหน้าตาทั่วไปอย่างเรา หลังไปทำศัลยกรรมครั้งแรก

นั่นคือการเสริมจมูกค่ะ แต่พิเศษกว่าคือเพื่อนสนิทพาไปทำค่ะ.. 5555555

koreann02

เรามีเพื่อนสนิทคนนึงที่ทำงานวงการนางแบบ แน่นอนค่ะว่าไลฟ์สไตล์นางต้องดูแลตัวเองอัพเกรดความสวยความงามอยู่ตลอด แต่เรานี่ตรงกันข้ามเล๊ยย ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะทำศัลยกรรมค่ะ แต่ก็ดูแลตัวเองทั่วๆ ไปแบบผู้หญิง ก็ทาครีม ทานอาหารเพื่อสุขภาพ และก็แต่งหน้าเบาๆ ค่ะ

koreann03

คนนี้เพื่อนเราเอง ชื่อเมกัส นางเป็นนางแบบของเพลบอย หลายๆ คนอาจคุ้นหน้าบ้าง

แต่พักหลังๆ นี้เองที่เพื่อนเราเข้าคลินิกบ่อยมากกกกกกก บางครั้งเราไปด้วย ไปนั่งรอ

ได้เห็นบรรยากาศในคลินิก ได้ดูวีดีโอ (ฆ่าเวลา – -“) เกี่ยวกับการฉีดนู่นผ่านี่ ดูไปเรื่อยก็เริ่มซึมซับมาทีละนิดๆ

จนล่าสุดที่นางไปดูดไขมันเหนียงมาแล้วเห็นว่าเปลี่ยนมาก ปกตินางหน้าเรียวนะ แต่เหนียงเยอะมาก แต่หลังดูดมาประมาณ 2 อาทิตย์แล้วเหนียงหายไปเลย เลยคิดว่าเออ คลินิกนี้คงดีจริง ทำแล้วเห็นผล

koreann04

ซึ่งนอกจากเพื่อน เราก็จะเห็นคนอื่นๆ ที่เข้ามาทำศัลยกรรมใช้บริการจริงๆ ก็โอเคเลยนะ

ม่ได้บริการดีแต่กับเคสวีไอพี กับคนธรรมดาก็ใส่ใจเหมือนกัน ถ้าวันนึงเราทำศัลยกรรมก็คงมาทำที่นี่แหละ

คิดเล่นๆ แต่ไปๆ มาๆ เพื่อนก็มาบ่นทำไมเราไม่ทำไรบ้างเลย ให้เราดูแลตัวเองบ้าง ศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องแปลก

เดี๋ยวนี้หน้าตาบุคลิกก็ต้องควบคู่กันนะ .. – -“ เราก็ฟังมันบ่นๆ แต่ในใจก็แอบคิดมาสักพักแล้วว่าจะทำจมูกดีมั้ย ??

koreann05

จมูกเดิมของเรามีดั้งอยู่บ้างแล้วค่ะ แต่โชคร้ายไปนิดที่มันดูไม่มีมิติเลย ด้านข้างพอจะเป็นสันดั้งอยู่บ้าง

แต่ด้านตรงคือเหมือนคนจมูกใหญ่ๆ บางทีเซลฟี่ก็รู้สึกขาดความมั่นใจไป

เพื่อนเราเป็นคนนัดจัดแจงนัดคิวกับคลินิกให้ค่ะ .. จริงๆ เพื่อนกล่อมอยู่นานมาก

แต่เพราะไม่เสียค่าปรึกษาเราเลยตัดสินใจไป สำหรับเคสเราได้ปรึกษากับคุณหมอต้น

เป็นแพทย์หลักทำจมูกของที่นี่ (คุณหมอต้นเป็นแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางค่ะ) ก่อนปรึกษารอประมาณเกือบชั่วโมงเลย

แอบนานไปหน่อย ไม่รู้ว่าเราไปวันที่คนเยอะรึเปล่าเลยแจ็คพ็อต เราเลยไปเดินเล่นสยามรอ

พอใกล้คิวทางพนักงานก็โทรมาตาม ก็นั่งรออีกแปปนึงก็ได้เข้าไปปรึกษาที่ชั้น 2 ค่ะ

koreann06

คุณหมอจะดูนิ่งๆ นิดนึง แต่พอเวลาเค้าพูดเค้าจะถามเราเยอะมาก

อยากได้แบบไหน ยังไง ไหนมีแบบมามั้ย (เราแอบโดนบ่นค่ะเพราะไม่ได้ทำการบ้านไป

เพราะหมอกลัวจะทำออกมาแล้วไม่ถูกใจ)

จำได้ว่าเราถามหมอจริงๆ จังๆ ไปเรื่องเดียว คือ การฉีดยาชาค่ะ คือเรากลัวการฉีดยาชามากกก

เพราะเคยฉีดตอนผ่าตัดเย็บแผลหกล้มตอนเด็กๆ จำความรู้สึกได้ว่ามันเจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจมากกกกกก

โอ๊ยชีวิตนี้กลัวอะไรกับยาชาที่สุด ใช้เวลาปรึกษาทั้งหมด เกือบๆ 20 นาทีค่ะ

สรุปได้ว่าคุณหมอจะใช้ยาฉีดเข้าเส้นเป็นยาผ่อนคลายให้เรารู้สึกง่วงๆเบลอๆก่อนจะฉีดยาชาจ้า

และซิลิโคนใช้เป็นแบบเกาหลีพรีเมี่ยม เน้นเสริมบริเวณดั้งให้ได้ทรงเคิร์ฟจนมาถึงเกือบสุดปลายจมูก

เราเป็นคนมีเนื้อเยอะอยู่แล้ว คุณหมออธิบายว่าพอเสริมจะทำให้จมูกหน้าตรงดูมีมิติขึ้น

ด้านข้างสันดั้งก็จะเป็นทรงเคิร์ฟชัดเจน (เป็นจมูกทรงเกาหลีที่คุณหมอถนัด)

หลังปรึกษาเสร็จคุณหมอก็รีบขอตัวไปผ่าตัดต่อเลยค่ะ เข้าใจเลยว่าคนเยอะจริงๆ มาผิดวันแน่ๆฉันน – -”

หลังปรึกษาก็นั่งคุยกับเพื่อนต่อให้ช่วยกันตัดสินใจ ตอนแรกว่าจะโทรมาคอนเฟิร์มทีหลังขอตัวไปคิดก่อน

เพราะไม่ได้วางแผนมาเลยว่าจะพักฟื้นกี่วัน (คิดว่าทำครั้งแรก บวมเป็นสิงห์โตแน่นอน5555)

แต่น้องเซลล์มาบอกว่าตอนนี้แถมคอร์สฟื้นฟูร่างกายด้วยตู้ออกซิเจนให้ด้วย ราคาอยู่ที่ 10,000 บาท

(คอร์สนี้จะทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วกว่าปกติเป็นเท่าตัวค่ะ) เราเลยขอเข้าไปดูเจ้าเครื่องนี้ก่อนตัดสินใจ

จะเป็นตู้นอนส้มๆ ในนั้นจะเป็นห้องออกซิเจน เราเคยเห็นในซีรีส์ฝรั่งเวลาผ่าตัดค่ะ

นิยมกันมาก คิดว่าน่าจะคุ้มก็เลยจองคิวและมัดจำวันนั้นไปเลยค่ะ (ไม่ค่อยงกของฟรีเลยเนอะ5555555555555555)

น้องพนักงานแจ้งว่าคุณหมอมีเคสเยอะมาก ใจเราก็อยากทำวันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำเพราะเดี๋ยวเราจะมีสอบ

กลัวทำมาแล้วร่างกายเพลียต้องพักฟื้นนานจะกระทบไปด้วย โชคดีที่ได้คิวทำอีก 1 อาทิตย์ถัดไปเร็วที่สุดค่ะ

koreann07

ก่อนทำ 1 อาทิตย์เซลล์จะแจ้งให้งดเที่ยว งดดื่ม งดกินอาหารเสริม และวันมาทำควรงดดื่มกาแฟค่ะ

เพราะจะช่วยให้เอฟเฟ็คขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัดน้อยที่สุดจ้า

ซึ่งเราก็ปฏิบัติตามหมดค่ะ ปกติก็ไม่ค่อยได้เที่ยวและดื่มกาแฟอยู่แล้ว จะมีก็แค่วิตามินซี

บอกตามตรงว่าคืนก่อนวันมาทำ 1 วัน นอนไม่หลับเลย ตื่นเต้น ใครทำครั้งแรกคงเป็นเหมือนเราป่ะ ? 5555

พอเช้ามาต้องไปทำนี่จะหลับเลยจ้าา ตอนนั้นก็คิดว่าเออ ก็ดีนะ ตอนทำจะได้หลับไปเลย หายกลัวไปสิ

koreann09

พอถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัดจริงๆ รู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก ใจเต้นตึกๆๆๆ พยาบาลประมาณ 2-3 คนค่ะ

นอนรอคุณหมอเข้ามา แต่ก็จะได้เจาะเข็มให้น้ำเกลือทางเส้นเลือดก่อนเลยค่ะ พอคุณหมอเข้ามาปุ๊ปถึงเริ่มรู้สึกวูบๆ

จะหลับ ยังไม่รู้ตัวเลยตอนนั้น มัวแต่ภาวนาขอให้ไม่เจ็บๆๆ หลับปุ๋ยจ้า 5555555555555 เราได้สติรู้สึกตัวว่าเจ็บนิดๆ

ก็ตอนคุณหมอเย็บแผลแล้วค่ะ แอบมึนเบาๆ เพราะเรานอนน้อย พอคุณหมอและพยาบาลเช็ดหน้าให้เราเสร็จตอนลุกนี่แอบคลื่นไส้เลยค่ะ เลยยอมรับกับเค้าไปตรงๆ ว่า หนูนอนน้อยอ่ะค่ะ ..

นอนไม่หลับ เค้าดุว่าไม่ได้เลยนะเพราะมันจะทำให้เวียนหัวจ้า ใครที่กำลังเตรียมตัวจะมาทำนี่ต้องนอนให้พอนะจ๊ะ

ไม่งั้นจะมีอาการวูบวาบอยากอ้วกแบบเรา ต้องนอนพักเกือบครึ่งชั่วโมง – -“

แต่ดีที่คลินิกมีห้องพักฟื้นและมีพยาบาลคอยเฝ้า เอาน้ำแดงมาให้ดื่มด้วย พอได้ดื่มก็ช่วยได้เยอะเลยทีเดียวค่ะ

koreann10

ตั้งสติได้ก็ให้เพื่อนตัวดีที่รออยู่ข้างล่างขึ้นมารับค่ะ นางก็แซวแบบเห้ยย มีดั้งแล้ว

แต่จริงๆคือบวมค่ะ ดูไม่ค่อยออกเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวก็โอเคที่มันไม่โด่งเว่อร์จนเป็นหอไอเฟลอะไรขนาดนั้น

เรามีเวลาได้หยุดอยู่ห้องเฉยๆแค่วันเดียว พอวันที่ 2 กะ 3 ก็เข้ามอไปติว แอบมีรอยแดงนิดๆ แต่ไม่มีเขียวๆ ไม่เป็นสิงโต เดี๋ยวดูรูปเอานะคะ

koreann11

koreann12

ครบ 7 วันก็เข้าคลินิกไปพบคุณหมออีกรอบและเอาผ้าเทปที่แปะจมูกออก

ส่วนตัวเราไม่ค่อยซีเรียสกับอาการบวมหรือรูปทรงค่ะเพราะไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่พอเอาเฝือกออกเห็นทรงชัดเจน

รู้สึกหน้าเปลี่ยนไปเลย ตาแอบคมขึ้น จมูกพอเริ่มยุบแล้วหน้าตรงเริ่มเห็นสัน มีมิติ ด้านข้างจมูกเคิร์ฟสวย คุณหมอยังชอบเลยค่ะ

koreann13

พอปรึกษาเสร็จก็เข้าตู้ออกซิเจน เป็นคอร์สแถมฟรีที่คลินิกให้ นอนเล่นในตู้ 1 ชั่วโมงเต็ม รู้สึกสดชื่น

อากาศเย็นสบายๆ เกือบหลับไปเลยจ้าา

koreann14

หลังเข้าตู้เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดในวันถัดไปเลยค่ะ ปลายจมูกที่บวมตุ่ยๆ ยุบไปเยอะ และรอยแดงๆก็จางลงอย่างเห็นได้ชัด คุ้มค่ะ

koreann15

koreann16

koreann17

ตอนนี้จมูกประมาณ 1 เดือนกว่า เนื้อที่บวมเริ่มยุบตัวขึ้นเรื่อยๆ จมูกเริ่มเรียวเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

เพื่อนยังเห่อจมูกใหม่มากกว่าเราไปอีก – -“ ส่วนตัวเราตอนนี้พอใจกับจมูกและใบหน้าตัวเองแล้วนะ

คิดว่ากำลังดี เข้ากับหน้า ดูไม่หน้าพลาสติกเกินไป ต้องขอบคุณคุณหมอต้นเลยค่ะที่เปลี่ยนชีวิตหนู

พูดน้อยต่อยหนัก คุณภาพล้วนๆ เลยค่ะ คุ้มกับเงินที่เสียไปมาก และที่สำคัญเลยยยยยย ขอบคุณยัยเพื่อนตัวแสบ^^

koreann18

koreann19

ปล.ราคาที่เราทำ 23,000 บาทรวมค่ายาแล้ว

(ได้คอร์สเข้าตู้ออกซิเจนฟื้นฟูแผลให้หายไวด้วยหนึ่งคอร์สค่ะ) ไม่ต้องกลัวว่าบวมนาน คอนเฟิร์มเลย

ที่มา สมาชิก arepoo1412