พลังงาน แสงอาทิตย์ โซลาร์ โซลาร์รูฟท็อป โซล่าร์เซลล์

โซลาร์รูฟท็อปคืออะไร ? แต่ละรูปแบบ ทำงานต่างกันอย่างไร Sorarus มีคำตอบ

Home / เรื่องทั่วไป / โซลาร์รูฟท็อปคืออะไร ? แต่ละรูปแบบ ทำงานต่างกันอย่างไร Sorarus มีคำตอบ

โซลาร์รูฟท็อปเป็นเทรนด์ความยั่งยืนด้านพลังงาน ที่เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว โซลาร์รูฟท็อปยังถือเป็นสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับภาคธุรกิจและลดค่าใช้จ่ายระยะยาวสำหรับภาคครัวเรือนอีกด้วย แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่าโซลาร์รูฟท็อปนั้นมีมากกว่าหนึ่งรูปแบบ และแต่ละรูปแบบก็มีความแตกต่างกันอยู่ จะต่างกันอย่างไรบ้างนั้น ตามไปอ่านกันเลย

โซลาร์รูฟท็อป คืออะไร ?

โซลาร์รูฟท็อป แต่ละรูปแบบทำงานต่างกันอย่างไร

โซลาร์รูฟท็อปหรือโซลาเซลล์ เป็นระบบที่นำพลังงานของแสงอาทิตย์ มากักเก็บไว้เพื่อใช้เป็นพลังงานไฟฟ้า โซลาร์รูฟท็อปจึงมักถูกติดตั้งเอาไว้บนหลังคาหรือดาดฟ้า เพื่อให้ได้รับแสงแดดและกักเก็บพลังงานธรรมชาติได้โดยตรง ยิ่งโซลาร์รูฟท็อปเก็บพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ได้มากเท่าไหร่ มนุษย์ก็สามารถผลิตพลังงานได้เพียงพอต่อการใช้งานมากเท่านั้น

โซลาร์รูฟท็อป คืออะไร ?

ระบบโซลาร์รูฟท็อปมีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร

ระบบโซลาร์รูฟท็อปมีทั้งหมด 3 รูปแบบ ซึ่งมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน รวมไปถึงยังมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• ระบบออฟกริด (Off-grid)

เป็นระบบที่เก็บพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้า และสะสมเอาไว้ในแบตเตอร์รี่ เพื่อนำมาใช้ในภายหลัง เหมาะสำหรับการใช้เป็นไฟฟ้าสำหรับสำรองฉุกเฉิน เช่น กรณีไฟดับ เป็นต้น

• ระบบออนกริด (On Grid)

เป็นระบบที่เก็บพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าและใช้งานในทันที จะไม่มีการเก็บสำรองเอาไว้ มีข้อเสียคือ ถ้าหากต้องเผชิญกับสภาพอากาศฟ้าครึ้ม ฝนตก หรือวันที่มีแสงแดดน้อย ก็จะทำให้ไม่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้า ได้ตามที่ต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานในโฮมออฟฟิศ หรือสำนักงานขนาดเล็ก ๆ ที่ต้องทำงานที่ออฟฟิศในเวลากลางวัน เมื่อติดโซลาร์รูฟท็อปด้วยระบบออนกริด ก็จะทำให้สามารถประหยัดค่าไฟในเวลากลางวันได้จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

• ระบบไฮบริด (Hybrid)

สำหรับระบบไฮบริด เป็นการนำสองระบบข้างต้นที่กล่าวมามารวมกัน ซึ่งก็จะเป็นระบบที่สามารถเก็บพลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าและใช้งานได้ทันที รวมถึงยังมีเก็บสำรองเอาไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินได้ ดังนั้นจึงมีข้อดีตรงที่สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน หรือตลอดเวลาที่ต้องการใช้งานแม้จะไม่มีแสงอาทิตย์ก็ตาม

เป็นอย่างไรก็บ้างกับโซลาร์รูฟท็อปทั้ง 3 ระบบที่มีข้อดี และความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป โดยนอกจากความแตกต่างของทั้ง 3 ระบบแล้ว โซลาร์รูฟท็อปยังมีความน่าสนใจอื่น ๆ เพิ่มเติม ทั้งในภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรม ถ้าหากใครสนใจ ซึ่งสามารถปรึกษารายละเอียดกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง Sorarus ได้ที่ 02-551-2511-5, 02-551-2516 หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sorarus.com/solution/solar-pv-system

บทความแนะนำ