ในระหว่างที่พวกเราส่วนใหญ่ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” อยู่นี้ ทำให้เราได้มีเวลาหันมาใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น ผ่านพฤติกรรมในชีวิตประจำวันภายในบ้าน มาดูกันว่าเราสามารถเริ่มต้นดูแลสิ่งแวดล้อมได้ง่ายๆ ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี้ได้อย่างไรบ้าง – บทความ 5 วิธีดูแลสิ่งแวดล้อมง่ายๆ ทำได้ในชีวิตประจำวัน
5 วิธีดูแลสิ่งแวดล้อมง่ายๆ ทำได้ในชีวิตประจำวัน
1. ลดขยะจากภาชนะ และบรรจุภัณฑ์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากิจกรรมยอดฮิตช่วงกักตัวอยู่บ้านในวิกฤตการณ์โควิด-19 คงหนีไม่พ้นฟู้ดเดลิเวอรี ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือขยะจากภาชนะและพัสดุ
หนึ่งออร์เดอร์ของการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ อาจประกอบไปด้วยภาชนะมากมาย ทั้งกล่องพลาสติกใส่อาหาร ถุงพลาสติก ซองแยกน้ำจิ้ม และช้อน-ส้อมพลาสติก แต่เราสามารถลดการสั่งอาหารเดลิเวอรี่ ได้ด้วยการทำกับข้าวรับประทานเองที่บ้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ที่ช่วยลดจำนวนขยะจากกล่องใส่อาหารเดลิเวอรี่ แถมยังเป็นกิจกรรมในการสร้างช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันภายในครอบครัวให้ผ่อนคลายในช่วงกักตัวอยู่บ้านอีกด้วย หรือหากมีความจำเป็นต้องสั่งอาหาร ก็สามารถสั่งครั้งเดียวแต่สามารถรับประทานได้หลายมื้อ หรือปฏิเสธการรับช้อน-ส้อมพลาสติกจากร้านค้าได้
2. แยกประเภทของขยะ
การคัดแยกขยะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ขยะไม่ปนกัน และง่ายต่อการนำไปจัดการอย่างถูกต้องและรีไซเคิล นอกจากนี้ยังช่วยลดภาระให้กับพนักงานเก็บขยะ ที่นอกจากจะไม่ได้หยุดกักตัวอยู่บ้าน เฉกเช่นคนทั่วไป ซึ่งการปฏิบัติงานอาจทำให้เจ้าหน้าที่เก็บขยะมีความเสี่ยงสูง ในการติดเชื้อจากการจัดการขยะในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย
สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการแยกขยะออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
1) ขยะเปียก เช่น เศษอาหาร
2) ขยะย่อยสลายไม่ได้ เช่น กล่องโฟม และถุงพลาสติกปนเปื้อนอาหาร
3) ขยะรีไซเคิล เช่น กระดาษ ขวดแก้ว และขวดพลาสติก
และ 4) ขยะมีพิษ เช่น หน้ากากอนามัยที่ผ่านการใช้แล้ว และถ่านไฟฉาย เป็นต้น
3. Work from Home ลดมลพิษทางอากาศ
ในช่วงการระบาดของโควิด-19 หลายบริษัทให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from Home) ซึ่งทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่กำหนดเอง อีกทั้งยังส่งผลให้มลพิษทางอากาศที่สำคัญบางตัว อาทิ ไนโตรเจนไดออกไซด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้คุณภาพของอากาศดีขึ้นชัดเจน
4. ลดการใช้พลังงาน
การปิดและถอดสวิทช์เราเตอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน ตลอดจนการไม่เปิดตู้เย็นบ่อยเกินไป รวมถึงการตั้งอุณหูมิแอร์ให้อยู่ที่ 25-27 องศา ก็สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านลงได้
อีกวิธีหนึ่งคือ การใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายเหงื่อ และไม่ยับง่ายหลังซัก ก็จะช่วยให้เราอยู่บ้านได้อย่างสบายและไม่ต้องรีดผ้ามากนัก แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่งด้วย
5. ใช้น้ำอย่างรู้ค่า
ภัยแล้งก็เป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องของเมืองไทยในขณะนี้ เราทุกคนสามารถมีส่วนช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรน้ำได้ง่ายๆ เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวันเล็กๆ น้อยๆ เพียงท่องว่า “ฝักบัวดีกว่า ภาชนะดีกว่า ปิดดีกว่า”
ทุกครั้งที่เราใช้น้ำ “ฝักบัวดีกว่า” หมายถึง การอาบน้ำและรดน้ำต้นไม้ด้วยฝักบัว ประหยัดน้ำกว่าการอาบน้ำในอ่างหรือตักอาบ หรือการรดน้ำต้นไม้ด้วยสายยาง
ส่วน “ภาชนะดีกว่า” หมายถึงเราควรรองน้ำใส่ภาชนะเมื่อแปรงฟัน และล้างจานแทนการเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้
และสุดท้าย “ปิดดีกว่า” คือปิดก๊อกน้ำให้สนิททุกครั้งที่ไม่ใช้งาน รวมถึงสำรวจจุดรั่วไหลของน้ำตามจุดต่างๆ อยู่เสมอ หากเจอจุดน้ำรั่วก็จัดการซ่อมแซมให้เรียบร้อย จะช่วยประหยัดน้ำได้อีกมาก
ด้วย 5 วิธีง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็ทำให้การอยู่บ้านทั้งวันของเรา นอกจากจะช่วยชาติให้พ้นภัยโควิด-19 แล้ว ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี การทำงานไม่สะดุด รวมถึงรักษาสิ่งแวดล้อมอันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ฝากส่งท้าย
- การปลูกต้นไม้ภายในบ้าน นอกจากจะช่วยทำให้บ้านดูเย็นสบายขึ้นแล้ว ต้นไม้บางชนิดยังสามารถช่วยลดมลพิษในอากาศได้ด้วย เช่น ต้นปาล์มไผ่ ต้นเขียวหมื่นปี และต้นตีนตุ๊กแกฝรั่ง เป็นต้น
- ปรับเปลี่ยนจากการใช้กระดาษชำระ มาใช้ผ้าสำหรับทำความสะอาดแทน นอกจากจะลดความสิ้นเปลืองลดขยะแล้ว ยังลดค่าใช้จ่ายได้ด้วย
- การนำวัสดุสิ้นเปลืองบางอย่างกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) เช่น ขวดแก้วใส่น้ำต่างๆ เมื่อดื่มน้ำหมดแล้ว ขวดแก้วยังสามารถนำมา recycle ใส่เครื่องปรุง/น้ำอื่นๆ หรือทำเป็นแจกันดอกไม้ต่อได้อีก เป็นต้น
- น้ำส้มสายชูมีประโยชน์มากกว่าการปรุงแต่งเสริมรสเปรี้ยวให้กับอาหาร โดยสามารถใช้ทำความสะอาดสิ่งต่างๆ ได้ เช่น ใช้เช็ดกระจก หรือ ขัดพื้น/ห้องน้ำ เป็นต้น หากกลัวกลิ่นฉุน สามารถนำน้ำมันหอมระเหยกลิ่นต่างๆ ผสมลงไปเล็กน้อยตามใจชอบ เท่านี้ก็มีน้ำยาเอนกประสงค์แสนประหยัดไว้ใช้ได้แล้ว
ที่มา True , scglogistics.co.th