ดวงจันทร์ ดาราศาสตร์ ปรากฏการณ์ ปี 2019

ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2019

Home / เรื่องทั่วไป / ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2019

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เปิดเผยปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2019 และชวนเพื่อนๆ ที่สนใจร่วมเฝ้าชมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นภายในปี 2019 ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์

โดยส่วนใหญ่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2019 มักจะเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ ซึ่งถือเป็นความบังเอิญก็ว่าได้เพราะในปีนี้เป็นการครบรอบ 50 ปี ของการไปเยือนดวงจันทร์เช่นกัน ตลอดทั้งปี 2019 จะมีปรากฏการณ์ใดเกิดขึ้นบ้างไปชมกันเลยค่ะ

ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก (Super Full Moon)
ภาพโดย : ศุภฤกษ์ คฤหานนท์

ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลก (Super Full Moon)

สำหรับปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกในปีนี้ เกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน ได้แก่

ครั้งที่ 1 วันที่ 21 มกราคม 2562
ครั้งที่ 2 วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562
ครั้งที่ 3 วันที่ 21 มีนาคม 2562

โดยครั้งที่ “ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี” ตรงกับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งดวงจันทร์จะมีระยะทางห่างจากโลกประมาณ 365,836 กิโลเมตร ทำให้เราสามารถเห็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่กว่าดวงจันทร์เต็มดวงปกติ ประมาณ 6.3 เปอร์เซนต์ สามารถสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 18.10 น. ทางทิศตะวันออก

เกร็ดน่ารู้เรื่อง ดวงจันทร์เต็มดวง

การเกิดปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงมีชื่อเรียกหลายแบบ ตามระยะห่างระหว่างโลกและดวงจันทร์ สามารถจำแนกได้ดังนี้

– ดวงจันทร์เต็มดวงแบบ ปกติ ดวงจันทร์มีระยะห่างจากศูนย์กลางโลกเฉลี่ย 382,000 กิโลเมตร

– ดวงจันทร์เต็มดวงแบบ Super Moon คือการที่ดวงจันทร์มีระยะห่างจากศูนย์กลางโลกตั้งแต่ 360,000 กิโลเมตรลงไป

– ดวงจันทร์เต็มดวงแบบ Micro Moon หรือดวงจันทร์ไกลโลกมากที่สุด คือการที่ดวงจันทร์มีระยะห่างจากศูนย์กลางโลกตั้งแต่ 400,000 กิโลเมตรขึ้นไป

ฝนดาวตก (Meteor shower)
ภาพโดย : ศุภฤกษ์ คฤหานนท์

ฝนดาวตก (Meteor shower)

ปรากฏการณ์ฝนดาวตกมีให้ชมตลอดทั้งปี 2019 แต่ที่น่าสนใจนั่นคือ “ฝนดาวตกควอดรานติดส์ ฝนดาวตกอีต้า-อควอริดส์ และฝนดาวตกเดลต้า- อควอริดส์” เนื่องจากช่วงวันที่เกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกนั้น จะไม่มีแสงจากดวงจันทร์รบกวน โดยมีช่วงเวลาในการสังเกตดังนี้

ฝนดาวตกควอดรานติดส์ : 3-4 มกราคม (เฉลี่ย 120 ดวงต่อชั่วโมง) สังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.30 น. เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้าของวันที่ 4 มกราคม

ฝนดาวตกอีต้า-อควอริดส์ : 6-7 พฤษภาคม (เฉลี่ย 50 ดวงต่อชั่วโมง) สังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งมีอัตราการตก 50 ดวงต่อชั่วโมง

ฝนดาวตกเดลต้า- อควอริดส์ : 30-31 กรกฎาคม (เฉลี่ย 25 ดวงต่อชั่วโมง) สังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น. เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้าวันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งมีอัตราการตก 25 ดวงต่อชั่วโมง

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Lunar Eclipse)

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วน (Partial Lunar Eclipse) : 17 กรกฎาคม 2562

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วน เกิดขึ้นในวันที่ 17 กรกฎาคม สามารถสังเกตได้ทุกภูมิภาคของไทย ตั้งแต่เวลาประมาณ 01.44 – 06.00 น. จะสังเกตเห็นดวงจันทร์เต็มดวงค่อยๆ เว้าแหว่งไปทีละน้อย โดยเงาโลกบังมากที่สุดประมาณร้อยละ 65 ของเส้นผ่านศูนย์กลางดวงจันทร์ ในเวลาประมาณ 04.30 น.

เกร็ดน่ารู้เรื่อง จันทรุปราคาบางส่วน

ปรากฏการณ์จันทรุปราคาเกิดจากดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน มีโลกอยู่กลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ หากดวงจันทร์โคจรเข้าไปในเงามืดของโลกแค่บางส่วน เรียกว่า “จันทรุปราคาบางส่วน” โดยปรากฏการณ์นี้ นอกจากจะถ่ายรูปเพื่อเป็นที่ระลึกแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ในการหาขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางโลกได้อีกด้วย

ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลก (Micro Moon)

ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลก (Micro Moon) : 14 กันยายน 2562

ปรากฏการณ์ไมโครมูน (Micro Moon) เป็นวันที่ “ดวงจันทร์เต็มดวงและโคจรอยู่ห่างจากโลกที่สุด” ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 กันยายน 2562 โดยมีระยะห่างจากโลกถึงดวงจันทร์ประมาณ 406,365 กิโลเมตร ทำให้ในคืนดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงปรากฏขนาดเล็กที่สุดในรอบปี ซึ่งหากเปรียบเทียบขนาดของดวงจันทร์เต็มดวง ขณะโคจรมาใกล้โลกกับไกลโลกที่สุด ช่วงไกลโลกที่สุดจะมีขนาดเล็กกว่าประมาณ 14% และมีความสว่างน้อยกว่าถึง 30%

ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Solar Eclipse)

ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วน (Partial Solar Eclipse) : 26 ธันวาคม 2562

ปรากฏการณ์สุริยุปราคาบางส่วน จะเกิดขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคม 2562 สามารถสังเกตได้ทุกภูมิภาคของไทย ตั้งแต่เวลาประมาณ 10:18 – 13:57 น. ดวงอาทิตย์ถูกบังมากที่สุดบริเวณภาคใต้ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ประมาณร้อยละ 81

ซึ่งในการถ่ายภาพปรากฏการณ์ครั้งนี้ ถึงแม้ว่าดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บังมากถึงร้อยละ 81 แต่แสงสว่างของดวงอาทิตย์ก็ยังมีความเข้มสูง จึงจำเป็นต้องถ่ายภาพผ่านแผ่นกรองแสงดวงอาทิตย์ เช่น แผ่นไมล่า หรือ เป็นวัสดุโพลีเมอร์สีดำ ซึ่งจะทำให้แสงของดวงอาทิตย์เป็นสีแดงอมส้ม

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก narit.or.th

บทความแนะนำ