สำหรับใครที่ไม่ชอบความธรรมดา เราขอแนะนำ 5 สถานที่ท่องเที่ยว ที่มีสภาพอากาศแบบสุดขั้ว ไม่ว่าจะหนาวสุด ร้อนสุด หรือฝนชุกสุด อาจจะไม่ใช่ที่ที่เป็นที่สุดในโลก แต่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา ลองไปดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง ถ้าได้ไปเยือนที่เหล่านี้ บอกได้เลยว่าไม่มันก็ทรมาน.. แต่รับรองว่าจำไปตลอดชีวิตแน่อน!
5 แลนด์มาร์ก ที่มีสภาพอากาศแบบสุดขั้ว
หมู่บ้านโอมยาคอน – รัสเซีย (Oymyakon)
Oymyakon เป็นภาษาท้องถิ่นของชาวไซบีเรีย มีความหมายว่า น้ำแข็งที่ไม่มีวันละลาย ได้ยินแบบนี้ก็เริ่มขนลุกกันแล้วใช่มั้ยล่ะ หมู่บ้านโอมยาคอนแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่หนาวที่สุดในโลก! อุณหภูมิต่ำสุดของหมู่บ้านแห่งนี้เคยอยู่ที่ -71.2 องศาเซลเซียส (มีการบันทึกไว้ในปี 1924) แต่ในปัจจุบัน อุณภูมิเฉลี่ยราว ๆ -50 องศาเซลเซียส
ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวที่นี่คือช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม ที่อุณหภูมิไม่เลวร้ายจนเกินไป แต่ถ้าใครอยากรู้ว่าหนาวที่สุดในโลกมันจะสักแค่ไหนกันเชียว ก็ไปช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ได้เลย แต่ถ้าให้แนะนำก็อย่าดีกว่า เพราะเคยหนาวจนปรอทวัดอุณหภูมิแตกกันมาแล้ว
เกาะคาไว – ฮาวาย
พูดถึงฮาวายคนส่วนใหญ่คงจะนึกถึงทะเล แต่จริง ๆ แล้ว หมู่เกาะฮาวายไม่ได้มีดีแค่ทะเล “เกาะคาไว” เป็นอีกหนึ่งจุดหมายของเหล่านักท่องเที่ยวที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติ เพราะขึ้นชื่อเรื่องป่าฝนที่ชุ่มฉ่ำ โดยเฉพาะบริเวณภูเขา Waialeale ซึ่งเป็นจุดที่มีฝนตกมากที่สุดในโลก ซึ่งมีฝนตกเฉลี่ย 350 วันต่อปี เนื่องจากลักษณะของภูเขาเป็นรูปกรวยกลมและมีความสูงมาก ทำให้มีความชื้นสะสมอยู่มาก เขานี้มีไฮไลท์อยู่ที่ “กำแพงแห่งน้ำตา” (Wall of Tears) ที่มีน้ำตกหลายสายไหลลงมาจากบริเวณยอดเขาภายในเกาะจะล้อมรอบด้วยไปด้วยป่าเขียว ถ้ำ น้ำตกสวย ๆ มากมาย และมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ให้เลือกสนุกอีกเพียบ
ช่วงที่แนะนำคือช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่มีฝนน้อยที่สุด คุณจะได้สัมผัสกับเกาะคาไวช่วงที่สวยที่สุดในรอบปี
แอ่งดานาคิล – เอธิโอเปีย (The Danakil Depression)
แอ่งดานาคิล ตั้งอยู่ในทะเลทรายดานาคิล ประเทศเอธิโอเปีย เห็นภาพแล้วอาจจะดูสวยงามน่าไป แต่บอกเลยว่าโหดร้ายเอาเรื่อง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้ง พื้นมีแต่เกลือ และไม่มีพืชแม้แต่ต้นเดียว แถมยังมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น ชที่สำคัญที่นี่เป็นสถานที่ที่อุณหภูมิสูงที่สุดในโลก ที่คนสามารถไปเยือนได้ ด้วยอุณหภูมิกว่า 50 องศาเซลเซียส และสภาพอากาศที่แทบจะไม่มีฝนตกลงมาเลย แต่ถึงยังไงที่นี่ก็ยังมีคนอยู่ นั่นคือคนงานที่ทำเหมืองเกลือ ที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากมานานนับพันปี
ช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการไปเยือนที่นี่คือ ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ เพราะเป็นช่วงที่อุณหูมิต่ำลงมาหน่อย แต่ก็ยังร้อนพอที่จะทำให้เสื้อผ้าของคุณชุ่มไปด้วยเหงื่อ ใครที่คิดจะไปที่นี้ก็เตรียมร่างกายให้พร้อม แล้วอย่าลืมดื่มน้ำเยอะ ๆ ก็แล้วกัน
เมืองแบโรว์ – อลาสก้า
เมืองแบโรว์ ในอเมริกา เป็นหนึ่งในเมืองที่หนาวที่สุดในอลาสก้า มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับเขตขั้วโลกใต้ โดยเฉลี่ยที่ -20.1 องศาเซลเซียส และด้วยความที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมาก ทำให้คนไม่ค่อยนิยมไปกันมากนัก แต่ที่นี่ถือว่าเป็นอีกที่ที่เหมาะกับการล่าแสงเหนือ โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว เดือนพฤศจิกายน – มกราคมที่เมืองนี้ไม่มีกลางวัน ทำให้เจออาจจะเจอแสงเหนือได้ง่าย ๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความหนาวเย็นด้วยอุณหูมิติดลบราว ๆ -28 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
เมฆาลัย – อินเดีย
เมฆาลายา เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า เหนือเมฆ เพราะเป็นดินแดนที่อยู่สูง และมีพื้นที่เป็นภูเขาสูงเกือบทั้งหมดของรัฐ ที่สำคัญที่นี่เป็นหนึ่งในที่ที่มีฝนตกชุกที่สุดในโลกอีกด้วย ในช่วงมรสุมระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน จะเป็นช่วงที่มีฝนตกหนักแทบตลอดเวลา แต่ก็เป็นช่วงไฮซีซั่นของนักท่องเที่ยวที่อยากจะไปสัมผัสบรรยากาศความชุ่มฉ่ำด้วยเช่นกัน โดยบริเวณเฉพาะน้ำตกนอกาลิไก ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยงามที่สุดในโลกอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก: travelawaits
Written by: Typrn
บทความแนะนำ
- เรื่องที่ควรรู้ ก่อนไปเที่ยวไต้หวัน สำหรับมือใหม่ | ที่พัก การเดินทาง ที่เที่ยว
- เมืองจำลองสุดจิ๋ว แห่งแรกของไทย ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ถ่ายรูปเพลินมาก
- เคล็ดลับท่องเที่ยว เดินทางให้สนุก แนะนำวิธีเตรียมตัว ให้พร้อมท่องโลก
- คำศัพท์ที่เกี่ยวกับ สภาพอากาศ ฤดูกาลต่างๆ ภาษาอังกฤษ | Seasons and Weather
- 7 สถานที่แนะนำ ชมใบไม้เปลี่ยนสี ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
- 10 สถานที่ ที่ประหลาดที่สุดในโลก
- 11 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยว ที่ “อันตราย” ที่สุดในโลก!!
- 10 สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นปริศนาบันลือโลก