เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยคงไม่มีใครอยากมีปัญหารอบดวงตา เพราะดวงตาเป็นจุดสำคัญของใบหน้า ทำหน้าที่ในการมองเห็น ช่วยบ่งบอกสีหน้าและสื่อสารอารมณ์ ไปยังผู้คนรอบข้างและสิ่งต่างๆ หากมีเบ้าตาลึก ตาโหล ผิวหนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก ที่ทำให้เหมือนคนนอนไม่พอ ดูง่วงซึมตลอดเวลา แถมยังดูมีอายุมากกว่าวัยอันควร ก็ทำให้เวลามองตัวเองในกระจก หรือจะสบตากับใครก็คงรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ที่สำคัญปัญหารอบดวงตาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ยังอาจเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) อีกด้วย! สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ และสงสัยว่าตนเองกำลังมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ เป็นแล้วจะอันตรายไหม วันนี้เราจะพาทุกคนไปค้นหาคำตอบกันว่าภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง นั้นคืออะไร ถ้าเป็นแล้วจะรักษาอย่างไรดี ไปดูกัน!
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง หรือ Ptosis คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อตาของเรายืด ทำงานได้ไม่เต็มที่ ไม่สามารถพยุงหนังตาและชั้นตาของเราเอาไว้ได้ ส่งผลให้เราลืมตาได้ไม่สุด มีเปลือกตาตกและหย่อนคล้อยลงมาปิดพื้นที่ตาดำ หากเป็นทั้งสองข้าง ก็จะทำให้ตาปรือจนดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา แต่หากเป็นแค่ข้างเดียว ก็จะทำให้ดวงตาทั้งสองข้างไม่เท่ากัน เสียบุคลิกภาพ ดูไม่สวยงาม และนอกจากจะส่งผลต่อด้านบุคลิกภาพแล้ว บางรายยังมีปัญหาการมองเห็น ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันลำบากด้วย
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย บางรายอาจเป็นมาตั้งแต่กำเนิด บางรายเป็นตอนที่อายุมากขึ้น หรือเพิ่งมาเป็นภายหลัง เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ยกเปลือกตามีอาการหย่อนยาน หรือยืดจากการใช้งานบ่อย หรือเสียดสีกันเป็นเวลานานๆ เช่น ใส่คอนแท็กต์เลนส์ จ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เป็นเวลานาน นอนดึกติดต่อกันทุกวัน ขยี้ตาบ่อยๆ รวมไปถึงอาจเกิดอาการบาดเจ็บจากการผ่าตัดตาสองชั้นที่หลายคนคาดหวังอยากมีดวงตาที่สวยสดใส ซึ่งถ้าการผ่าตัดไม่ได้มาตรฐาน หรือพักฝื้นไม่ดีพอ ก็อาจเกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้เช่นเดียวกัน
อาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นอย่างไร อันตรายไหม?
หลังจากรู้ความหมายและสาเหตุเบื้องต้นของการเกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงกันไปแล้ว ต่อไปเราจะขอพาทุกคนไปเช็กอาการของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงว่าอาการมีอะไรบ้าง อันตรายมากน้อยขนาดไหน จะได้ไม่ชะล่าใจหากเกิดปัญหารอบดวงตาเหล่านี้ขึ้น ไปเช็กแต่ละอาการกันเลย
1. ดูเหมือนคนง่วงซึมตลอดเวลา ตาปรือ หนังตาตก
อาการเริ่มต้นของการมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คือ การมีดวงตาปรือและหนังตาตก ทำให้ดูเหมือนคนง่วงซึมตลอดเวลา แม้จะพยายามเบิกตาให้กว้าง ดวงตาก็ยังดูล้า ลืมตาไม่ค่อยขึ้นอยู่ดี ส่งผลต่อบุคลิกภาพโดยรวมอย่างชัดเจน ดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา ใบหน้าหม่นหมอง ทำให้กลายเป็นคนไม่มั่นใจในดวงตาและใบหน้าตัวเองได้ โดยอาการตาปรือนี้จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลกระทบต่อการมองเห็นได้ เช่น อาการตาเข อาการตาเหล่ แต่ยังไม่เป็นอันตรายถึงกับทำให้สูญเสียการมองเห็นไป
2. กล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรง หนังตาหย่อนคล้อยกว่าปกติ
ในกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีอายุ ชั้นหนังตาก็จะเกิดการหย่อนคล้อยลงมาด้วยตามวัย จึงทำให้แยกความแตกต่างระหว่างกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแบบปกติกับกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ยากกว่าปกติ และเมื่อไปเข้ารับการการรักษา อาจมีความเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงหนังตาหย่อนคล้อย และทำการรักษาโดยการตัดหนังตาออกเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้รักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้อาการของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นชัดมากขึ้น และการผ่าตัดอาจทำให้กล้ามเนื้อตาบาดเจ็บ รวมไปถึงอาการตาปรือ หนังหย่อนคล้อยมากกว่าเดิมได้
3. เลิกคิ้วสูงโดยไม่รู้ตัว
หลายๆ คนเมื่อลืมตาไม่ขึ้น ตาดูปรือมาก ทำให้ต้องพยายามเลิกคิ้วขึ้นสูงเพื่อยกเปลือกตาขึ้น และเมื่อทำบ่อยๆ ก็จะทำให้ติดเป็นนิสัย ติดเลิกคิ้วสูงโดยไม่รู้ตัว นอกจากจะเสียบุคลิกภาพแล้วยังส่งผลให้เกิดริ้วรอยต่างๆ บริเวณหน้าผากตามมา นอกจากนี้ยังทำให้เกร็งช่วงระหว่างคิ้วหรือกล้ามเนื้อขมับ จนทำให้มีอาการปวดหัวรุนแรงได้ด้วย
4. ตาขี้เกียจ (Lazy eyes) มองเห็นได้แค่ข้างเดียว
สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมาตั้งแต่เด็กๆ หรือเป็นมาแล้วตั้งแต่เกิด ดวงตาข้างหนึ่งจะไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเป็นเวลานาน และเกิดกลไกดวงตาที่อีกข้างหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้งานจะค่อยๆ สูญเสียการมองเห็นไป หรือที่เรียกกันว่า ตาขี้เกียจ (Lazy eyes) นั่นเอง ซึ่งในกรณีนี้ผู้เป็นควรต้องรีบรักษาโดยด่วน เพราะหากมีอาการแบบนี้ตั้งแต่เด็กๆ และปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป อาจไม่สามารถฟื้นฟูให้ดวงตากลับมาปกติครบทั้งสองข้างได้เลย
5. เบ้าตาลึกมาก
อีกอาการหนึ่งที่มักจะเกิดขึ้นร่วมกับกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คือการที่ไขมันมีการเสื่อมลงตามอายุที่มากขึ้น มักจะเป็นร่วมกับอาการตาปรือ หนังตาหย่อนคล้อย จึงทำให้เบ้าตาดูลึกกว่าปกติมาก ส่งผลต่อบุคลิกภาพ ใบหน้าโดยรวมดูโทรม ดูหม่นหมองได้ ดังนั้นเมื่อทำการรักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแล้ว จึงต้องมีการฟื้นฟูเติมไขมันที่เบ้าตาด้วยเพิ่มเติมด้วยนั่นเอง
รักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยการผ่าตัด
ใครที่เช็กอาการเบื้องต้นแล้วรู้สึกว่าตนเองเข้าข่ายมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอยู่ และกังวลว่าจะสามารถรักษาให้ดวงตากลับมาสวยสดใส มองเห็นได้ชัดเหมือนเดิมได้ไหม ปัจจุบันทางการแพทย์มีวิธีการรักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยวิธีการผ่าตัด ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษากับจักษุแพทย์เฉพาะทางรอบดวงตาโดยเฉพาะ Occuloplastic เท่านั้น เพราะอย่างที่เราทราบกันว่า กล้ามเนื้อตานั้นมีความบอบบางมากๆ และจะยิ่งบอบบางมากขึ้นไปอีกหากเป็นเคสที่ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิด โดยการผ่าตัดรักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะเป็นการผ่าตัดที่ใช้วิธีการเย็บตรึงกล้ามเนื้อตา เสริมให้กล้ามเนื้อตาแต่ละข้างมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น เพราะส่วนใหญ่แล้วกล้ามเนื้อตาจะหย่อนคล้อยไม่เท่ากัน
เทคนิคการผ่าตัดรักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอาจมีหลากหลายรูปแบบ แต่ส่วนของกล้ามเนื้อดวงตาที่แพทย์จะโฟกัสก็คือ การจัดการกับกล้ามเนื้อ Levator ที่อยู่ลึกลงไปในชั้นหนังตาของเรา โดยจะทำการเลาะหนังตาชั้นนี้ออกไป เย็บให้มีความแข็งแรง พร้อมผ่าตัดตกแต่งให้ดวงตาและผิวหนังรอบดวงตากลับมาเหมือนเดิมมากที่สุด โดยบางรายอาจเลือกจะทำตาสองชั้นควบคู่ไปด้วย เพื่อเปลี่ยนดวงตาที่ปรือ ให้กลับมากลมโตสดใส เพิ่มความมั่นใจให้กับดวงตามากขึ้นด้วยนั่นเอง
โดยภาพรวมของอาการภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้น แม้จะยังไม่เป็นอันตรายถึงกับทำให้สูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดไป แต่ก็ส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพและการใช้ชีวิตประจำวันในระยะยาว เนื่องจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นจะทำให้ตาปรือ ดูง่วงนอนตลอดเวลา หนังตาหย่อนคล้อย เบ้าตาลึก บางรายอาจเกิดอาการตาเข ตาเหล่ มองเห็นได้ไม่ชัด หรือต้องปวดหัวเพราะต้องคอยเลิกคิ้วตลอดเวลา รวมไปถึงการมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่เด็กหรือตั้งแต่กำเนิด ยังก่อให้เกิดโรคตาขี้เกียจ ดวงตาไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทั้งสองข้างด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวกับการมองเห็นและกระทบการใช้ชีวิตประจำวันอย่างชัดเจน ใครที่กำลังเผชิญกับกล้ามเนื้อตาออ่อนแรงอยู่จึงไม่ควรละเลยและควรเข้ารับการรักษา ปรึกษากับจักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยด่วน
สำหรับใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอยู่ และต้องการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดจากจักษุแพทย์เฉพาะทางรอบดวงตา Occuloplastic สามารถนัดหมายและปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Jarem Clinic คลินิกศัลยกรรมตกแต่งที่มีจักษุแพทย์ผู้ชำนาญการ ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาดวงตาและชั้นตาอย่างลึกซึ้ง เราพร้อมให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอย่างตรงจุด พร้อมกับเครื่องมือที่สะอาด ปลอดภัย และทันสมัย พร้อมช่วยแก้ไขปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ปัญหาตาปรือ หนังตาหย่อนคล้อย หนังตาตก ให้กลับมามีดวงตาที่สวยสดใสอีกครั้ง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Jarem Clinic
Tel: 091-782-0606
Line: @jaremclinic
Facebook | Instagram: Jarem Clinic