ธุรกิจแฟรนไซส์ เป็นธุรกิจที่เจ้าของลิขสิทธิสินค้านั้นๆ อนุญาตให้ผู้รับลิขสิทธิดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อสินค้านั้น ได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งเป็นธุรกิจได้รับความนิยมและที่เผยแพร่ไปทั่วโลก ตัวอย่างธุรกิจแฟรนไซส์ที่เป็นที่รู้จักกันดี เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น เคเอฟซี เป็นต้น
ธุรกิจแฟรนไชส์ ระดับโลก
และในปี 2017 เว็บไซต์ entrepreneur.com ได้ทำการจัดอันดับธุรกิจที่เติบโตมากที่สุดประจำปี โดยวัดจากปัจจัยต่างๆ อาทิ การเจริญเติบโต ความมั่นคงทางการเงิน และข้อมูลอื่นๆ รวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจในแต่ละปี วันนี้ แคมปัส-สตาร์ นำ 10 อันดับธุรกิจแฟรนไซส์ ที่เติบโตมากที่สุดในปี 2017 มาให้ชมกัน จะมีธุรกิจใดบ้างนั้น ไปดูกันเลย
10. RE/MAX LLC
บริษัทชั้นนำจากอเมริกา ที่ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในระดับนานาชาติ ที่ดำเนินงานมาถึง 40 ปี มีสาขามากกว่า 8,000 สาขา ใน 90 ประเทศทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทย มีระบบเทคโนโลยีเครือข่ายสารสนเทศที่สามารถเข้าถึงข้อมูลอสังหาริมทรัพย์จากเครือข่ายทั่วโลกที่เข้าร่วมมากกว่า 700,000 รายการ
เงินลงทุน : $37,500 – $225,000 (ประมาณ 1.2 – 7.3 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
9. Sport Clips
ธุรกิจตัดผม ที่ทำให้การตัดผมไม่น่าเบื่ออีกต่อไป แต่จะให้ความเพลิดเพลิน จากการนวดศรีษะ คอ และไหล่ ทำให้คุณผ่อนคลาย รู้สึกเหมือนเป็นคนใหม่ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น
เงินลงทุน : $189,300 – $354,500 (ประมาณ 6.2 – 11 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
8. Wingstop Restaurants Inc.
ธุรกิจขายปีกไก่ปรุงรส เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1994 และเข้าเป็นธุรกิจแฟรนไซส์เมื่อปี 1997 ธุรกิจเติบโตอย่างมาก ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมร้านอาหาร
เงินลงทุน : $346,775 – $733,249 (ประมาณ 11 – 24 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
7. Ace Hardware Corp.
ธุรกิจฮาร์ดแวร์รายใหญ่ที่สุดในอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี 1924 เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และในปี 2016 ขยายสาขามากกว่า 4,800 แห่ง ใน 16 ประเทศทั่วโลก
เงินลงทุน : $272,500 – $1,561,500 (ประมาณ 8.9 – 51 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
6. Dairy Queen
ไม่มีใครไม่รู้จักไอศกรีมแดรี่ควีน มีจุดเริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ในเมืองโจเล็ท มลรัฐอิลินอย เปิดบริการในปี 1940 และในปัจจุบันมีกว่า 6,000 ร้านในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และอีกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ไอศกรีมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เงินลงทุน : $1,083,525 – $1,850,425 (ประมาณ 35 – 60 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
5. Jimmy John’s Gourmet Sandwiches
ร้านแซนวิชที่ก่อตั้งโดย Jimmy John Liautaud ในปี 1983 ในช่วงระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจเติบโตขึ้นและขยายสาขามากกว่า 2,500 แห่งในสหรัฐอเมริกา
เงินลงทุน : $329,500 – $557,500 (ประมาณ 10 – 18 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
4. The UPS Store
ธุรกิจจัดส่ง ที่มีสาขาเกือบทุกประเทศทั่วโลก ให้บริการอย่างมืออาชีพ เกี่ยวกับการพิมพ์ การบรรจุ การจัดส่งจดหมาย สินค้า หรือพัสดุ
เงินลงทุน : $177,955 – $402,595 (ประมาณ 5.8 – 13 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
3. Dunkin’ Donuts
ธุรกิจโดนัทชื่อดัง เริ่มก่อตั้งในปี 1946 โดย วิลเลี่ยม โรเซนเบิร์ก และในปี 1979 ได้ขยายสาขากว่า 1,000 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงมีการเปิดสาขาและแฟรนไซส์ออกไปทั่วโลก ปัจจุบัน ดังกิ้นโดนัท นับเป็นธุรกิจร้านกาแฟที่มียอดจำหน่ายกาแฟ ในแต่ละสาขาทั่วโลกจำนวนกว่า 2 พันล้านถ้วยต่อปี
เงินลงทุน : $228,620 – $1,691,200 (ประมาณ 7.4 – 55 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
2. McDonald’s
ธุรกิจร้านอาหารจานด่วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก แมคโดนัลด์ก่อตั้งเมื่อปี 1948 โดยพี่น้องดิ๊ก และเริ่มนำระบบการบริการอย่างรวดเร็วเข้ามาใช้ ภายหลังได้ขายกิจการให้กับ นายเรย์มอนด์ แอลเบิร์ต คร็อก เพื่อนำไปขยายสาขา และเป็นต้นกำเนิดของร้านอาหารแบบฟาสต์ฟู้ดตั้ง ปัจจุบันแมคโดนัลด์มีสาขากว่า 30,000 สาขาใน 121 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย
เงินลงทุน : $1,008,000 – $2,214,080 (ประมาณ 33 – 72 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
1. 7-Eleven Inc.
เซเว่น-อีเลฟเว่น ถือกำเนิดขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2470 ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส สหรัฐ ในระยะแรก เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 07.00-23.00 น. ของทุกวัน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ เซเว่น อีเลฟเว่น ปัจจุบัน ในประเทศไทย เซเว่นอีเลฟเว่น มีมากกว่า 8,000 สาขา โดยประเทศไทยมีสาขามากเป็นอันดับ 4 รองจาก เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นตามลำดับ
เงินลงทุน : $ 37,550 – $ 1,149,900 (ประมาณ 1.2 – 37.6 ล้านบาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก entrepreneur.com, wegointer.com