วันหยุดยาว คือสิ่งที่คุณรู้สึกเหมือนได้รับพรจากสวรรค์ เพราะคุณจะได้ไม่ต้องรีบลุก ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องเปลี่ยนชุด ไม่ต้องอาบน้ำ ไม่ต้องสระผม ไม่ต้องรีบลุก (เฮ้! อะ มาเป็นเพลง) แต่สิ่งหนึ่งที่ร่างกายต้องเรียกร้องแน่ ๆ นั่นก็คือ ความหิว และการจะลุกขึ้นมาทำอาหารกินเองก็ดูจะเป็นเรื่องลำบากซะเหลือเกิน!
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะนี่มันยุคไหนกันแล้ว!!! ลืมไปเลยเถอะกับความลำบากในการเดินทางฝ่าแดดร้อน รถติด ต่อคิวยาว ในการออกไปซื้ออาหารน่ะ เพราะสามารถสั่งผ่านแอพพลิเคชั่นได้แล้ว จะกินเมนูสุดฮิตตามรอยมิชลิน ร้านเด็ดร้านดังอยู่ไกลจากบ้านกี่กิโลเมตรก็ได้กิน เอาล่ะเข้าเรื่อง เราขอแนะนำ 6 แอพเดลิเวอรี่ ส่งอาหารถึงบ้าน ตัวช่วยวันหยุดยาว สำหรับคนที่มีแพลนอยู่บ้าน ให้แล้วกัน
คือดี รอกินอย่างเดียว 6 แอพเดลิเวอรี่ ส่งอาหารถึงบ้าน
1. LineMan
นอกจาก Line จะไว้ใช้แชทแล้ว ยังมีในส่วนบริการ LineMan ด้วยค่ะทุกคน มีทั้งเมสเซนเจอร์ ส่งของไปรษณีย์ เรียกแท็กซี่ สั่งซื้อของจากร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ รวมไปจนถึงการสั่งซื้ออาหารจากหลากหลายเมนู หลากหลายร้านดัง โดยในส่วนของร้านอาหารนี้เขาก็ได้ร่วมกับทาง Wongnai เว็บไซต์ที่รีวิวร้านของกินเด็ดๆ เพียบ เพื่อน ๆ ไม่ต้องสมัครแอคเคานต์ใหม่ ใช้แอคเคานต์ไลน์ที่มีอยู่นั่นแหละเข้าไปสั่งอาหารได้เลย
วิธีการสั่งก็ไม่ยุ่งยาก แบ่งหมวดหมู่ไว้อย่างชัดเจน มีทั้งร้านใกล้บ้าน ร้านยอดนิยม ประเภทอาหารก็แบ่งไว้หลากหลาย มีทั้งร้านในห้างสรรพสินค้า และร้านดังทั่ว ๆ ไป เช่น ร้านกาแฟ อาหารไทย ฟาสต์ฟู้ด อาหารญี่ปุ่น ชานมไข่มุกก็มี!!! แต่ค่าสั่งจะมีเรทสูงกว่าเจ้าอื่น ๆ อยู่นะ แต่เขาจะชอบมีโค้ดส่วนลดให้บ่อย ๆ ตอนก่อนจะจ่ายเงินจะมีช่องให้กรอกโค้ดลงไป อย่าลืมเช็คกันก่อนนะคะจะได้ไม่พลาด หรือสามารถอัปเดตได้ที่เพจเฟสบุ๊ก >> facebook.com/linemanth
ดาวน์โหลดแอพ Google Play : คลิก , iOS : คลิก
2. Foodpanda
จุดเด่นของแอพนี้คือ โปรฯ ค่าส่ง 40บาท ไม่มีบวกเพิ่ม ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้งหากสงสัยอะไรสามารถสอบถามไปที่ live chat เลยค่ะ แอดมินตอบรวดเร็วใช้ได้เลย ในส่วนของการสั่งอาหารก็ไม่ยากอะไร มีประเภทของอาหารแยกออกมาหลากหลาย มีฟังก์ชั่นตัวกรองด่วน เช่น ส่งฟรี (ร้านที่ส่งฟรี), มีส่วนลด, รับส่วนลด มีเรทราคาให้เลือก ร้านอาหารส่งถึงเที่ยงคืน เป็นต้น
ซึ่งถ้าเลือกในตัวกรองแอพจะทำการคัดเลือกร้านที่มีคุณสมบัติตามที่เราต้องการออกมาให้ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาสั่งอาหารล่วงหน้าได้ เปิดบริการ 24 ชม. แต่ข้อเสียคือ ร้านอาหารในบางเขตอาจจะไม่ค่อยเยอะเท่าไร เมื่อเทียบกับแอพพลิเคชั่นอื่น
ดาวน์โหลดแอพ Google Play : คลิก , iOS : คลิก
3. Grab Food
น่าจะเป็นที่รู้จักกันมากอยู่แล้ว สำหรับแอพพลิเคชั่น Grab เพราะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่เริ่มบริการเดลิเวอรี่ มีทั้งรับขนส่งของ และบริการส่งอาหาร ข้อดีของแอพนี้คือ มีร้านอาหารหลากหลาย แบ่งหมวดให้เลือก อาทิ ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว อาหารญี่ปุ่น สตรีทฟู๊ด รวมไปจนถึงของหวานยอดฮิตอย่าง ชาไข่มุก แยกออกมาเลย นอกจากนี้แต่ละร้านยังมีบอกระยะทางและคำนวณระยะเวลาในการส่งอาหารมาให้ด้วย
ยังอีกบริการคือ ของใช้ทั่วไป ในกรณีที่อยากทำอาหารเองก็สามารถกดเข้าไปสั่งซื้อได้ มีสโตร์ใกล้ ๆ บ้านให้เลือกซื้อของสด ของใช้ได้ เช่น Gourmet Market, Big C, HomeFresh Mart เป็นต้น ค่าส่งจะคิดตามระยะทางเริ่มต้นที่ 10 บาท ก็ถือว่าไม่แรงมาก
ดาวน์โหลดแอพ Google Play : คลิก , iOS : คลิก
4. Indie Dish
วันนี้จะรับอาหารสุขภาพสไตล์ไหนดีคะ เดลิเวอรี่สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ เข้าไปก็เลือกที่จะให้จัดส่ง แอพก็จะโชว์เมนูเป็นภาพถ่ายสวย ๆ ขึ้นมาให้เลือก พร้อมบอกจำนวนแคลฯ มาให้เสร็จสรรพ ถ้าคลิกเข้าไปดูรายละเอียดในแต่ละเมนูก็จะยิ่งเจอรายละเอียดมากกว่าแคลฯ คือมีบอกทั้ง Protein, Fat และ Carb และคุณยังสามารถเลือกวันจัดส่งได้ล่วงหน้าด้วย ส่วนค่าจัดส่งคิดตามระยะทาง เช็กค่าส่งโดยใส่ที่อยุ่ของคุณลงไป ส่งได้ทุกที่ในกรุงเทพและปริมณฑล ในส่วนของโปรโมชั่นก็มีส่งฟรีอยู่ ซึ่งจะมีเซคชั่นที่แยกออกมาให้เห็นชัดเจน เขามีกำหนดในการส่งให้บริการทุกวัน 09.00-16.00 น. เท่านั้นนะจ๊ะ!
ดาวน์โหลดแอพ Google Play : คลิก , iOS : คลิก
5. Honestbee
หากในวันหยุดยาวอาจจะมีสักวันที่คุณอยากจะลงมือทำอาหาร แต่ก็ยังรู้สึกไม่อยากออกไปซื้อวัตถุดิบเอง แนะนำแอพนี้เลย Honestbee (ออนเนสบี) แหล่งรวม ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าในแอปฯ ที่จะให้คุณเลือกซื้อวัตถุดิบในการมาทำอาหารได้อย่างสบาย ๆ อาทิ K Market, Wine Connection, Villa Market และ Chabaa เป็นต้น ถ้ามียอดสั่งซื้อเกิน 690 บาท ส่งฟรีด้วย และคุณยังสามารถสั่งซื้อจากหลายร้านได้พร้อมกัน จัดส่งเร็วภายใน 1 ชั่วโมง (เฉพาะในกรุงเทพฯ นะ)
ดาวน์โหลดแอพ Google Play : คลิก , iOS : คลิก
6. GET
เป็นแอพน้องใหม่สุดในบรรดาแอพทั้งหมดที่กล่าวมา เขาประสบความสำเร็จมาแล้วจาก อินโดนีเซีย และที่เวียดนาม (Go-Jek) และขยายตลาดมาเปิดบริการที่ไทยในชื่อ GET มีบริการที่ครอบคลุม มีทั้ง GET (เก็ท) แอพพลิเคชั่นเรียกรถ(GET WIN), ส่งของ (GET DELIVERY), สั่งอาหาร (GET FOOD) ในส่วนการสั่งอาหารมีหมวดหมู่แบ่งออกมา คล้าย ๆ กับแอพอื่น แต่ที่น่าสนใจคือมีหมวดตามรอยมิชลิน และยังมีการตั้งชื่อหมวดอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ เช่น แก๊งเสียบไม้, ไส้ทะลัก, คนรักชีส เป็นต้น
ดาวน์โหลดแอพ Google Play : คลิก , iOS : คลิก
และนี่ก็เป็น แอพสั่งอาหาร ที่ทางเรารวบรวมมาให้เพื่อน ๆ สำหรับช่วงวันหยุดยาวนะคะ อากาศร้อน ๆ แบบนี้ ถ้าไม่อยากออกไปไหน รออยู่บ้านแล้วให้ของอร่อย ๆ มาส่งถึงที่ได้เลยสบาย ๆ จะมีก็ในส่วนของค่าจัดส่ง และโปรโมชั่น ก่อนที่จะคลิกสั่งซื้อ เพื่อน ๆ ลองติดตาม แล้วตัดสินใจกันได้เลยนะคะ ขอให้อร่อยกับทุกเมนูที่สั่งไปกันน้าาา ^_^
บทความแนะนำ
