ฆาตกรรม ซีอุย ระทึกขวัญ เรื่องจริง

เปิดตำนานสยอง ซีอุย | มนุษย์กินตับคน

Home / เรื่องทั่วไป / เปิดตำนานสยอง ซีอุย | มนุษย์กินตับคน

ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของซีอุย ฆาตรกรต่อเนื่องที่ฆ่าเด็กอย่างเหี้ยมโหด พร้อมกับควักหัวใจออกมาหิน  กลายเป็นตำนานที่สร้างความหวาดผวาให้กับสังคมไทยมาตลอด ซึ่งแม้แต่ในปัจจุบันก็ยังได้ยินเรื่องราวของซีอุยอยู่เรื่อยๆ และความโหดเหี้ยมของซีอุยนี้เอง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถูกหยิบมา สร้างเป็นละครโทรทัศน์และภาพยนต์ไทยหลายครั้ง ซึ่งบางครั้งก็ได้ตอกย้ำภาพความน่ากลัวของชายจีนรูปร่างผอมเกร็ง มีมีดสั้นเป็นอาวุธที่ใช้กระชากวิญญาณเหยื่อที่ไม่มีทางสู้ และต้องกินหัวใจของมนุษย์ทุกครั้งที่รู้สึกมีความต้องการ นั่นคือสิ่งที่คนไทยและสังคมไทยรับรู้มาตลอด…

ซีอุย มนุษย์กินคน

แต่สำหรับ ซีอุย ที่แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส สร้างนั้น ไม่ได้ต้องการให้เกิดภาพและความเข้าใจซีอุยในแบบเดิม ความตั้งใจที่นิดา สุทัศน์ ณ อยุธยา, บุรณี รัชไชยบุญ ในฐานะผู้กำกับการแสดงภาพยนต์เรื่องนี้ตั้งใจนำเสนอคือ การตั้งคำถามกับเรื่องราวของซีอุย ว่าความเหี้ยมโหดของซีอุยเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร และทำไมซีอุยต้องฆ่าเด็ก หรือเพราะความเชื่อผิดๆ บางครั้งทำให้คนดีคนหนึ่งต้องกลายเป็นฆาตรกร โดยไม่รู้ตัว ทั้งหมดเป็นการตีความใหม่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสังคมไทย กับความเชื่อที่ว่า ซีอุยเป็น  มนุษย์กินคนที่อยู่ในความรู้สึกคนไทยมากกว่า 40 ปี

สิ่งเหล่านี้ผู้กำกับฯ ทั้งสองพยายามเล่าเรื่องและบอกว่า เรื่องราวความโหดเหี้ยมของซีอุย อาจจะเป็นประเด็นที่น่ากลัวของสังคมในยุคหนึ่ง แต่ในปัจจุบัน ความโหดร้ายจากการที่เด็กถูกกระทำและเป็นเหยื่ออาชญากรรมนั้น ยังคงดำรงอยู่ แลอาจจะน่ากลัว กว่าเรื่องราวของซีอุยหลายเท่า เพียงแต่สังคมชินชา กับความโหดร้ายดังกล่าวจนไม่รู้สึกว่า เป้นเรื่องน่ากลัวแต่อย่างใด

ซีอุย เป็นภาพยนต์เรื่องแรกของ บริษัท แม็ทชิ่ง โมชั่น พิคเจอร์ส จำกัด ใช้งบประมาณในการสร้างกว่า 45 ล้านบาท ใช้เวลาถ่ายทำประมาณ 5 เดือน และคาดว่าจะออกฉายประมาณปลายเดือนกันยายน 2547

ผวา ซีอุย !! กลับมากินตับคนอีกครั้ง

ซีอุยฆาตรกรโหดที่ถูกเล่าขานเป็นตำนานมากกว่า 40 ปี ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมไทยอีกครั้ง ถึงพฤติกรรมของเขาที่ลงมือฆ่าเหยื่ออย่างโหดร้ายวิปริตผิดมนุษย์ ด้วยการควักเอาเครื่องใน ตับ หัวใจ เพื่อนำมากินนัยว่า อวัยวะมนุษย์เป็นยาอายุวัฒนะที่วิเศษสุดๆ จาก หลักฐานที่ได้มีการสืบสวนของตำรวจและคำให้การของซีอุย ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาประหารชีวิตของเขาพบว่า ซีอุยมักจะใช้วิธีการ ฆ่าเหยื่ออย่างบ้าคลั่ง การกระทำเช่นนั้นน่าจะมีสาเหตุมาจากความกดดัน หรือถูกบีบบังคับให้เขาลงมืออย่างแน่นอน

ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง คือ การฆาตรกรรมเด็กที่เกิดขึ้นมีเวลาใกล้เคียงกันเพียงชั่วข้ามคืนหรือคืนเดียวกัน ทว่าสถานที่เกิดเหตุต่างหรือห่างไกลกัน สื่อมวลชนในยุคนั้นตั้งคำถามว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นฝีมือของคนหรือของผีกันแน่  ในเวลาต่อมามีผู้ที่สนใจศึกษาชีวิตของซีอุย พบว่า หลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจสืบสวน สอบสวน มีความขัดแย้งกับความเป็นจริงอยู่มาก หลายคนตั้งคำถามอย่างเจ็บปวดว่า ซีอุยเป็นฆาตรกรตัวจริง หรือว่าเป็นเพียงแพะรับบาป เพราะหากซีอุยได้ลงมือกระทำเองทั้งหมดในสถานที่ห่างกันแต่อยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นเขาก็น่าจะเป็นคนที่ล่องหนหายตัวได้แน่ๆ

ประเด็นที่ชวนให้ขบคิดมากไปกว่านั้นก็คือ เมื่อซีอุยจบชีวิตลงแล้ว การฆาตรกรรมเด็กเพื่อควักกินตับ หัวใจ เครื่องใน ยังคงมีอยู่และยังต่อเนื่องมาจนถึงสังคมปัจจุบันในวันนี้ นั่นก็หมายความว่า ผีห่าซาตานที่เคยสิงร่างซีอุยได้ย้ายไปสิงสถิตในร่างของคนต่อไปเรื่อยๆ ตราบใดที่สังคมยังบ้าคลั่งกับวัตถุนิยมและหลงลืมความบอบบางด้านในของมนุษย์ซึ่งปรากฎการณ์หรือภูมิหลังของชีวิตซีอุยน่าจะเป็นบทเรียนที่สังคมไทยควรนำมาศึกษษยิ่งนัก

เผย ชีวิต รันทด ซีอุย

ซีอุย แซ่อึ้ง เกิดปีระกา 2470 เป็นชาวจีน บิดาชื่อนาย ฮุนฮ้อ มารดาชื่อนาง ไป่ติ้ง อาชีพทำไร่ฐานะยากจน มีพี่น้องหลายคน ตอนเด็กๆ มักถูกรังแก จนพบชายชราแนะนำให้กินตับ และหัวใจของคน เพื่อที่จะได้มีพลังต่อสู้กับคนที่มารังแก หลังจากนั้น ซีอุย เริ่มฆ่าสัตว์ กิน เนื้อสด ตับ หัวใจ  พอซีอุยเริ่มเป็นหนุ่มก็เริ่มฆ่าเด็กแหวะอก เฉือนหัวใจและตับ มันทำให้เขารู้สึกว่ากล้าสู้ และ อร่อย โดยใช้วิธีการฆ่าฝังร่องรอย

เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี ซีอุยถูกส่งเข้าประจำการที่หน่วยรบทหารราบกองพันที่ 8 ซีอุยฝึกและถูกส่งตัวไปรบในแนวหน้าจนได้รับบาดเจ็บเพื่อทหาต่างก็ล้มตาย อาการบาดเจ็บและหิวโหยทำให้ซีอุยเริ่ม ต้ม ตับ ไต หัวใจ ไส้พุง ศพ เพื่อนทหารที่เสียชีวิตหลังจากสงครามเพื่อนทหารรุ่นเดียวกัน ชวนซีอุยไปสมัครเข้าทำงานกับ บริษัทเดินเรือทะเล ทำได้อยู่ปีเศษๆ เพื่อนๆ ก็ชวนลอบเข้าเมืองไทย โดยหลบหนีจากเรือเดินทะเล ขณะที่นำสินค้าส่งที่ท่าเรือคลองเตย เมื่อ วันที่ 28 ธันวาคม 2489

ในระหว่างที่ใช้ชีวิตในประเทศไทย เขาต้องเร่ร่อนทำงานรับจ้างกลับไปกลับมาในสถานที่ต่างๆ อาทิ อ. ทับสะแก และ อ. สามร้อยยอด และ กรุงเทพฯ ซึ่งชีวิตของเขาได้รับแรงกดดัน ถูกเหยียดหยามดูหมิ่นจากคนรอบข้าง ถูกเรารัดเอาเปรียบจนในที่สุดก็นำไปสู่เหตุการณ์ที่ต้องน่าสะพรึงกลัวและทำให้ซีอุยพบจุดจบอย่างน่าสงสารเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2502

ข่าวอาชญากรรม จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด

คืนชีพ”ซีอุย 2″ ?? ฆ่าผ่าท้อง 9 ขวบ ย้อนตำนาน”ซีอุย” “ฆาตกร”หรือ”แพะ”เรื่องราวของ “ซีอุย” ฆาตกรต่อเนื่องรายแรก และโด่งดังที่สุดของเมืองไทย ถูกขุดขึ้นมาพูดถึงอีกครั้งเมื่อเกิดเหตุสยองขวัญ

คนร้ายฆ่าผ่าท้อง ด.ช. วัย 9 ขวบที่ จ.ชัยภูมิ  เป็นการฆ่าผ่าท้องที่ควักเอาตับและหัวใจออกมากินสดๆ อย่างน่าเสียวสยอง ถือว่าเป็นการฟื้นตำนานฆาตกรซีอุย ที่เคยก่อเหตุทำนองเดียวกันนี้กับเด็กถึง 7 คนเมื่อครึ่งศตวรรษก่อน

และกลายเป็นตำนานสยอง ตำนานวิปริตที่ใครก็ไม่มีวันลืม ไม่ว่าจะผ่านไปนานเพียงใดก็ตาม !!!

เลียนซีอุยฆ่าผ่าท้องเด็ก

ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คนทั้งประเทศโดยเฉพาะชาว จ.ชัยภูมิ ต้องตื่นตะลึงและสั่นประสาทกับคดีฆาตกรรม ด.ช.ลิขิต โพธิ์แสง อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป. 2 โรงเรียนบ้านโนนสะอาด อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ที่ถูกฆ่าผ่าท้องทิ้งพงหญ้าร้างเขย่าขวัญที่สุดเมื่อแพทย์ชันสูตรพบว่า อวัยวะหัวใจและตับของเด็กหายไป !??

ชาวบ้านให้การว่าเห็น ด.ช.ลิขิต ครั้งสุดท้ายเมื่อเย็นวานนี้ โดยเดินเข้ามาใกล้จุดเกิดเหตุพร้อมกับ นายสุริยา โพธิ์แสง อายุ 18 ปีพี่ชายตำรวจและชาวบ้านกระจายกำลังออกตามหานายสุริยา กระทั่งเจอตัวอยู่บนเถียงนาห่างจากจุดพบศพไม่มากนัก นายสุริยา เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด ให้การสารภาพว่า เป็นคนลงมือสังหารน้องชาย เพราะอยากลองกินหัวใจและตับของ คน เนื่องจากเคยแต่กินเครื่องในสัตว์เป็นๆ มาตลอดจนเบื่อแล้ว !!!  ฆาตกรซีอุย 2 ให้การว่าหลังจากน้องเลิกเรียนชักชวนเข้ามาในป่า ระหว่างทางใช้ท่อนไม้ทุบหัวจนหมดสติ ก่อนผ่าท้องและนำเครื่องในออกมากิน

แม้ตำรวจจะจับกุมนายสุริยา แต่ยังไม่สามารถดำเนินการด้านกฎหมายได้ เพราะต้องส่งไปตรวจสภาพจิตเสียก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้นายสุริยา ก็เคยเข้ารักษาตัวอาการประสาทมาแล้ว

เปิดตำนานสยอง “ซีอุย”

การก่อเหตุของนายสุริยา ทำให้หวนนึกไปถึงเจ้าตำรับฆ่าผ่าท้องกินตับไตเด็กชื่อดังเมื่อกว่า 50 ปีก่อน “ซีอุย” นายซีอุย แซ่อึ้ง ชาวจีนโพ้นทะเล ผู้สร้างตำนานสยองและไม่เคยมีใครลืมเลือนมาจนทุกวันนี้  แม้ปัจจุบันมีคนจำนวนมากที่แห่แหนไปแวะเวียนชมดูร่างจริงของซีอุย ซึ่งเก็บรักษาตัวที่พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ ตึกอดุลยเดชวิกรม โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นที่เก็บหลักฐานทางคดีสำคัญๆ ในอดีตมากมาย

ศพของซีอุยถือว่าเป็นสิ่งดึงดูดผู้คนมากที่สุด จนพิพิธภัณฑ์มีชื่อเรียกว่า “พิพิธภัณฑ์ซีอุย”ซีอุย อพยพหนีความอดอยากจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาเมืองไทยเมื่อปี พ.ศ.2489จากคำให้การของซีอุย หลังถูกจับกุมได้ระบุว่ามาขึ้นฝั่งเมืองไทยบริเวณ ต.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีญาติทำเรื่องรับรองให้อยู่ในเมืองไทย ซีอุยเดินทางไปหาญาติๆ ในหลายจังหวัด และทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆ จนผ่านไปหลายปีจึงย้ายกลับมาอยู่ ต.ทับสะแก

และที่นี่คือบทแรกที่ตำนานสยองกำเนิดขึ้น !??

ดินสายฆ่าก่อนจนมุม

วันที่ 10 เมษายน 2497 คดีแรกก็เกิดขึ้นเมื่อ ด.ญ.บังอร ภมรสุต อายุ 8 ขวบ ถูกคนร้ายดักจับขณะเดินออกมาซื้อของใน ตอนค่ำ  ด.ญ.บังอร ซึ่งเป็นเหยื่อรายแรกและรายเดียวที่รอดตายมาได้ ระบุว่าถูกคนร้ายเป็นชายชาวจีน ตัดผมสั้นเกรียน รูปร่างสันทัด จับตัวจากแถวบ้านเข้าไปในป่า พยายามใช้มีดแทงคอ แต่เธอดิ้นจนมีดพลาดไม่ถูกจุดสำคัญ จึงถูกคนร้ายจับทุ่มเข้าไปในกอไผ่  แม้กอไผ่จะทำให้เธอบาดเจ็บไม่เบา แต่มันก็ช่วยให้คนร้ายไม่สามารถแหวกพงหนามเข้ามาทำร้ายเธอได้อีก

วันที่ 9 พฤษภาคม ปีเดียวกัน ด.ญ.นิด แซ่ภู่ อายุ 10 ขวบ ถูกคนร้ายหลอกไปจากงานวัด ใน ต.ทับสะแก ก่อนมีคนพบศพเธอถูกฆ่าผ่าท้องหัวใจกับตับหายไป !??

เดือนเศษๆ ต่อมา ด.ญ.ลิ้มเฮียง แซ่เล้า อายุ 9 ขวบ ชาว ต.ทับสะแก เช่นกัน ถูกฆ่าลักษณะเดียวกับรายที่ 2 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน

ถัดมาวันที่ 27 ตุลาคม ปีเดียวกัน ก็ถึงคิว ด.ญ.หงั่น แซ่ลี้ อายุ 10 ขวบ ถูกฆ่าที่ ต.สามร้อยยอด

วันที่ 28 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน คดีลักษณะเดียวกันนี้ก็มาโผล่ที่กรุงเทพฯ มื่อมีผู้พบศพ ด.ญ.ลี่จู แซ่ตั้ง อายุ 5 ขวบ ถูกฆ่าผ่าท้องบริเวณสถานีรถไฟสวนจิตรลดา

ล่วงเข้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2500 ด.ญ.ซิ่วจู แซ่ตั้ง อายุ 7 ขวบ ถูกฆ่าบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์

ฆาตกรวิปริต หรือ “แพะ” ??

ฆาตกรต่อเนื่องหยุดการทำงานไปเกือบ 1 ปีก่อนที่จะเกิดเหตุฆาตกรรม ด.ช.สมบุญ บุณยกาญจน์ อายุ 8 ขวบ ที่ ต.เขาไผ่ อ.เมืองระยอง เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2501 ซึ่งเป็นเหยื่อรายที่ 7 และศพที่ 6  คดีนี้เองตำรวจจับกุมคนร้ายได้คือ นายซีอุย แซ่อึ้ง คนงานในสวนของพ่อแม่ ด.ช.สมบุญ โดยตำรวจระบุในห้วงเวลานั้นว่าจับได้ ขณะที่ซีอุยพยายามทำลายศพ !!!

นี่คือข่าวครึกโครมยิ่งในช่วงนั้น และยิ่งตื่นตระหนกกันใหญ่เมื่อตำรวจแถลงว่านายซีอุย สารภาพว่าคดีฆ่าผ่าท้องเด็กที่ ต.ทับสะแก กรุงเทพฯ และนครปฐมรวม 5 รายก่อนหน้านี้ เป็นฝีมือของเขาเอง และเมื่อตำรวจพา ด.ญ.บังอร เหยื่อแรกแรกที่รอดตายมาได้มาดูตัว ก็ชี้ยืนยันว่าซีอุย คือคนร้ายที่พยายามสังหารเธอ !??

วันที่ 16 กันยายน 2502 ศาลตัดสินประหารชีวิตซีอุยด้วยการยิงเป้า และมอบศพให้แพทย์ ร.พ.ศิริราช นำไปศึกษาโครงสร้างทางสมอง และเก็บรักษาศพไว้จนทุกวันนี้

ในหลายสิบปีให้หลังมีผู้สนใจเรื่องราววิปริตของซีอุย พยายามค้นคว้าและพบว่าคดีนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากลไม่น้อยถึงขนาดตั้งข้อสังเกตว่าซีอุยเป็นฆาตกรวิปริต หรือแค่แพะรับบาปเท่านั้น !??ประการหนึ่ง ซีอุยเป็นผู้รับสารภาพเองว่าเป็นฆาตกร ในขณะที่ตำรวจเองไม่มีหลักฐานใดๆ มัดตัวคนร้าย เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ปล่อยซีอุยลอยนวลอยู่นานหลายปี

การที่ตำรวจคลี่คลายคดีเก่าๆ ได้ มีหลักฐานเดียวคือคำสารภาพของซีอุยเท่านั้น !??

จับพิรุธคดีประวัติศาสตร์

น่าสนใจว่าซีอุยพูดไทยไม่ได้มาก ต้องให้การผ่านล่าม คำแปลและความเข้าใจของซีอุยเกี่ยวกับความผิดหรือคำสารภาพนั้นมีมากขนาดไหน  มีการตั้งข้อสังเกตว่าซีอุยอาจจะสารภาพไปตามบท เพราะเข้าใจว่าเมื่อจบเรื่อง ตัวเองจะถูกส่งกลับเมืองจีนเท่านั้น

จากข่าวในห้วงเวลานั้นพบว่าคำรับสารภาพของซีอุยก็สับสน และบางเรื่องไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเกิดเหตุอีกด้วย !??

ในจำนวน 6 ศพที่ซีอุยก่อเหตุ มีบางศพที่ไม่ได้ถูกควักหัวใจและตับออกมากิน ซึ่งผิดวัตถุประสงค์การฆ่าอย่างสิ้นเชิง ตำรวจแถลงว่าที่ไม่กินเพราะซีอุยบอกว่า ตับกับหัวใจเล็กเกินไป กินไม่อิ่มเลยไม่กิน !??

ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวซีอุย ไปทำแผนฯ บางคดีพิสดารและเหลื่อเชื่อเกินไป เช่น รายหนึ่งซีอุยให้การว่าฆ่าเด็กแล้วอุ้มวิ่งเข้าไปในสวนลึกหลายกิโล แถมยังแวะอาบน้ำอาบท่าระหว่างทางอีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวผิดวิสัยเกินไป

อีกจุดหนึ่งคือการลงมือระหว่างเหยื่อรายที่ 6 และรายที่ 7 ที่ทิ้งช่วงเวลาห่างกันถึง 1 ปี ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซีอุยก่อเหตุถึง 6 คดีในเวลาแค่ปีเดียวเท่านั้นหรือคดีที่ ต.ทับสะแก ซึ่งซีอุยสารภาพว่าลงมือถึง 4 ครั้ง รายแรกทำไม่สำเร็จ แต่ก็ลงมือได้ในอีก 3 รายต่อมา

ตามปกติทั่วไปเมื่อก่อเหตุครั้งแรกไม่สำเร็จ ซีอุยน่าจะหลบหนีเพราะเด็กต้องจำหน้าได้ กลับกล้าอยู่ในพื้นที่เดิมและลงมือกับเหยื่ออีก 3 รายซ้อน ฯลฯ

แม้มีการตั้งข้อสังเกตหรือข้อสงสัยมากมาย แต่อย่างไรเสียคงไม่สามารถหาข้อยุติหรือตรวจสอบให้แน่ชัดได้แต่ก็น่าสนใจว่าหลังตำรวจจับกุมซีอุยได้ คดีฆ่าผ่าท้องเด็กก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย !??

250px-New5

ซีอุย เป็นภาพยนตร์แนว อาชญากรรม โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ หนุ่มชาวจีนที่มากินหัวใจเด็กสดๆ ออกฉายเมื่อ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2547