สาวปากฉีก ตำนานสุดหลอนของญี่ปุ่น ที่ชวนให้คุณขนหัวลุก

ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ประเทศไหนก็ตามต่างก็มีเรื่องเล่าขาน ตำนานโบราณ หรือความเชื่อที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาจากรุ่นสู่รุ่น ถึงบางเรื่องอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงนั้น ก็ยังไม่มีใครที่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าจริงหรือไม่จริงกันแน่ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงตำนานของ สาวปากฉีก ตำนานสุดหลอนของญี่ปุ่น ที่ถูกเล่าต่อๆ กันมาจนจวบถึงปัจจุบันนี้ จะมีเรื่องราว ที่ชวนให้คุณหลอนจนต้องขนหัวลุกยังไง ต้องมาพิสูจน์กัน…..

สาวปากฉีก ตำนานสุดหลอนของญี่ปุ่น

“สาวปากฉีก” หรือที่คนญี่ปุ่นเธอเรียกว่า “คุชิซาเกะอนนะ (Kuchisake-onna)” เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ถูกสามีผู้หึงหวงทำร้ายจนเสียอวัยวะ และต่อมากลายเป็นผีร้าย

เรื่องสาวปากฉีกนั้นเริ่มโจษจันกันในปี 2522 จนแพร่ไปทั่วประเทศในเวลาอันเร็ว และยังทำให้เกิดความตื่นตระหนกในหลายๆ หัวเมืองของญี่ปุ่นอีกด้วย ถึงขนาดที่มีรายงานข่าวว่า โรงเรียนต้องจัดครูคุ้มกันส่งนักเรียนให้ถึงบ้าน โดยสวัสดิภาพ และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องเพิ่มเวรยามให้มากขึ้นกว่าเดิมด้วย

ซึ่งตามความเชื่อในตำนาน ได้ถูกเล่าต่อๆ กันมาว่า ..

เรื่องสาวปากฉีกนั้นปรากฏในสมัยเฮอัง มีความว่า หญิงสาวคนหนึ่งเป็นภริยา หรืออนุภริยาซามูไร ของนายหนึ่ง แต่ไม่ซื่อตรงต่อสามี และเมื่อสามีรู้เข้าก็โกรธมาก จึงได้เอาดาบสับปากนางจนถึงใบหู แล้วพูดกับนางว่า “ดูเถิดคนเขาจะเห็นว่ามึงงดงามอยู่อีกหรือไม่” หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวผู้นั้นก็ตาย แต่เพราะใจมีความแค้นพยาบาทต่อสามี จึงไม่ไปผุดไปเกิด กลับกลายมาเป็นผีร้าย มาแก้แค้นสามี และหลอกหลอนผู้คน

และดูเหมือนว่าตำนานสาวปากฉีกจะไม่จบลงง่ายๆ เพราะต่อมาก็ถูกร่ำลือกันอีกครั้งในต้นพุทธทศวรรษที่ 2500 ซึ่งว่ากันว่า เด็กบางคนเมื่อเดินอยู่ลำพังในยามวิกาลอาจพบหญิงสาวคนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นติดโรคของตัวไปด้วยเป็นต้น ครั้นแล้วหญิงผู้นั้นจะหยุดเดิน และถามเด็กว่า “ฉันสวยไหม”

ถ้าเด็กบอกปัด หญิงนั้นจะล้วงกรรไกรออกมาตัดปากเด็กจนตาย

ถ้าเด็กตอบรับ หญิงนั้นจะปลดหน้ากากอนามัยออก และยิ้มให้เด็กดู เผยให้เห็นปากที่ถูกตัดจนถึงใบหู มีเลือดไหลท่วม ซึ่งเรียกว่า “รอยยิ้มแบบแกล็สโกว (Glasgow smile)” แล้วถามเด็กนั้นอีกว่า “แล้วตอนนี้ฉันสวยไหม” ถ้าเด็กบอกว่าไม่ หญิงผู้นั้นจะล้วงกรรโกรมาตัดกายเด็กเป็นสองท่อน แต่ถ้าเด็กตอบว่าใช่ หญิงผู้นั้นจะมอบความสวยงามให้แก่เด็กนั้นบ้าง โดยเอากรรไกรตัดปากเด็กจนถึงใบหูเสีย เด็กไม่อาจวิ่งหนีหญิงคนนั้นพ้นได้ เพราะหญิงสาวจะปรากฏต่อเด็กอีกจนกว่าจะได้ประทุษร้ายเด็กนั้นแล้ว

สวยไหม?

ในตำนานยังบอกอีกว่า ถ้าถูกสาวปากฉีกไล่ตาม และถูกถามว่า “สวยไหม” ก็ให้ตอบว่า “น่ารักสองครั้งติดๆ กัน” หญิงผู้นั้นก็จะเกิดอาการสับสน ก็ให้อาศัยจังหวะหนีไป ปล่อยให้หญิงปากฉีกครุ่นคิดอยู่หาคำตอบมิได้อย่างนั้น บางกระแสก็ว่า ให้ตอบ “ก็พอดูได้” หรือให้ถามกลับไปว่า “แล้วฉันล่ะน่ารักไหม” หญิงผู้นั้นก็จะได้งงงวยเช่นกัน หรือที่ให้ตอบว่า “ฉันกำลังหมั้นหมายอยู่” ก็มี การตอบเช่นนั้นแล้วหญิงสาวปากฉีกจะขอให้อภัยต่อการกระทำของนาง และขอตัวจากไป และที่ว่า ในขณะที่ถูกหญิงปากฉีกนั้นไล่ตาม ก็ให้โยนส้ม หรือโปรยลูกอมขนมหวานไป ก็เพราะว่าจะทำให้หญิงปากฉีกหันไปเก็บของเหล่านั้นแทนการตามเรา เปิดโอกาสให้หนีพ้นไปได้ก็มี

สาวปากฉีก

และตำนานเรื่องนี้ยังถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วย ถ้าใครอยากจะเติมความความหลอนอีกล่ะก็ สามารถไปติดตามในภาพยนตร์ได้เลย ขอบอกไว้ก่อนนะจ๊ะว่า น่ากลัว และหลอนมากๆ เวลาที่สาวปากฉีกปรากฏตัว!!