วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับ “จิมมี่” ประธานกลุ่ม เครือข่ายผู้ชายข้ามเพศแห่งประเทศไทย (TMAT) ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ความคิด ความอ่าน และทัศนคติ ก็เป็นไปในทางบวก จนเราอดคิดไม่ได้ว่า .. อยากมีแฟนแมนๆ แบบนี้จัง >///< “จิมมี่” ไม่ได้แมนแค่ร่างกาย แต่จิตใจเค้า ก็นับว่าดีกว่าผู้ชายบางคนนะ.. ลอง(เปิดใจ)ดู
สัมภาษณ์ “จิมมี่” ประธานกลุ่ม TMAT
ประวัติย่อ
ชื่อ-นามสกุล กฤตธีพัฒน์ โชติฐานิตสกุล ครับ
วันเกิด 29 กรกฎาคม 2526
การศึกษา คณะรัฐศาสตร์ บริหารรัฐกิจ ม.รามคำแหง ครับ
ส่วนสูง / น้ำหนัก : 164/45
ความสามารถพิเศษ : เปียโน กีต้าร์ กลอง คีย์บอร์ด
เฟสบุค : kritipat
IG : @jim_kritipat
Q : เห็นว่า เป็นประธานกลุ่ม TMAT ..แล้ว TMAT คืออะไรคะ?
A : TMAT ย่อมาจาก Transmen Alliance of Thailand ครับ หรือภาษาไทยก็คือ เครือข่ายผู้ชายข้ามเพศแห่งประเทศไทย ครับ หน้าที่ของ TMAT หลักๆก็คือส่งเสริมข้อมูลความรู้และสนับสนุนด้านสุขภาพ กฎหมาย ทรัพยากรที่จำเป็นให้แก่ชุมชนผู้ชายข้ามเพศ และสร้างความตระหนักรู้แก่สังคมเพื่อให้บุคคลข้ามเพศได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและยุติธรรมภายใต้หลักการสิทธิมนุษยชนเพื่อให้อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีคุณภาพครับ
Q : อยากให้คุณจิมมี่ อธิบายคำว่า “ผู้ชายข้ามเพศ” ให้ฟังหน่อยค่ะ คำว่า “ผู้ชายข้ามเพศ”
A : จริงๆแล้วมีที่มาจากภาษาอังกฤษก็คือ Transsexual male ครับ หมายถึงบุคคลใดก็ตามที่มีเพศกำเนิดเป็นหญิง แต่มีการรับรู้อัตลักษณ์ของตนว่าเป็นชายและใช้ชีวิตแบบผู้ชายทั่วๆไปเนี่ยล่ะครับ บางทีก็เรียกว่า FTM (Female to male) transgender นะครับ จริงๆ คำว่า ผู้ชายข้ามเพศ นี่ส่วนใหญ่สมาชิกในเครือข่ายฯ เองก็ ไม่ค่อยมีใครยากใช้เรียกตัวเองกันนะครับ โดยปกติเราจะหยิบยกคำนี้ขึ้นมาใช้เฉพาะตอนที่เราต้องการสื่อสารบางอย่าง เช่น ใช้เพื่อให้ความรู้กับสังคมในเรื่องของ เพศ เพศสภาพ เพศสถานะ วิถีทางเพศ หรือใช้ในเชิงของการแพทย์แค่นั้นเองครับ ที่จะบอกก็คือ ผู้ชายข้ามเพศ ก็คือผู้ชายคนหนึ่งนั่นแหละครับ ทุกวันนี้เราก็ใช้ชีวิตแบบผู้ชายทั่วๆ ไป ไม่มากไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆ คำๆ นี้จึงไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไรเลยครับ
Q : เคยเจอเหตุการณ์ ความเข้าใจผิดเรื่องเพศ ที่ทำให้หน้าหงายมั้ยคะ?
A : มีเยอะนะครับ แต่ถ้าคนอื่นมาทำให้ตัวผมหน้าหงายนี่ไม่มีนะ มันชินแล้วครับ มีแต่ผมจะไปทำให้คนอื่นหน้าหงายมากกว่า โดยมากก็เป็นเพราะผมมักจะเจอคนที่มีอาการที่เรียกว่า Transphobia หรือ การเกลียดกลัวคนข้ามเพศโดยไร้เหตุผล น่ะครับ คือนึกออกใช่มั้ย phobia อ่ะครับ แล้วก็มักจะมาพูดอะไรที่ผมมองว่าคนเหล่านั้นใช้ความคิดน้อยไปหน่อย บางทีก็ได้แต่นั่งฟัง hate speech จากคนเหล่านั้นแล้วได้แต่ยิ้มให้ว่าพวกเขาคงมีความสามารถทำได้ดีที่สุดแค่นี้ใช่มั้ย ยกตัวอย่างเล็กน้อยแล้วกันครับ หลายคนมาท้าให้ผมทำผู้หญิงท้องให้ได้ก่อน ค่อยบอกว่าตัวเองแมน คือบางครั้งผมได้แต่กลอกตาไปมา ว่าเนี่ยนะความคิดของผู้ชายที่เชื่อมั่นว่าตัวเองแมนมาก? มันน่าอวดตรงไหนกับการทำผู้หญิงท้องได้? ผมชักไม่แน่ใจว่าบริบทความเป็นชายของสังคมไทยที่สอนกันมารุ่นต่อรุ่นคืออะไร เพราะทุกวันนี้ผมเห็นว่ามีทารกเกิดใหม่ทุกวัน แล้วเกือบครึ่งคือ…กำพร้า พ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นอยู่ที่ไหน? คุณลองไปดูตามบ้านเด็กกำพร้าสิครับ เนี่ยเหรอคือผลผลิตของความแมนที่ควรเอามาอวดกันหรือท้าคนนั้นคนนี้ให้ทำ นี่ยังไม่ได้ลากไปยาวถึงปัญหาของครอบครัวแตกแยกอีกนะครับ เมียหลวงเมียน้อย ลูกๆกลายเป็นเด็กมีปัญหา คือ…ผมว่าสังคมไทยเข้าใจคำว่า “แมน” ผิดไปมากนะครับ ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนกำหนดบริบทของคำนี้ด้วยซ้ำ แต่คำว่าแมนมันอยู่ที่ทัศนคติของแต่ละคนมากกว่า ดังนั้น แน่นอนว่าเราไม่ควรเอาทัศนคติของตัวเอง (ที่อาจจะไม่ได้ถูกต้องด้วยซ้ำ) ไปยัดเยียดใส่คนอื่นน่ะครับ เพราะถ้าคุณถามผมว่าผมมองคำว่า “แมน” ว่าอย่างไร แน่นอนว่าผมไม่ได้มองเรื่องการทำผู้หญิงท้องหรอกครับ ผู้หญิงไม่ใช่โรงงานผลิตลูก ไม่ใช่ของเล่นของใคร และไม่มีผู้ชายคนไหนควรเอาเพศหญิงมาเอ่ยอ้างในเชิงที่ไม่ให้เกียรติเช่นการพูดพล่อยๆ ว่าทำผู้หญิงท้องได้คือแมนน่ะครับ มันไร้สาระสิ้นดี (ปรับมือรัวๆ)
Q : ทางครอบครัวคุณจิมมี่ ว่าอย่างไรบ้าง ที่คุณจิมมี่เป็นผู้ชายข้ามเพศ
A : แรกๆ ก็รับไม่ได้หรอกครับ แม้ว่าทางครอบครัวจะรู้มาตลอดว่าเราเนี่ยไม่ใช่ “ลูกสาว” แบบที่เขาวาดฝันไว้แน่ๆ เขาก็พยายามเลี่ยงที่จะคุยเรื่องนี้กับเรา พยายามจะให้เราอยู่ในเส้นทางที่เด็กผู้หญิงในยุคผมควรจะเป็น ตอนแรกๆที่เริ่มกระบวนการข้ามเพศ ทางครอบครัวไม่สนับสนุนเลย จริงๆก็ไม่น่าแปลกใจหรอกครับ ผมเข้าใจว่าการที่พ่อแม่คนหนึ่งเชื่อว่าตนมีลูกสาวมาตลอด 25 ปี (ช่วงที่เริ่มกระบวนการข้ามเพศ) และวันหนึ่งกลับกลายเป็นลูกชายแทนก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับผู้ใหญ่ที่โตมาในยุคของท่านครับ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว ท่านก็ยอมรับนะครับ แต่ก็ใช้เวลารวมๆตั้งเกือบ 30 ปีแหนะครับ
Q : ปัญหาส่วนใหญ่ของ ผู้ชายข้ามเพศ คืออะไร?
A : เอาจริงๆ นะครับ นอกเหนือจากเรื่องเอกสารราชการ การแต่งงาน การมีครอบครัว การทำธุรกรรมทางการเงิน การยืนยันตัวตน การสมัครงาน การรักษาพยาบาล การไปต่างประเทศ ก็เกือบครบทั้งชีวิตละเนอะ ผมว่าเราน่ะไม่มีปัญหา มีแต่คนอื่นที่ทำให้มันเป็นปัญหาขึ้นมา ซึ่งปัญหาก็คือเวลาที่เราบอกว่าสิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่เราต้องเผชิญนะ เราเลยต้องออกมาพูดเพื่อให้รัฐช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ กลับกลายเป็นว่ามีบางคนมองว่าเรากำลังเรียกร้องเพื่อสิทธิพิเศษ ผมถามจริงๆว่ามันเป็นสิทธิพิเศษตรงไหนครับ? ไอ้ปัญหาด้านบนที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น พวกคุณได้มันไปหมดทุกอย่างเลย ไม่เคยเจอปัญหาในการทำอะไรเลย แต่คนข้ามเพศนี่เจอปัญหาทุกอย่างเลย ทำอะไรแทบไม่ได้สักอย่างเลย คุณต้องแยกให้ออกระหว่างสิทธิพิเศษและสิทธิที่เท่าเทียมนะครับ เพราะผมมองว่าตอนนี้คนที่กุมสิทธิทั้งหมดไว้ในมือไม่ใช่พวกผมเลย และถ้าเป็นแบบนั้น เวลานี้จะเรียกว่ามันเป็นสิทธิพิเศษของใครกันแน่ล่ะครับ?
Q : ดูแลตัวเองยังไงคะ? (หุ่น, ผิว, ผม)
A : เอาจริงๆ นะครับ 5555 ไม่ได้ดูแลอะไรเป็นพิเศษเลยครับ ออกจะปล่อยมันตามมีตามเกิดด้วยซ้ำ อย่างมากก็ไปฟิตเนสบ้าง ส่วนผิวนี่ไม่ได้ทำอะไรกับมันเลยครับ ที่ดูจะใส่ใจหน่อยคงเป็นเรื่องทรงผมแค่นั้นเองครับ (จริงอ่าาาาาา)
Q : กิจกรรมยามว่าง ทำอะไรคะ?
A : หลักๆจะเป็นการอ่านหนังสือครับ ประเภทจิตวิทยากับ พัฒนาตนเอง นอกนั้นก็ชอบไปดำน้ำ หรือพวกกิจกรรม adventure ต่างๆครับ
Q : เวลาซื้อเสื้อผ้า ชอบไปช้อปปิ้งที่ไหน?
A : ช๊อปปิ้งที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อนครับ ล้อเล่นๆ คือจริงๆ ผมเป็นคนที่ไม่ช้อปปิ้งครับ เสื้อผ้าในตู้ถ้าไม่ใช่ประเภทใส่ออกงานทางการ ก็มักจะเป็นพวกเสื้อตัวละ 100 บาทอะไรแบบนี้ครับ บางทีก็พวกเสื้อมือสองจากญี่ปุ่นนะ ตัวนึงไม่เกิน 150 บาท เรื่องเสื้อมือสองสภาพดีนี่ผมยกให้ทางญี่ปุ่นจริงๆนะ แล้วส่วนมากจะบังเอิญได้ซื้อตอนที่แบบเดินผ่านมากกว่าจะตั้งหน้าตั้งตาช้อปอ่ะครับ เลยไม่มีสถานที่พิเศษในการช้อปปิ้งเลย (แหม่.. ว่าจะไปดักเจอสักหน่อย 555)
Q : เครื่องประดับที่ขาดไม่ได้เลย คืออะไรคะ?
A : โทรศัพท์มือถือนี่.. ถือเป็นเครื่องประดับได้มั้ยครับ? 555 (ใช่มั้ยหว่า? 555 ทำเรางงไปด้วยเลย)
Q : เคยแต่งหน้า แต่งหญิงหวานๆ มั้ยคะ? (อยากเห็นรูปประกอบด้วยจัง)
A : เคยสิครับ หวานมั้ยอันนี้ไม่รู้ แต่ผมก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ตามใจครอบครัวมาครับ และมันเป็นอะไรที่ไม่น่าจดจำเลย (สำหรับตัวผมนะครับ)
สวัสดีค่ะคุณแม่.. นี่ลูกสะใภ้แม่เองนะคะ เดี๋ยวเสาร์นี้ หนูจะไปกราบนะคะ (อีเจ้มะโน) อิอิ
Q : มีแฟนรึยังเอ่ย? มีแล้วครับ แฟนเป็นเพศไหนคะ?
A : แฟนเป็นเพศหญิงครับ แต่ผมคงต้องบอกว่า ผู้ชายข้ามเพศก็มีวิถีทางเพศที่หลากหลายเฉกเช่นเดียวกับคนอื่นๆ นะครับ
Q : เวลาอกหัก ทำยังไงคะ?
A : ไม่เคยอกหักนะครับ!!! ล้อเล่นๆ คือผมคิดว่าการที่ใครสักคนจะไม่สมหวังในความรัก หรือมันอาจจบลงไม่สวยงามแบบที่วาดฝันไว้ อย่าไปมองว่ามันคือการอกหักเลยครับ เมื่อไหร่ที่ความรักเกิดขึ้น จะมากหรือน้อย จะสั้นหรือยาว จะเร็วหรือช้า ความรักไม่เคยทำร้ายใคร มันทำให้คุณมีความสุขเสียด้วยซ้ำไป ที่หลายคนเจ็บปวดมันเป็นเพราะคุณดันไปยึดติดอยู่กับคนๆหนึ่ง คิดเอาเองว่าหัวใจคุณสลายไปพร้อมกับที่คนๆนั้นจากไป แต่จริงๆไม่ใช่เลย หัวใจยังเป็นของคุณ ผมไม่เคยเสียเวลามานั่งเศร้าเวลาเลิกรากับใคร จนบางครั้งเพื่อนยังสงสัยเลยว่ารักเค้าขนาดนั้นแล้วทำไมทำเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไรเลยที่เค้าเดินจากไป ผมได้แต่ตอบว่า เสียใจน่ะมันแน่อยู่แล้ว แต่จะมานั่งเสียน้ำตาหรือเสียเวลาเศร้าไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา เอาเวลาไปดูแลตัวเองดีกว่า ช่วงเวลาเปราะบางนี่เราต้องรู้เท่าทันตัวเองให้ได้นะ อย่าไปเปราะบางตามมัน ที่ผ่านมาคุณอาจเป็นเพื่อนที่ดีให้กับเพื่อนๆของคุณเวลาที่พวกเขาต้องการได้นะ แต่คุณต้องถามตัวเองให้ได้ว่า คุณเคยเป็นเพื่อนที่ดีให้กับตัวคุณเองบ้างมั้ย? คำตอบมันอยู่ในตัวของมันเองครับ
Q : มีมุมมองความรักอย่างไร?
A : สมัยเด็กๆ ผมก็วาดฝันมุมมองความรักเหมือนคนทั่วๆ ไปแหละครับ แต่พอโตขึ้นมาประสบการณ์มันสอนให้รู้ว่าผมไม่ต้องการนิยามความรักใดๆเลย ความสวยงามที่เราบรรจงสร้างขึ้นในความคิดของเรามันอาจจะทำให้กลายเป็นข้อแม้หรือข้อกำหนดของความรักไปในท้ายที่สุด คุณลองคิดดูสิว่า ถ้าผมบอกว่ารักคือการให้ ความรักคือการอดทน ความรักคือใจเย็น ให้อภัยกัน ไม่ฉุนเฉียว ไม่จำความผิด แต่ในชีวิตจริงของมนุษย์เรา มีกิเลสตัณหาทั้งนั้น ถ้าผมเชื่อในนิยามความรัก เมื่อไหร่ก็ตามที่มันผิดไปจากนิยาม เราก็อาจจะเริ่มคิดแล้วว่า เฮ้ยนี่มันไม่ใช่ละ ถ้ารักกันก็อย่าทำแบบนี้สิ เป็นบ่อยๆเข้าก็ทะเลาะกัน ปลายทางจะเป็นอย่างไรครับ? ทุกวันนี้ ผมใช้ชีวิตคู่ด้วยแนวทางเดียว คือ สำหรับผม ความรักคือการให้อิสระต่อกันและกันให้ได้มากที่สุดครับ ยิ่งคุณรักมากเท่าไหร่ คุณต้องให้อิสระมากเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วความรักอาจเป็นได้ทุกคำนิยามที่คุณต้องการ ยกเว้นอย่างเดียว ความรักไม่ใช่การครอบครอง
Q : ผลงานทางด้านบันเทิงมีอะไรบ้างคะ?
A : ก็มีงานพิธีกร ถ่ายแบบ แล้วก็ถ่าย MV บ้างครับ จริงๆ ก็กำลังจะมีรายการขึ้นใหม่นะครับ แต่ขออุบไว้ก่อนแล้วจะแจ้งให้ทราบกันอีกที (ฮั่นแน่…!!)
Q : สุดท้ายแล้วค่ะ .. อยากจะบอกอะไรกับผู้ที่แอนตี้ หรือมีอคติกับคนที่มีความหลากหลายทางเพศคะ?
A : We are all human being. We are all born free and equal. แค่นี้ครับ ^^
นี่ก็เป็นมุมมองการใช้ชีวิต และมุมมองความรัก ของผู้ชายที่ชื่อ จิมมี่ กฤตธีพัฒน์ ประธานกลุ่ม TMAT ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาจริงๆ ด้วย.. ใจเธอหล่อมากเลยนะ ทีนี้.. เราไปยลภาพของจิมมี่กันรัวๆ เลยดีกว่า.. อิอิ อีเจ้จะละลายยยยย
รวมภาพ จิมมี่ ผู้ชายข้ามเพศ
อัลบั้มภาพ 11 ภาพ
จริงๆ ยังมีสัตว์อีกเยอะนะ ทั้งหมา แมว ยีราฟ ฯลฯ ต้องตามไปดูเองที่ IG
ขอบคุณบทสัมภาษณ์อบอุ่นๆ และแนวคิด แง่คิดดีๆ นะคะ กฤตธีพัฒน์ โชติฐานิตสกุล (จิมมึ่)