คำถามผุดขึ้นในใจ “ทำอย่างไรให้ฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง และพูดภาษาอังกฤษเก่ง” หรือ “ทำอย่างไรจึงจะพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง” หรือ “ทำอย่างไรจึงจะพูดภาษาอังกฤษได้เก่ง” .. เป็นคำพูดที่มักจะเจอบ่อยๆ สำหรับคนที่อยากจะ พูดภาษาอังกฤษได้ดี ทั้งๆที่เรียนภาษาอังกฤษกันมาแล้วมากมาย บางคนเรียนมาแล้วมากกว่า 10 ปี บางคนเรียนภาษาอังกฤษมากับสถาบันสอนภาษาอังกฤษ หลายสถาบัน แต่ก็ยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ซักที บางคนสามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ดี และเข้าใจได้ดี หรือบางคนทำคะแนนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้ดี แต่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เพราะอะไร
ทำอย่างไร จึงจะฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง และพูดภาษาอังกฤษเก่ง ??
สาเหตุที่สำคัญ คือ ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ กล่าวคือเราต้องพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษก่อน และต้องฟังประโยคซ้ำๆ หลายๆร อบจนขึ้นใจแล้วพูดตาม ออกเสียงตามให้เหมือนที่สุด อาจไม่เข้าใจความหมาย หรือคำแปล ไม่เป็นไร
การฟังภาษาอังกฤษ ถือว่าเป็นทักษะที่สำคัญที่สุด และพัฒนายากที่สุด ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของคนไทยส่วนใหญ่ รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดของการ เรียนภาษาอังกฤษ ของคนไทย
หากเราลองนึกดูว่า แล้วภาษาไทยที่เราพูด, อ่าน และเขียนได้ในปัจจุบัน นั้น มีพื้นฐานมาจากอะไร หากไม่ใช่มาจากการฟัง ฟังจนเข้าใจในสิ่งที่เราได้รับฟังมา แล้วเลียนเสียงนั้น(คือการพูดตาม) จนพูดได้ หลังจากนั้น จึงเริ่มเรียนการเขียน แล้วจึงตามมาด้วยการอ่าน
เช่นเดียวกัน หากเราได้ ฟังภาษาอังกฤษ หลายๆ รอบ บ่อยๆ ซ้ำๆจนจำขึ้นใจแล้ว เราจะพบว่าเราสามารถฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องและเข้าใจโดยอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังสามารถ พูดภาษาอังกฤษได้อีกด้วย
วิธีการฝึก ฟังภาษาอังกฤษ ให้ได้ผลเร็ว มีเทคนิค ดังนี้
1. ฝึก ฟังจากเทป บทสนทนาภาษาอังกฤษ ซึ่งบทสนทนานั้นจะต้องพูดด้วยความเร็วปกติที่ชาวต่างชาติ พูด อย่าฝึกฟังจากเทปที่พูดช้ากว่าการพูดปกติของเขา เนื่องจากจะทำให้เราเคยชิน กับการฟังภาษาอังกฤษ แบบที่พูดช้าๆ และเมื่อเจอชาวต่างชาติที่พูดด้วยอัตรา ความเร็วปกติ เราก็ไม่เข้าใจเช่นเดิม
2. การฝึกฟังครั้งแรกๆ ควรเริ่มฟัง ครั้งละ 5 – 10 ประโยค (อย่าฟังประโยคเยอะเกินไปจนไม่สามารถจะจำประโยคเหล่านั้นได้)
3. ขณะที่ฝึก ฟังภาษาอังกฤษ ต้องมี Script เสมอ
4. ในการฝึกฟังแต่ละครั้ง ต้องฟังให้ได้อย่างน้อย 4 รอบ คือ
- รอบที่ 1 ฟังพร้อม Script และหากเห็นว่าคำใดที่เราเคยออกเสียงไม่เหมือนเขา หรือเราฟังไม่รู้เรื่องแม้จะมี Script ให้หยุดเทป แล้วจดลงใน Script ว่า เสียงที่เราได้ยินนั้นคืออะไร
- รอบที่ 2 และ 3 ออกเสียงตาม
- รอบที่ 4, 5, 6, ….. ลองฟังแบบหลับตา โดยไม่มี Script
- ช่วงแรก ขอให้ฝึกฟังประโยคเดิมๆ ด้วยวิธีข้างต้น สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง (ฝึกทุกวันได้ยิ่งดี) แล้วจึงค่อยๆเพิ่มจำนวนประโยคให้มากขึ้นเป็น 15-20 ประโยค ต่อการฝึกฟังแต่ละครั้ง
หากทำวิธีดังกล่าวข้างต้นอย่างสม่ำเสมอ เพียงเดือนเดียว รับรองว่านอกจากจะ ฟังภาษาอังกฤษ รู้เรื่องแล้ว ยังสามารถ พูดภาษาอังกฤษ ได้โดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
ดังนั้น การพัฒนาทักษะการฟังภาษาอังกฤษ จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมากที่สุด ที่ต้องได้รับการพัฒนาก่อนเป็นอันดับแรก การฟังมากๆ ซ้ำๆ นอกจากจะทำให้ทักษะการฟังภาษาอังกฤษดีขึ้นแล้ว ยังทำให้สามารถพูดได้เมื่อเราพูดประโยคเหล่านั้นออกมาได้แล้ว เราก็หลุดออกจากกับดักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษได้แล้ว นั่นแปลว่าเราได้เข้าสู่ วงจรของการที่จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างอัตโนมัติแล้ว
หลังจากนั้นจึงค่อยมาศึกษาคำแปลของประโยคเหล่านั้น และเพิ่มประโยคเหล่านั้นให้มีสะสมในสมองมากขึ้น ลำดับต่อไปจึงฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษเหล่านั้นให้เร็วขึ้น เราก็จะสามารถพูดภาษาอังกฤษแบบอัตโนมัติจากจิตใต้สำนึกโดยไม่ติดขัดอีกแล้ว
แล้วจึงมาฝึกหรือแก้ไขคำที่เรามักจะออกเสียงภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องไม่ชัด ให้พูดได้ชัดเจนขึ้น ตรงนี้อาจต้องอาศัยครูสอนภาษาอังกฤษที่เป็นเจ้าของภาษา เช่นชาวอังกฤษหรือชาวอเมริกัน ที่มีประสบการณ์มาช่วยสอน เพื่อให้เรียนได้เร็วและมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น
ถ้าทำเช่นนี้ได้บ่อยๆ ก็จะสามารถฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง และพูดภาษาอังกฤษเก่ง…. ไม่ยากอย่างที่คิดใช่ไหม ??
ที่มา @Kingzton English