การฝึกภาษาอังกฤษด้วยการฟังเพลง เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะนอกจากจะได้ฝึกฟังประโยคภาษาอังกฤษแลัว ยังเป็นการเรียนรู้วิธีออกเสียงอีกด้วย และก็ไม่น่าเบื่อ ทำให้เรามีเรียนรู้ได้นานยิ่งขึ้น จะมีวิธีอย่างไรบ้าง? ตามมาดูกันเลยดีกว่า
7 วิธีการฟังเพลงยังไง ให้เก่งภาษาอังกฤษ
1. หาแหล่งเพลง
YouTube และ Vimeo แค่สองเว็บนี้ก็มีเพลงดีๆ ให้เลือกฟังอย่างไม่หวาดไม่ไหว หรือหากอยากฟังเพลงแบบสนุกๆ ขอแนะนำให้รู้จักกับ Spotify โปรแกรมฟังเพลงออนไลน์กึ่งโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ FluentU เว็บที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเรียนภาษาผ่านวิดีโอหรือเพลงโดยเฉพาะ
2. เลือกเพลงให้เหมาะสม
การเลือกเพลงที่ชอบจะทำให้เราจดจ่ออยู่กับการฝึกได้นานขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกเพลงที่ใช้ภาษาไม่ง่ายหรือยากจนเกินไป แนะนำว่าควรเริ่มฝึกจากเพลงป็อป เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเกี่ยวกับความรัก ความโรแมนติก ใช้คำศัพท์ง่ายๆ จากนั้นเมื่อชำนาญมากขึ้น จึงค่อยแตกสาขาไปฝึกจากเพลงประเภทอื่นๆ ที่กว้างขึ้น
3. ฝึกอย่างเป็นขั้นตอน
การอ่านเนื้อเพลงตามไปด้วย จะทำให้เข้าใจความหมายของเพลงและจดจำศัพท์ได้ดียิ่งขึ้น แต่การฟังครั้งแรกๆ ควรลองฟังแบบไม่ดูเนื้อเพลงก่อน แล้วพยายามเขียนคำศัพท์หรือประโยคเท่าที่พอจับใจความได้ออกมาให้ได้มากที่สุด จากนั้นจึงค่อยฟังซ้ำโดยเปิดเนื้อเพลงตามไปด้วย
4. ร้องเพลงตามเนื้อที่ได้ยิน
เวลาร้องตามขอให้ร้องอย่างเต็มเสียงและขยับปากอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฝึกกล้ามเนื้อริมฝีปาก เพราะภาษาอังกฤษมีการใช้กล้ามเนื้อริมฝีปากมากกว่าภาษาไทย ฝึกบ่อยๆ จะทำให้สำเนียงเราใกล้เคียงกับเจ้าของภาษามากยิ่งขึ้น
5. ร้องเพลงจากความจำ
เหมาะสำหรับคนที่ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองมาได้สักระยะจนชำนาญประมาณหนึ่ง เริ่มจดจำเนื้อร้องของบางเพลงได้บ้างแล้ว อยู่ว่างๆ ก็ลองหัดฮัมเพลงเป็นภาษาอังกฤษแบบไม่ดูเนื้อร้องดู จะช่วยให้เราคุ้นชินกับการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้น
6. ฟังเพลงสลับไปสลับมา
จากขั้นตอนที่แนะนำมาทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเลือกเพลงมาหนึ่งเพลงแล้วโฟกัสในการฝึกเพลงนั้นซ้ำๆ อยู่แค่เพลงเดียว ในรอบแรกอาจจะฟังแบบผ่านๆ แล้วดูเนื้อตามไปหลายๆ เพลงก่อน จากนั้นจึงค่อยกลับมาฟังเพลงแรกแล้วทบทวนคำศัพท์ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดนะ
7. ฟังเพลงใหม่ที่ระดับยากขึ้น
เพื่อการฝึกฝนที่มีประสิทธิภาพ ควรท้าทายตัวเองด้วยการเลือกเพลงที่ระดับยากขึ้น ซึ่งจะทำให้เราได้สำนวนและคลังคำศัพท์ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกเพลงตามลำดับความยากง่ายยังไงดี FluentU สามารถช่วยได้
ที่มา : hotcourses.in.th ภาพจาก : likeabossgirls
บทความแนะนำ