ขนมหวาน ของหวาน ท้าวทองกีบม้า บุพเพสันนิวาส

ชวนออเจ้าทั้งหลาย…กินขนมหวานที่ ท้าวทองกีบม้า (ราชินีแห่งขนมไทย) คิดค้นขึ้น

Home / สาระความรู้ / ชวนออเจ้าทั้งหลาย…กินขนมหวานที่ ท้าวทองกีบม้า (ราชินีแห่งขนมไทย) คิดค้นขึ้น

หลายคนอาจจะทราบอยู่แล้วว่าขนมหวานของไทยบางอย่างไม่ได้มีต้นกำเนิดจากไทยจริงๆ แต่ถูกนำเข้ามาหรือถูกดัดแปลงจากสูตรขนมของประเทศอื่น แล้วใช้วัตถุดิบที่หาได้จากประเทศไทยเป็นส่วนผสมหลักแทน ซึ่งหนึ่งในผู้ดัดแปลงขนมหวานให้กลายมาเป็นขนมหวานของไทยในปัจจุบันคือ “มารี กีมาร์ หรือ ท้าวทองกีบม้า”

ชวนออเจ้ากินขนมหวานจากแม่มะลิ

จากประวัติศาสตร์ระบุว่า ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ท้าวทองกีบม้าได้เข้าทำงานในห้องเครื่อง รับหน้าที่ดูแลและจัดหาอาหารหวานส่งเข้าพระราชวังตามกำหนด โดยท้าวทองกีบม้าก็ได้สร้างสรรค์อาหารหวานที่ดัดแปลงมาจากสูตรของโปรตุเกสและญี่ปุ่น (แม่ของมารีเป็นชาวญี่ปุ่น) มากมายหลายชนิด วันนี้แคมปัส-สตาร์จึงอยากชวนออเจ้าทั้งหลายกินนมหวานที่ท้าวทองกีบม้าคิดค้นขึ้นพร้อมวิธีทำ เผื่อว่าจะได้ออกเรือนกับเค้าบ้าง…อิอิ

1.ขนมทองม้วน

อุปกรณ์

  • กระทะเทฟลอน

ส่วนผสม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 55 กรัม
  • ไข่ไก่ 2 ฟอง
  • งาดำ 10 กรัม
  • น้ำตาลทราย 45 กรัม

วิธีทำ

  1. ผสมไข่ไก่และน้ำตาลเข้าด้วยกัน ตีให้น้ำตาลละลาย
  2. ละลายเนยใส่ชามแล้วเตรียมไว้
  3. นำเนยที่เตรียมไว้ผสมลงในไข่ไก่และคนให้เข้ากัน
  4. ใส่แป้งสาลี แล้วผสมให้เข้ากัน
  5. ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีม
  6. ใส่งาดำลงไปผสม
  7. เตรียมกระทะตั้งไฟอ่อน
  8. ใส่แป้งที่ผสมจนเป็นเนื้อครีมลงไป 1 ช้อน
  9. เกลี่ยแป้งให้กระจายให้ทั่ว โดยเอียงกระทะไปมา
  10. รอจนแป้งมีสีเหลือง แล้วกลับด้าน
  11. ทำในลักษณะเดียวกันจนแป้งมีสีเหลืองทอง แล้วยกออก
  12. ม้วนแผ่นแป้งให้เป็นโรลในขณะที่ยังร้อนอยู่ จากนั้นทิ้งไว้ 2 นาที

ที่มา : liekr.comthaismescenter.com

2.ขนมทองหยิบ

อุปกรณ์

  • กระทะทองเหลือง
  • ชามผสม
  • กระชอน

ส่วนผสม

  • ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง
  • ไข่แดงของไข่เป็ด 3 ฟอง
  • แป้งข้าวจ้าว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งมัน 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 400 มิลลิลิตร
  • กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 600 กรัม
  • ใบเตย 1 ใบ
  • น้ำเชื่อม 700 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. นำน้ำเปล่า น้ำตาลทราย ใบเตย กลิ่นมะลิ ต้มรวมกันในกระทะทองเหลือง ใช้ไฟแรงและห้ามคนโดยเด็ดขาด
  2. นำแป้งผสมรวมกัน แล้วนำไปร่อนให้ละเอียดด้วยกระชอน
  3. นำไข่แดงทั้งหมดตีให้ขึ้นฟู (ประมาณ 5 นาที) จากนั้นใส่แป้งลงในไข่ไก่ ผสมให้เข้ากัน
  4. ตักใบเตยออกจากกระทะ ปิดแก๊ส แล้วใช้ช้อนตักส่วนผสมแป้งและไข่ไก่หยอดลงในกระทะ ไข่จะแผ่เป็นวงกลม ระวังอย่าให้ติดกัน จากนั้นเปิดไฟกลางให้ขนมสุกทั้งสองด้าน
  5. ตักขึ้นพักไว้ให้เย็นในถ้วยน้ำเชื่อม จับจีบขนมโดยวางใส่ถ้วยหรือแม่พิมพ์ที่เตรียมไว้

ที่มา : foodtravel.tvezythaicooking.comingprangtip.blogspot.com

3. ขนมทองหยอด

อุปกรณ์

  • กระทะทองเหลือง

ส่วนผสม

  • ไข่เป็ด 10 ฟอง
  • แป้งทองหยอด/แป้งข้าวเจ้า 3 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเชื่อม
  • น้ำลอยดอกไม้ 4 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 5 1/2 ถ้วย
  • น้ำเชื่อมหล่อขนม
  • น้ำลอยดอกไม้ 1 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
  • ใบตอง

วิธีทำ

  1. ใส่น้ำตาลและน้ำลงในกระทะ ตั้งไฟให้เดือด จนน้ำตาลละลาย ใส่ภาชนะพักไว้
  2. แยกไข่ขาวและไข่แดงออกจากกัน แลเวนำไข่แดงวางบนผ้าขาวบาง บีบไข่แดงลงไปในชามผสมเพื่อกรองเยื่อไข่แดงให้ไข่เนียนยิ่งขึ้น แล้วตีไข่แดงให้ขึ้นฟู (ประมาณ 5 – 10 นาที)
  3. แล้วใส่แป้งทองหยอดหรือแป้งข้าวเจ้า 2-3 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากัน แต่อย่าคนนานเพราะแป้งจะเหนียว
  4. ใส่น้ำตาลทรายและน้ำลงในกระทะ ตั้งไฟให้เดือด รอจนน้ำตาลละลาย เมื่อน้ำเชื่อมเดือด ให้ตักแป้งขึ้นมาแล้วทำให้เป็นก้อนกลม หยอดใส่กะทะ (เวลาหยอดต้องให้น้ำเชื่อมเดือดฟูอยู่ตลอดเวลา) เมื่อขนมลอยขึ้น แสดงว่าสุกได้ที่ ให้ใช้กระชอนช้อนขึ้น ตักใส่ในน้ำเชื่อมที่แยกไว้

ที่มา : ingprangtip.blogspot.comfoodtravel.tv, food.mthai.comoknation.nationtv.tv

4. ขนมทองพลุ

อุปกรณ์

  • กระทะ

ส่วนผสม

  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำเชื่อม
  • น้ำมันสำหรับทอด
  • แป้งสาลี 1 ถ้วย
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • น้ำสะอาด 1 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ใส่ผสมแป้งสาลีกับเกลือป่นเข้าด้วยกัน แล้วเทลงในน้ำเดือด คนเร็วๆ อย่าให้เป็นเม็ด ปิดไฟ ยกลง
  2. ตอกไข่ทั้งหมดใส่ลงในส่วนผสมขณะที่ยังร้อนอยู่ คนให้เข้ากัน
  3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ใช้ไฟกลาง ใช้ปลายช้อนตักขนมแล้วใช้นิ้วปาดให้แป้งหล่นลงไปเป็นรูปทรงกลม
  4. ทอดจนขนมพองสุกเป็นสีเหลืองทอง
  5. ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน
  6. จัดใส่จาน เสริฟคู่กับน้ำเชื่อม

ที่มา : thaifoodcookbook.netsoodded.combloggang.com

5. ขนมทองโปร่ง หรือ ขนมหน้านวล

อุปกรณ์

  • กระทะ

ส่วนผสม

  • ไข่แดง 4 ฟอง
  • น้ำตาลทรายป่น 100 กรัม
  • แป้งสาลี 15 กรัม
  • กลิ่นมะลิ หรือ วนิลา
  • น้ำมันพืช
  • แม่พิมพ์ขนมรูปเรือ

วิธีทำ

  1. ตีไข่แดงทั้งหมดให้ขึ้นฟู แล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละนิดๆ จนหมด
  2. ค่อยๆ ใส่แป้งเค้กลงไป คนเบาๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน พักไว้
  3. ทาพิมพ์ด้วยน้ำมันพืชให้ทั่ว เรียงพิมพ์ใส่ถาด แล้วนำเข้าเตาอบเพื่อให้พิมพ์ร้อน (ประมาณ 2-3 นาที)
  4. นำส่วนผสมที่พักไว้ใส่ลงในพิมพ์ ปริมาณ ¾ ของพิมพ์ อบที่อุณหภูมิประมาณ 150 – 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 15 นาที
  5. เมื่อขนมสุกแล้ว นำขนมแกะออกจากพิมพ์

ที่มา : th.openrice.combloggang.com, Youtube:FoodTravelTVChannel

6. ขนมฝอยทอง

อุปกรณ์

  • กระทะทองเหลือง
  • กระชอน
  • กรวยทำฝอยทอง
  • ชามผสม

ส่วนผสม

  • ไข่แดงของไข่เป็ด 3 ฟอง
  • ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง
  • กลิ่นดอกมะลิ 1/2 ช้อนชา
  • ใบเตย 1 ใบ
  • น้ำตาลทราย 600 กรัม
  • น้ำเปล่า 400 มิลลิลิตร

วิธีทำ

  1. นำน้ำเปล่า น้ำตาลทราย ใบเตย กลิ่นมะลิ ต้มในกระทะทองเหลือง ใช้ไฟแรง ห้ามคนเด็ดขาด
  2. แยกไข่แดงและไข่ขาว แล้วตีให้เข้ากัน นำไปกรองด้วยกระชอน จากนั้นตักไข่ใส่กรวยสำหรับทำฝอยทอง
  3. ตักใบเตยออกจากกระทะ แล้วหยอดไข่ให้เป็นสาย วนให้รอบกระทะทองเหลืองประมาณ 20- 30 รอบ ต่อ 1 ชิ้น
  4. ใช่ไม้ปลายแหลม ค่อยๆ ช้อนฝอยทองขึ้นมาให้เป็นแผ่น วางพักไว้บนตะแกรง 30 นาที
  5. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ

ที่มา : foodtravel.tvzythaicooking.comsites.google.compatampatan.com, sudaratsangsin.wordpress.com

7. ขนมกะหรี่ปั๊บ (ไส้ไก่)

อุปกรณ์

  • กระทะ
  • ผ้าขาว
  • ชามผสม

ส่วนผสม

  • น้ำมันรำข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  • หอมใหญ่ 100 กรัม
  • เนื้ออกไก่ 200 กรัม
  • มันเทศ 300 กรัม
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
  • ผงกะหรี่ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
  • น้ำเย็น 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปูนใส 6 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 270 กรัม (สำหรับชั้นแป้งนอก)
  • น้ำมันรำข้าว 6 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำแป้งชั้นนอก)
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 140 กรัม (สำหรับแป้งชั้นใน)
  • น้ำมันรำข้าว 6 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแป้งชั้นใน)

วิธีทำแป้งชั้นนอก

  1. ผสมแป้ง น้ำตาล เกลือ ในอ่างผสม
  2. ผสมของเหลวทุกอย่างเข้าด้วยกัน
  3. ค่อยๆ เทของเหลวลงในแป้งทีละนิดๆ ในขณะที่นวดไปด้วยจนแป้งเนียนนุ่ม ไม่ติดมือ (ห้ามเทพรวดลงทีเดียว จะทำให้แป้งแฉะ)
  4. แบ่งแป้งเป็นก้อนเล็กๆ ขนาดประมาณ 30 กรัม แล้วใช้ผ้าขาวบางคลุมพักไว้

วิธีทำแป้งชั้นใน

  1. นวดแป้งกับน้ำมันรำข้าวจนเนื้อเนียนนุ่ม ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดประมาณ 13 กรัม ให้มีจำนวนเท่ากับแป้งชั้นนอก แล้วใช้ผ้าขาวคลุมไว้ พักแป้งประมาณ 10 นาที

วิธีทำไส้ไก่

  1. ใส่น้ำมันรำข้าวและหอมหัวใหญ่ลงไปผัดในกระทะ จากนั้นก็ใส่เนื้ออกไก่ และ มันเทศหั่นเต๋า
  2. ปรุงรสด้วยพริกไทยป่น เกลือป่น ซอสปรุงรส ผงกะหรี่ และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากันจนทุกอย่างสุกและเหนียว สามารถนำมาปั้นได้ แล้วตักใส่จานพักไว้

วิธีทำ

  1. คลึงแป้งชั้นนอกและชั้นใน แล้วนำไส้ที่ผัดไว้มาปั้นเป็นก้อนกลมๆ นำมาห่อกับแป้ง จับจีบให้เป็นรูปทรงกะหรี่ปั๊บ
  2. นำกะหรี่ปั๊บลงทอดให้เหลืองกรอบ วางพักไว้เพื่สะเด็ดน้ำมัน
  3. จัดใส่จานเสิร์ฟ

ที่มา : food.mthai.commeinethaikuche.blogspot.comdistrict.cdd.go.th

8. ขนมหม้อแกง

อุปกรณ์

  • ผ้าขาวบาง
  • กระทำ
  • เครื่องปั่นน้ำผลไม้
  • แม่พิมพ์

ส่วนผสม

  • ไข่เป็ด 10 ฟอง
  • กะทิ 500 มิลลิลิตร
  • น้ำตาลมะพร้าว 550 กรัม
  • เผือกนึ่งสุก 200 – 250 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ใบเตยหอม ใบใหญ่ 5 ใบ หั่นเป็นท่อนสั้น
  • หอมแดงปอกเปลือก ซอยบางๆ 1 + 1/2 ถ้วย
  • น้ำมันสำหรับเจียวหอมแดง 1 ถ้วย

วิธีทำ

  1. นำหอมแดงไปเจียวในน้ำมันจนเหลืองและกรอบ (ควรใช้ไฟอ่อน)
  2. ผสมไข่ น้ำตาลมะพร้าว กะทิและเกลือ ขยำให้ส่วนผสมเข้ากัน จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด แล้วนำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง พักไว้
  3. ใส่แป้งข้าวเจ้า เผือกและกะทิลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ แล้วปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  4. นำแป้งข้าวเจ้าและเผือกที่ผสมกันแล้ว ใส่ลงในส่วนผสมที่กรองแล้ว คนให้เข้ากัน
  5. เทส่วนผสมทั้งหมดลงในกระทะที่เจียวหอมแดง ตามด้วยน้ำมันที่ใช้เจียวหอมแดง (ประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะ)
  6. กวนส่วนผสมในกระทะ โดยใช้ไฟปานกลาง จนกระทั่งส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น แล้วยกออก
  7. เทส่วนผสมลงในแม่พิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส  ประมาณ 30-40 นาที
  8. โรยหอมแดงเจียวลงในขนมที่อบเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ที่มา : ezythaicooking.compim.in.th, goodlifeupdate.com, pinterrest.com,

9. สังขยา

อุปกรณ์

  • ชามผสม
  • กระชอน
  • ซึ้งนึ่ง

ส่วนผสม

  • กะทิ 200 มิลลิลิตร
  • ไข่เป็ด 4 ฟอง
  • ใบเตย 4 ใบ
  • น้ำตาลปี๊บ 80 กรัม
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. ตีไข่เป็ดในชามผสม ใส่เกลือ น้ำตาลปี๊บ กะทิ และใบเตย
  2. ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนน้ำตาลปี๊บละลาย
  3. นำส่วนผสมทั้หมดกรองด้วยกระชอน แล้วเทใส่ถ้วย
  4. เตรียมซึ้งนึ่งและใส่น้ำต้มให้เดือด นำสังขยาในถ้วนนึ่งประมาณ 30 นาที
  5. จัดใส่จาน ส่วนมากเสริฟ์พร้อมกับข้าวเหนียวมูน ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ

ที่มา : th.openrice.comfoodtravel.tvpstip.comviteetam.comroyalthaicuisine.blogspot.com

10. ขนมผิง

อุปกรณ์

  • กระทะ
  • ชามผสม
  • ถาดอบ
  • เตาอบ

ส่วนผสม

  • แป้งมัน 2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 150 กรัม
  • กะทิ 1/2 ถ้วย
  • ไข่แดง(ไข่ไก่) 1 ฟอง
  • น้ำลอยดอกไม้ 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะ ต้มกะทิจนเดือดพอประมาณ แล้วใส่น้ำตาลลงไป เคี่ยวจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ปิดไฟ พักไว้
  2. ใส่ไข่ ร่อนแป้งมัน ลงไปผสมกับส่วนผสมกะทิที่พักไว้ แล้วนวดจนนิ่ม แล้วหมักทิ้งไว้ 1 คืน
  3. ใส่น้ำลอยดอกไม้ลงไปในส่วนผสมแป้งที่หมักทิ้งไว้แล้ว นวดอีกครั้ง จากนั้นปั้นเป็นก้อนกลมขนาดเล็ก
  4. ทาน้ำมันบนถาดอบ วางแป้งที่ปั้นไว้ลงในถาด เว้นระยะให้ห่างกันโดยประมาณ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่าแป้งจะเป็นสีน้ำตาลอ่อน
  5. นำขนมออกจากเตา แล้วแซะขนมออกจากถาดขณะร้อน ทิ้งไว้ให้เย็น
  6. จัดจานเสิร์ฟ หรือเก็บใส่ขวดโหลหรือใส่ถุง

ที่มา : th.openrice.comfoodtravel.tvpuyingtoday.comเพจขนมผิงทองม้วนแม่กุหลาบ

11. ขนมสัมปันนี

อุปกรณ์

  • แม่พิมพ์
  • กระทะ

ส่วนผสม

  • น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วย
  • กะทิ 1 ½ ถ้วย
  • แป้งมันสัมปะหลัง 2 ½ ถ้วย
  • สีผสมอาหารตามชอบ
  • แป้งมันสัมปะหลังสำหรับโรยพิมพ์กันขนมติด

วิธีทำ

  1. คั่วแป้งมันสัมปะหลัง ด้วยไฟอ่อนๆ จนแป้งไม่ติดกระทะ ยกลง พักไว้
  2. ผสมน้ำตาลกับกะทิ คนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้ละลาย เมื่อเดือดแล้วให้ลดไฟลง เคียวไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมเป็นยางมะตูม ปิดไฟ ยกลงพักไว้
  3. นำส่วนผสมข้อ 2 มาแบ่งใส่สีผสมอาหารตามต้องการ แล้วค่อยๆ ใส่แป้งมันสัมปะหลังที่คั่วแล้ว คนให้เข้ากันจนพส่วนผสมพอปั้นได้
  4. ยกลงทิ้งไว้ให้อุ่น อัดใส่แม่พิมพ์จนแน่น แล้วเคาะออก ใส่จานเสิร์ฟ

ที่มา : goodlifeupdate.comutcc2.utcc.ac.thmenu360.blogspot.com, cookpad.com,

12. ขนมไข่เต่า

อุปกรณ์

  • ถาด
  • กระทะ
  • กระชอน

ส่วนผสม

  • มันเทศนึ่งบด 500 กรัม
  • แป้งมัน 200 กรัม
  • แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
  • ผงฟู 1+1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 150 กรัม
  • น้ำมันสำหรับทอด
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ

  1. นำแป้งทั้งสามชนิดและผงฟู ร่อนเข้าด้วยกัน
  2. นำมันเทศที่นึ่งสุกแล้วบดให้ละเอียด เติมน้ำตาลและเกลือลงไปนวดให้ส่วนผสมเข้ากัน นำแป้งที่ร่อนแล้วมาผสมนวดต่อจนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
  3. ใส่เกลือป่น น้ำตาลทรายและผงฟู แล้วนำมันเทศที่บดเสร็จแล้วมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดกลาง ให้เท่ากัน เพื่อจะได้สุกพร้อมๆ กันเวลาทอด
  4. ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรง รอจนน้ำมันร้อน แล้วจึงใส่ขนมลงไป (ใส่ขนมเมื่อน้ำมันร้อนเท่านั้น เพราะขนมจะได้ไม่อมน้ำมัน)
  5. เมื่อขนมสุกสีเหลืองทองแล้ว ใช้กระชอนตักขึ้นมา พักไว้เพื่อสะเด็ดน้ำมัน
  6. จัดใส่จานเสิร์ฟ

ที่มา : th.openrice.comcookpad.com, food.mthai.com,

13. ขนมลูกชุบ

อุปกรณ์

  • ไม้เสียบลูกชิ้น (ขนาดเล็ก)
  • แผ่นโฟม
  • พู่กันทาสี
  • สีผสมอาหาร
  • ถ้วย
  • ผ้าขาวบาง
  • เครื่องปั่นไฟฟ้า
  • กระทะทองเหลืองหรือกระทะเทฟลอน

ส่วนผสม

  • ถั่วเขียวเลาะเปลือก 450 กรัม
  • น้ำกะทิ 400 กรัม
  • สีผสมอาหารตามใจชอบ
  • น้ำตาลทราย 200 กรัม (สำหรับผสมถั่ว)
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับทำน้ำวุ้น)
  • วุ้นผง 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง (สำหรับทำน้ำวุ้น)

วิธีทำ

  1. นำถั่วเขียวเลาะเปลือกมาทำความสะอาด แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วนำไปนึ่งให้สุก (ประมาณ 15 นาที)
  2. นำถั่วเขียวที่นึ่งสุก ใส่ในเครื่องปั่นไฟฟ้า เติมน้ำตาลทรายและน้ำกะทิลงไป ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  3. เทส่วนผสมลงในกระทะทองเหลืองหรือกระทะเทฟลอน ใช้ไฟอ่อนค่อยๆ กวนจนข้นและเหนียว (ใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาที) ปิดไฟและทิ้งไว้ให้เย็น
  4. ก่อนปั้นให้นวดส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วปั้นให้เป็นรูปทรงต่างๆ ตามใจชอบ
  5. เมื่อปั้นเสร็จให้เสียบไม้เสียบลูกชิ้นรอไว้
  6. ผสมสีผสมอาหารตามต้องการ แล้วใช้พู่กันทาสีลงบนถั่วปั้น
  7. ทำน้ำวุ้น โดยผสมน้ำเปล่า ผงวุ้นและน้ำตาล ลงในหม้อ แล้วตั้งไฟปานกลาง คนอย่างสม่ำเสมอ รอจนส่วนผสมเดือด เบาไฟ
  8. นำถั่วปั้นตกแต่งสีแล้วชุบในน้ำวุ้น ควรชุบประมาณ 2 – 3 ครั้ง ระหว่างชุบต้องอุ่นน้ำวุ้นด้วยไฟอ่อนๆ เพื่อไม่ให้วุ้นแข็ง
  9. นำลูกชุบออกจากไม้เสียบลูกชิ้น จัดใส่จานเสิร์ฟ

ที่มา : ezythaicooking.comsites.google.com, nongyai.ac.thsupaatihug.wordpress.com

บทความแนะนำ