คลายเครียด

ชีวิตดี๊ดี ด้วย 9 วิธีนี้! แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ก็หายเครียด

Home / เรื่องทั่วไป / ชีวิตดี๊ดี ด้วย 9 วิธีนี้! แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ก็หายเครียด

ทุกวันนี้มีคนเป็นโรคซีมเศร้ากันมากขึ้น คนที่ต้องไปพบจิตแพทย์มากขึ้น แสดงให้เห็นว่าโลกของเราในปัจจุบันมีเรื่องให้คิดให้เครียดมากขึ้น บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากที่เราจะเลิกเครียด เลิกวิตกกังวล แต่ลองมาดูวิธีที่คนเหล่านี้แนะนำกัน เป็นวิธีง่าย ๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ใครอยากรู้ว่าจะช่วยได้จริงมั้ย ก็ลองจำแล้วนำไปใช้กันดูได้เลย!

แค่ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ก็หายเครียด หายกังวล

เก็บเตียงให้เนี้ยบ

“ไม่มีวันไหนที่ฉันลุกออกจากเตียง แล้วปล่อยให้ผ้าห่มกอง หรือหมอนอยู่ตรงปลายเตียง ฉันจะเก็บเตียงให้เรียบร้อยทุกครั้ง ไม่ว่าจะตื่นสายขนาดไหน มันทำให้ฉันรู้สึกว่า วันนั้นฉันได้ทำอะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน และไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันที่แย่ขนาดไหน ฉันก็มีสิ่งดี ๆ รออยู่ที่บ้าน” — Clarissa L.

ปฏิเสธซะบ้าง

“อย่ากลัวที่จะปฏิเสธคนอื่น ฝึกพูดคำว่า “ไม่” ให้ชินปาก อย่าเกรงใจคนอื่นให้มากนัก เพราะมีแต่เราเองที่จะเป็นทุกข์ และฉันเชื่อว่าการที่เราปฏิเสธไป มันต้องมีเหตุผลรับรองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคนฟังก็ควรจะเคารพคำพูด อย่ามาเซ้าซี้” — Saige D.

ฝึกคิดบวก

“ก่อนนอนทุกคืน ฉันจะลิสท์ 3 สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกดีในแต่ละวัน แต่ละวันต้องห้ามซ้ำกันนะ” — Crystal G.

“เมื่อไหร่ที่ฉันเผลอคิดลบขึ้นมา ฉันจะหยุดคิด แล้วเปลี่ยนไปนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่ทำให้ฉันแฮปปี้แทน อย่างตอนที่ฉันได้เกรดห่วย ๆ ก็จะนึกไปถึงตอนที่ฉันได้ A ทุกวิชามา สี่เทอมรวด  อาจจะฟังดูแปลกนะ แต่มันเป็นวิธีที่เวิร์กจริง ๆ — Karri H.

ปิดเสียงโทรศัพท์

“ฉันไม่เปิดเสียงโทรศัพท์เลย ไม่ว่าจะเป็นเสียงโทรเข้า หรือเสียงเตือนแอปต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้เลยว่าความเครียด ความกังวล จะมาจากโทรศัพท์ที่คนโทรเข้า และข้อความที่เด้งขึ้นมาจนะกระทั่งวันนี้” — Kathryn W.

ไม่ใช้เวลากับหน้าจอเยอะเกินไป

“ในโทรศัพท์ของฉันไม่มีแอปเฟซบุ๊ก ฉันลบออกไปเอง อันที่จริงถ้าจะเล่นจริง ๆ ก็ยังเข้าผ่านเว็บเบราเซอร์ได้ แต่มันก็จะลำบากหน่อย แต่ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องไปจดจ่อกับมันมากนัก” — Randi D.

“ฉันจะจำกัดเวลาในการใช้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพราะทุกครั้งที่เล่นเฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรม เห็นชีวิตของคนนู้นคนนี้ ฉันก็ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบทุกทีเลย” — Jen S.

เตรียมตัวให้พร้อมกับวันใหม่

“ฉันจะตื่นเร็วหน่อย เพื่อจะได้มีเวลาอยู่คนเดียว ได้อยู่กับตัวเอง ก่อนที่ทุกคนในบ้านจะตื่น” — Alicia H.

“ทุกเช้าฉันจะมีเวลาให้ตัวเองได้เตรียมตัวให้พร้อมกับวันใหม่ เชื่อมั้ยว่าชีวิตฉันเปลี่ยนไปเยอะเลย หลังจากที่ฉันได้ลองวิธีนี้ เพราะการที่เราออกจากบ้านพร้อมกับมายด์เซ็ทดี ๆ จะทำให้วันนั้นกลายเป็นวันที่ดีของเราเลยล่ะ” — Stephanie Q.

เลิกคาเฟอีน

“ฉันเลิกคาเฟอีนมาสักพักแล้ว แถมยังกินน้ำมากขึ้นด้วยนะ นักบำบัดบอกว่ามันช่วยได้ และมันก็ช่วยได้จริง ๆ ฉันสังเกตตัวเองมาสักพักหลังจากเลิกคาเฟอีน ฉันไม่ค่อยมีอาการวิตกกังวลแล้ว” — Amanda W.

“ช่วงนี้ฉันไม่แตะกาแฟเลย แล้วรู้อะไรมั้ย อาการแพนิคของฉันมันหายไปแล้ว! อาจจะยากหน่อยนะ โดยเฉพาะคนที่ติดกาแฟ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มแน่นอน” — Polly B.

สิ่งที่ทำก่อนนอนก็สำคัญ

“ก่อนจะโดดขึ้นเตียง ฉันจะต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ เลือกชุดที่จะใส่ เตรียมของ เตรียมกระเป๋า เพราะตอนเช้าจะได้ไม่ต้องหัวปั่น” — Alexis H.

“ก่อนนอนทุกคืน ฉันจะนั่งลิสต์สิ่งที่ต้องทำในวันถัดไป เชื่อมั้ยว่าวิธีมันช่วยให้อาการนอนไม่หลับของฉันมันดีขึ้นได้จริง ๆ เพราะฉันไม่ต้องนอนกังวลว่าฉันจะพลาดอะไรหรือเปล่า” — Maisie B.

ฝึกสมาธิ

“โยคะ กับฝึกสมาธิสิ! การที่เรามีสมาธิมันช่วยได้เยอะเลยนะ ทำให้เราอยุ่กับปัจจุบัน ไม่ต้องนึกถึงอดีต ไม่ต้องกังวลกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง” — Eirenne E.

“ฉันฝึกสมาธิมาสักพักแล้ว ในโทรศัพท์ก็โหลดแอปที่ช่วยฝึกสมาธิเอาไว้เลย ทุกวันนี้ฉันทำวันละ 2 ครั้ง เช้ากับก่อนนอน มันช่วยได้เยอะเลยล่ะ” — Brianna N.

ขอบคุณที่มาจาก: huffingtonpost

Written by: Typrn

บทความแนะนำ