เรื่องของความปวดเมื่อยห้ามกันไม่ได้เลย ยิ่งถ้าใครเป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานในท่าเดิมๆ หลายชั่วโมง โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนท่านั่ง ก็อาจส่งผลทำให้เป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ซึ่งจะมีอาการปวดบ่าหลังไหล่ สร้างความทรมานให้กับการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันมีทางออกในการรักษาโรคนี้อยู่หลากหลายวิธี และหลายๆ วิธีก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ และยิ่งถ้ามีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตบางอย่างร่วมด้วย อาการปวดบ่าหลังไหล่ที่เกิด ก็อาจหายไปได้อย่างง่ายๆ ด้วยเช่นกัน
เราไปดูกันว่า อาการปวดหลังหรืออาการออฟฟิศซินโดรมเหล่านี้จะสามารถรักษาเบื้องต้นได้อย่างไรได้บ้าง หากอาการยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น รับรองว่านำไปปรับใช้ รักษาหายแน่นอน
1. ร้านนวดคือที่พึ่ง
ถ้าจะบอกว่า การเข้าร้านนวดเพื่อเข้ารับการนวดผ่อนคลาย ก็สามารถช่วยคลายอาการปวดบ่าหลังไหล่ได้คงไม่ผิดไปนัก ยิ่งในสมัยนี้การนวดได้เข้ามาตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตของมนุษย์ทำงานออฟฟิศหลายๆ คน เพราะกล้ามเนื้อที่เกิดอาการปวดเกร็ง เพราะเส้นตึง ไม่ว่าจะบริเวณไหล่และบ่า (มนุษย์เงินเดือนมักมีอาการปวดในลักษณะนี้กันมาก) การไปนวดก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ได้ดีและได้ผล อีกทั้งร้านนวดยังมีการนวดให้เลือกได้ผ่อนคลายหลายๆ แบบ ไม่ว่าจะเป็นการนวดไทย นวดเท้า หรือนวดน้ำมัน แต่ถ้าหากใครไม่มีเวลา บางร้านนวดก็ยังมีบริการส่งผู้เชี่ยวชาญการนวดมานวดให้ถึงออฟโต๊ะทำงานที่ออฟฟิศเลยก็มี ใครที่มีอาการปวดบ่าหลังไหล่ลองหาข้อมูลกันก่อนได้เลย
2. การเล่นโยคะก็ช่วยได้
เพราะอาการปวดบ่าหลังไหล่จากการทำงานนั้น เกิดจากการกล้ามเนื้อไม่ได้รับการผ่อนคลาย เพราะต้องนั่งอยู่ในท่าเดิมๆ หรือมีลักษณะของโต๊ะหรือเก้าอี้ทำงานไม่เหมาะสม รวมถึงการไม่ได้ยืดเส้นยืดสาย หรือเดินลุกขึ้นเดินระหว่างการทำงาน แต่รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในวิธีที่คนปวดหลังหลายๆ คนเลือกใช้และได้ผลเป็นอย่างดี นั่นก็คือการเล่นโยคะ เพราะการเล่นโยคะมีท่าสำหรับยืดกล้ามเนื้อเฉพาะจุดโดยเฉพาะ อีกทั้งยังท่ายืดบ่า ไหล่ หลัง อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นท่าที่ทำไม่ยาก และหากทำเป็นประจำก็จะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดจากอาการออฟฟิศซินโดรมกันได้มากเลยทีเดียว สำหรับใครที่สนใจการเล่นโยคะเบื้องต้นสำหรับลดอาการปวดหลังแบบนี้ ลองค้นหาคำว่า ‘โยคะลดปวดหลัง’ ได้ใน youtube กันก่อนได้เลย แล้วลองค่อยๆ ทำตามกันดู คุณอาจจะค้นพบวิธีการที่ช่วยทำให้หายปวดหลังก็เป็นได้
3. ปรับเปลี่ยนวิธีการนั่งทำงาน
อย่างที่กล่าวไปว่า บางครั้งวิธีการนั่งทำงานที่เราทำอยู่เป็นประจำ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิดอาการปวดบ่าหลังไหล่อยู่ในขณะนี้ก็เป็นได้ ฉะนั้นแล้ว คงไม่มีอะไรจะเสียหากเราได้ลองเปลี่ยนรูปแบบการนั่งทำงานเสียใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลองหาโต๊ะ หรือ เก้าอี้ที่เหมาะสมต่อการทำงานโดยเฉพาะ อีกทั้งพยายามไม่นั่งทำงานท่าเดิมเป็นเวลานานๆ หรือคุณอาจลองหยุดพักสายตาทุกๆ หนึ่งหรือสองชั่วโมง ด้วยการเดินไปกดน้ำ ซื้อกาแฟ หรือไปยืดเส้นยืดสายด้วยการบิดขี้เกียจเพื่อให้ร่างกายเกิดการเคลื่อนไหวดูบ้าง อาการปวดเหล่านี้อาจจะดีขึ้นก็ได้ใครจะไปรู้