ถือสัญชาติอเมริกันดีอย่างไร?

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พ่อแมจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก วางรากฐานและอนาคตให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามความคิดและปัจจัยที่มีของพ่อแม่ เช่น บางคู่เลือกที่จะวางแผนให้ลูกเรียนที่นั่นที่นี่ บางคู่เลือกที่จะฝากเงินให้ลูกจนโต บางคู่เลือกที่จะไม่วางอนาคตเพื่อให้เด็กใช้ชีวิตของตัวเอง เป็นต้น

ถือสัญชาติอเมริกันดีอย่างไร

อีกหนึ่งทางเลือกของพ่อแม่หลายคู่ เลือกให้ลูกเกิดที่ต่างประเทศ เพื่อให้เด็กได้ถือสัญชาติในประเทศนั้นๆ เพราะต้องการสวัสดิการและประโยชน์จากการเป็นพลเมืองนั่นเอง ซึ่งการจะตัดสินว่าทางเลือกใดถูกหรือไม่ถูก ควรหรือไม่ควรนั้น ไม่มีใครให้คำตอบได้

ดังเช่นในกรณีดราม่าของ “หมอแอร์ พ.ต.ท. พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล” แพทย์ประจำกลุ่มจิตเวช และยาเสพติด อดีตรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่โพสภาพที่ตนเองตั้งท้อง โดยที่ท้องของเธอเขียนข้อความว่า ‘แม่ครับ ผมเกิดที่ ไมอามี่ ได้ไหมครับ’ พร้อมแคปชั่น ‘สำหรับคนที่สนใจคลอดบุตรในสหรัฐอเมริกา เพื่ออนาคตและโอกาสที่ดีของลูก ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ’ ซึ่งจากโพสดังกล่าว ทำให้หลายคนในโลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของเธอเป็นอย่างมาก อาทิ ตนเองเป็นข้าราชการแท้ๆ แต่กลับอยากให้ลูกเป็นสัญชาติอเมริกา

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2562 หมอแอร์ก็ได้คลอดลูกชาย “น้องอเล็กซ์ซานเดอร์” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่โรงพยาบาลในรัฐไมอามี่ สหรัฐอเมริกา แข็งแรงดีทั้งคุณแม่คุณลูก ทางแคมปัส-สตาร์ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ

ทำไมถึงอยากได้สัญชาติอเมริกัน

เป็นเรื่องปกติที่พลเมืองในประเทศที่ด้อยพัฒนาหรือกำลัง อยากที่จะอาศัยอยู่ในประเทศที่เจริญกว่าหรือพัฒนาแล้ว ซึ่งการจะขอสัญชาติหรือขอเป็นพลเมืองในประเทศที่พัฒนาแล้วทำได้ยาก แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดา เป็นเพียง 2 ประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่มีกฎหมายเปิดทางให้ถือสัญชาติตามสถานที่เกิด โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติของพ่อแม่ หมายความว่า ‘เด็กเกิดในอเมริกาก็จะได้สัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัติ’

ทำให้มีพ่อแม่หลายคู่ใช้วิธีเดินทางมาคลอดลูกในประเทศดังกล่าว เพื่อเป็นทางลัดให้ลูกของตนได้สัญชาติ เพราะจะได้รับประโยชน์ต่างๆ จากการเป็นพลเมือง หรือเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดในประเทศของตน เช่น นโยบายการมีลูกคนเดียวในประเทศจีน (ไม่นับลูกที่เกิดนอกประเทศจีน) การเกณฑ์ทหาร เป็นต้น

ข้อดีของการถือสัญชาติอเมริกัน

สหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่พ่อแม่ส่วนใหญ่เลือกที่จะมาคลอดลูก เนื่องจากการถือสัญชาติอเมริกันจะได้รับสิทธิต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเด็กและพ่อแม่ ดังนี้

ได้รับสวัสดิการต่างๆ เหมือนที่เด็กอเมริกันได้รับ คือการเรียนฟรีในชั้นประถมและมัธยมศึกษา การรับเงินช่วยเหลือจากรัฐ ตลอดจนการรับทุนการศึกษา
สามารถทำงานที่กันไว้สำหรับพลเมืองสหรัฐฯ ได้ เช่น งานของรัฐบาล
สามารถเดินทางกลับมายังอเมริกาเมื่อไรก็ได้เมื่อโตขึ้น
เมื่ออายุครบ 21 ปี ผู้ที่เกิดในอเมริกาจะสามารถขอใบรับรองการอยู่อาศัยถาวรในสหรัฐฯ หรือกรีนการ์ด ให้กับพ่อแม่ของตนได้

มีการเรียกร้องและถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องการให้สัญชาติแก่เด็กที่เกิดในอเมริกาอยู่หลายครั้ง ตั้งแต่ปี 1989 แต่ศาลสูงสุดสหรัฐก็ยืนยันว่า ‘สิทธินี้ควรเป็นของทุกคนที่เกิดในดินแดนของสหรัฐฯ ไม่ใช่เฉพาะลูกของพลเมืองเท่านั้น’ แม้แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบัน ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงและยกเลิกเรื่องนี้ก็ยังไม่สามารถทำได้ เพราะมีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดว่า “บุคคลที่เกิดหรือแปลงสัญชาติในสหรัฐอเมริกาตลอดจนในขอบเขตอำนาจศาลของสหรัฐอเมริกา ย่อมเป็นพลเมืองสหรัฐ” นั่นเอง

การเดินทางมาคลอดลูกในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงกลายเป็นธุรกิจที่รุ่งเรืองและถูกกฎหมายที่เรียกกันว่า “Birth Tourism หรือ การท่องเที่ยวเพื่อคลอดบุตร” ซึ่งจะให้บริการตั้งแต่การขอวีซ่า ที่พัก โรงพยาบาล ผู้ดูแลเด็ก การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย หรือแม้กระทั่งช่วยเหลือในการขอเอกสารสัญชาติอเมริกันของเด็กเกิดใหม่ แน่นอนว่ามาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิบเกือบๆ 1 ล้านบาท

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention – CDC) รายงานสถิติเกี่ยวกับการกำเนิดของทารกว่า ในปี 2000 มีทารกที่เกิดจากชาวต่างชาติที่เรียกว่า ‘Anchor Babies’ จำนวน 5,009 คน และเพิ่มเป็น 7,462 คน ในปี 2008 ทำให้ศูนย์ศึกษาคนเข้าเมือง (Center for Immigration Studies) เกิดความคิดที่จะลดการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงทารกเกิดจากชาวต่างชาตินั่นเอง โดยศูนย์ดังกล่าวคาดการณ์ว่าจะมีทารกแรกเกิดจากทัวร์เพื่อการคลอดลูกในสหรัฐอเมริการาว 40,000 คนต่อปี

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก voathai.com, FB:หมอแอร์, IG:@morair, en.wikipedia.org