8 มิถุนายน วันทะเลโลก (World Ocean Day) วัตถุประสงค์ของการที่มีวันนี้ก็เพื่อ เผยแพร่ความรู้ และกระตุ้นให้ประชากรทั่วโลกมีจิตสำนึก เล็งเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในท้องทะเลนั่นเองจ้า ซึ่งเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2535 โดยความร่วมมือของ กลุ่มประชาคมโลก (The Earth Summit) ที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล วันนี้เราเลยมีความรู้เกี่ยวกับท้องทะเลมาฝากทุกคนค่ะ
8 มิถุนายน วันทะเลโลก
50 เรื่องเกี่ยวกับท้องทะเลที่ควรรู้ไว้!
1. มหาสมุทรปกคลุมพื้นที่ถึง 70% ของผิวโลก
2. มากกว่า 90% ของสิ่งมีชีวิตบนโลก (เทียบด้วยมวลชีวภาพ) อยู่ในทะเล
3. 80% ของมลภาวะทางทะเลมาจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนผืนดิน
4. 40% ของประชากรโลก อาศัยอยู่ในระยะ ๖๐ กิโลเมตร จากฝั่งทะเล
5. 3 ใน 4 ของเมืองใหญ่ๆ ในโลก อยู่ติดทะเล
6. ภายใน พ.ศ.2553 80% ของประชากรโลกจะอาศัยอยู่ในระยะ 100 กิโลเมตร จากชายฝั่งทะเล
7. การตายและโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากน้ำทะเลเป็นพิษ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายถึง 12.8พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และเป็นโรคตับอักเสบที่เกิดจากอาหารทะเลปนเปื้อนสารพิษปีละ 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
8. ของเสียที่เป็นพลาสติกได้คร่าชีวิตนกทะเลกว่า 1 ล้านตัว สัตว์ทะเลที่เลี้ยงลูกด้วยนมกว่า 1 แสนตัวและปลาทะเลอีกนับไม่ถ้วน
9. สิ่งมีชีวิตในทะเลตายไปไม่ใช่เป็นเพราะตัวพลาสติกเอง แต่เป็นเพราะการย่อยสลายของพลาสติก พลาสติกที่ย่อยสลายไปแล้วนั้นจะยังอยู่ในระบบนิเวศและยังคงส่งผลร้ายต่อไป
10. ปรากฏการณ์การเจริญเติบโตของสาหร่ายและแพลงก์ตอนพืชอย่างรวดเร็ว (Agal Blooming)¹ เกิดจากสารอาหารในน้ำที่มีมากเกินไปโดยเฉพาะไนโตรเจนที่มาจากปุ๋ยที่ใช้ในการเกษตร ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลขาดออกซิเจนเกือบ 150 แห่งทั่วโลก โดยพื้นที่ของปรากฏการณ์การน้ำขาดออกซิเจนมีตั้งแต่ 1 – 70,000 ตารางกิโลเมตร
8 มิถุนายน วันทะเลโลก เครดิตภาพ: amolife.com
11. ในแต่ละปี น้ำมันประมาณ 21 ล้านบาเรล ไหลลงสู่มหาสมุทร ซึ่งมาจากการชะล้างถนน โรงงาน และเรือเดินสมุทร
12. ในทศวรรษที่ผ่านมา (ปี พ.ศ.2543 – 2553) น้ำมันประมาณ 6 แสนบาเรล รั่วลงทะเลจากอุบัติเหตุเรือและในปริมาณที่เท่ากันอีก 12 ครั้ง เกิดจากการจมของถังน้ำมันเรือ Prestige ในปี พ.ศ. 2545 เพียงปีเดียว
13. น้ำมันที่ขนส่งบนเรือ กว่า 60% เป็นน้ำมันที่ใช้สำหรับการอุปโภคบริโภค
14. มากกว่า 90% ของสินค้าบนโลก ขนส่งโดยทางเรือ
15. แต่ละปี น้ำที่ปล่อยออกมาจากการเดินเรือเพื่อใช้รักษาสมดุล การทรงตัวของเรือ (Ballast Water) ได้ทิ้งออกไปและหมุนเวียนไปทั่วโลกกว่า 1 พันล้านตัน
16. น้ำที่ใช้ในการเดินเรือ (Ballast Water) ทำให้เกิดปัญหาการแพร่กระจายของสัตว์พลัดถิ่น (Exotic Species) เช่น แมงกะพรุน และหอยม้าลาย
17. มลภาวะและสัตว์นำเข้าหรือสัตว์หลงพลัดถิ่น (Exotic Species) กำลังเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นทุกวันในป่า ชายเลน หญ้าทะเลและปะการัง
18. ปะการังเขตร้อนรอบชายฝั่งของ 109ประเทศ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปะการังที่อายุน้อย) เกิดจากการ เสื่อมโทรมกว่า ๙๓ ประเทศ
19. ถึงแม้ว่าปะการังจะกินพื้นที่ไม่ถึง 0.5 % ของพื้นที่มหาสมุทร แต่สิ่งมีชีวิตมากกว่า 90 % ดำรงชีวิต โดยอาศัยปะการังไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
20. ปลาที่อาศัยปะการังกว่า 4,000 ชนิด มีจำนวนถึง 1 ใน 4 ของจำนวนชนิดของปลาทะเลทั้งหมด
เครดิตภาพ: www.mnn.com
21. เกรท แบรี่เออ รีฟ (Great Barrier Reef) เป็นแนวปะการังที่ยาวกว่า 2,๐๐๐ กิโลเมตร และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งสามารถมองเห็นได้จากดวงจันทร์Great Barrier Reef เป็นพืดหินปะการังที่ยาวที่สุดในโลก ยาวกว่า 2,000 กิโลเมตร อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย หรือตอนใต้ของทะเลคอรัล
เริ่มตั้งแต่แหลมยอร์ก (Cape York) ซึ่งอยู่ไกลขึ้นไปทางเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ลงมาถึงบันดะเบอร์ก (Bundaberk) ทางตอนใต้ ครอบคลุมดูแลพื้นที่ 215,000 ตารางไมล์ หรือ 345,000 ตารางกิโลเมตร ของน่านน้ำรอบ ๆ แนวปะการัง และแนวปะการังใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ แนวปะการังเหนือ (Northern Reef) หมู่เกาะวิตซันเดย์ (Whitsunday Island) และแนวปะการังใต้ (Southern Reef)
22. ปะการังช่วยปกป้องมนุษย์จากคลื่นและพายุและเป็นตัวปรับสมดุลระหว่างสังคมชีวิตในทะเลและรอบชายฝั่ง
23. เกือบ 60% ของปะการังในโลก จะสูญพันธุ์ไปในอีก 30 ปีข้างหน้า
24. สาเหตุของการลดลงของปะการังมาจากการพัฒนาชายหาด, การทับถมของตะกอน, การจับปลาอย่างไม่ถูกวิธี, มลภาวะ, การท่องเที่ยวและสภาวะโลกร้อน
25. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ทำให้ปะการังทั่วโลกตายลงเป็นจำนวนมากและเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะกับเกาะเล็กๆ ที่กำลังพัฒนา
26. ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น 10 ถึง 15 ซม. ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา และถ้าน้ำแข็งทั่วโลกละลายลง ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นถึง 66 เมตร
27. ใน 1 ปี 60% ของพื้นที่ชายฝั่งทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกและ 35% ของพื้นที่ชายฝั่งทะเลมหาสมุทรแอตแลนติกลดลง
28. ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวมี 75% ในปี พ.ศ.2541 และ 16% ของปะการังเหล่านี้ตาย
29. ข้อมูลต่างๆ ของทะเลทั่วโลกต้องพร้อมภายในปี พ.ศ.2547 และการทำงานอย่างเป็นระบบของเครือข่ายระดับโลกของเขตอนุรักษ์น่านน้ำสากลภายในปี พ.ศ.2554
30. พื้นที่ของมหาสมุทรทั่วโลกน้อยกว่า 0.5% ได้รับการคุ้มครอง ในขณะที่แผ่นดิน 11.5% ทั่วโลกได้รับการคุ้มครอง
31. เขตน่านน้ำสากลมากกว่า 50% บนโลก เป็นส่วนที่ได้รับการปกป้องดูแลน้อยที่สุด
32. ถึงแม้จะมีการปกป้องสัตว์ทะเล เช่น สัตว์ที่สามารถเดินทางย้ายถิ่นฐานได้ทั่วโลก (Ocean-Going) เช่น วาฬ แต่ในเขตน่านน้ำสากลกลับไม่มีการปกป้องคุ้มครองใด
33. การศึกษาวิจัยเพื่อการอนุรักษ์ที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล เช่น ปะการัง, หญ้าทะเลและป่าชายเลน จะช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับชาวประมงพื้นบ้านเพื่อการค้าส่งออก
34. จำนวนครึ่งหนึ่งของปลาที่จับทั่วโลกมาจากชาวประมงพื้นบ้าน 90% ที่จับปลาเพื่อการดำรงชีวิต
35. กว่า 95% ของปลาที่จับเป็นอาหาร หรือ 90 ล้านตัน มาจากบริเวณรอบชายฝั่งทะเล
36. ประชากรมากกว่า 3,500 ล้านคน รับประทานอาหารจากทะเล และจะเพิ่มขึ้นกว่า 7,000 ล้านคน ในอีก 20 ปีข้างหน้า
37. กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านกำลังถูกคุกคามจากการทำประมงสมัยใหม่ที่ผิดกฎหมายและขาดการควบคุม
38. มากกว่า 70% ของการทำประมงในโลก จับปลาเกินจำนวน ซึ่งในอนาคตอาจมีไม่เพียงพอกับความต้องการของจำนวนประชากรโลก
39. จำนวนปลาใหญ่ที่ล่าเพื่อการค้าทั้งหลาย เช่น ทูน่า, คอด, ปลาดาบ, มาร์ลิน จะลดลงมากกว่า 90% ในทศวรรษหน้า
40. การประชุมระดับโลกได้มีข้อตกลงให้ภายในปี พ.ศ.2558 ต้องทำให้จำนวนปลามีมากเพียงพอที่จะรองรับกับจำนวนประชากรมนุษย์เป็นภารกิจเร่งด่วน
41. ภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จอีกอย่างหนึ่งคือ หยุดการประมงที่ขาดการควบคุม, ผิดกฎหมายและใช้เครื่องมือไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
42. รัฐบาลมักทุ่มงบประมาณรวมกันทั่วโลกกว่า 15-20 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการประมง ทำให้ทรัพยากรทางทะเลร่อยหรอลงเรื่อยๆ
43. การจับปลาอย่างไม่ถูกวิธี ได้ทำลายสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในทะเลมากมาย รวมทั้งทำลายที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
44. ในแต่ละปี การจับปลาอย่างผิดกฎหมายรวมถึงเครื่องมือประมงที่เป็นอันตราย ซึ่งทำให้นกตายกว่า 400,000 ตัว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 80 ไมล์
45. ปลาฉลามกว่า 100 ล้านตัว ถูกล่าเพื่อนำเนื้อมาเป็นอาหาร โดยเฉพาะการนำมาทำหูฉลาม ซึ่งนักล่าฉลามเพียงแค่ตัดครีบอย่างเดียวและโยนตัวลงทะเล ซึ่งปลาจะเสียเลือดจนตายไปในที่สุด
46. สถิติการจับปลาทั่วโลก โดยการใช้เครื่องมือแบบไม่เลือกทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ มีจำนวนกว่า 20 ล้านตันต่อปี
47. ในแต่ละปีมีวาฬ และโลมา ตายมากกว่าอย่างละ 3 แสนตัว
48. การจับกุ้งทะเลคิดเป็น 2% ของอาหารทะเลทั่งโลกแต่เป็น 1 ใน 3 ของการจับทั้งหมด
49.การทำนากุ้งเป็นสาเหตุให้น้ำมีมลภาวะเป็นพิษ และเป็นผลร้ายต่อป่าชายเลนทั่วโลกถึง 1 ใน 4
50. ป่าชายเลนเป็นแหล่งพึ่งพิงของปลาเศรษฐกิจในเขตร้อนกว่า 85%
ที่มาข้อมูลจาก: www.rakkhaoyai.com/wild-friends/2529