เที่ยวเยอรมนีในเมืองเล็กๆ ชื่อ Quedlinburg (เควดลินบวร์ก) เมืองมรดกโลก

คงไม่ต้องอธิบายถึงประเทศเยอรมนี เพราะหลายๆ คนก็น่าจะรู้จักประเทศนี้กันอยู่บ้าง แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้จักเมืองเล็กๆ ที่ชื่อ เควดลินบวร์ก (Quedlinburg) เมืองท่องเที่ยวนี้มีชื่อเสียงในเรื่องความเก่าแก่ของตัวเมือง โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบโรมัน รวมถึงมีประวัติศาสต์อันยาวนานที่น่าสนใจอีกด้วยค่ะ

เมือง Quedlinburg (เควดลินบวร์ก)

เป็นเมืองมรดกโลก / ยูเนสโก

เมืองเควดลินบวร์ก อยู่ในเขตพื้นที่ซัคเซ็น-อันฮาลท์ (Land of Sachsen-Anhalt) เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิฟรังโกเนียนเยอรมันตะวันออก (East Franconian German Empire) ในช่วงการปกครองของราชวงศ์แซกซอเนียน-ออตโตเนียน (Saxonian-Ottonian dynasty) เมืองนี้เป็นเมืองการค้าที่มั่งคั่งตั้งแต่ยุคกลาง จำนวนและคุณภาพสูงของอาคารทิมเบอร์เฟรม (timber-framed) ทำให้เควดลินบวร์กเป็นตัวอย่างที่พิเศษของเมืองยุโรปยุคกลาง โบสถ์วิทยาลัยแห่งเซนต์แซร์วาทิอุส (Collegiate Church of St Servatius) เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ (ที่มา http://www.thaiwhic.go.th)

Burg แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า “castle” ก็คือ ปราสาท / และเมืองนี้ก็สมกับที่มีคำว่าปราสาท เพราะมีปราสาทเก่าๆ มากมายให้เข้าชมและถ่ายรูปค่ะ

แล้วเมืองนี้อยู่ตรงไหนของเยอรมนี

เมือง Quedlinburg นั้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก “เบอร์ลิน (Berlin)” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม. ก็มาถึงค่ะ (ที่ต้องอ้าง “เบอร์ลิน” ก็เพราะคนไทยส่วนใหญ่จะรู้จัก และจำชื่อเมืองต่างๆ ของเยอรมนี ก็เช่น เบอร์ลิน, แฟรงค์เฟิร์ต, โคโลญจน์, สตุ๊ทการ์ท, ฮันโนเวอร์, ฮัมบวร์ก ได้ประมาณนี้ ผลพวงมาจากชื่อสโมสรฟุตบอลนั่นเอง แต่เราก็จำชื่อเมืองต่างๆ ได้ก็เพราะเหตุนี้แหละ)

เดินเล่นเพลินใจ ในเมือง เควดลินบวร์ก

ศาลาว่าการ

บริเวณอาคาร “ศาลาว่าการ” ปกติแล้วจะเป็นลานโล่งๆ แต่ช่วงคริสต์มาส จะถูกเปลี่ยนเป็นตลาด ที่จะมีการออกร้าน ขายขนม ขายเบียร์ ของกิน และของที่ระลึกต่างๆ ที่เป็นแหล่งนัดพบ สังสรรค์กันของชาวเมือง และนักท่องเที่ยว ซึ่งถ้าหากมาตอนกลางคืน จะเปิดไฟประดับอย่างสวยงาม พร้อมมีการแสดงเล็กๆ น้อยๆ ของชาวเมืองด้วยค่ะ อ้อ..อาคารศาลาว่าการนี้เป็นหนึ่งในอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง Quedlinburg นะคะ

ร้านกาแฟ ใกล้ๆ ศาลาว่าการ

อาคารเมืองเก่าต่างๆ รอบๆ บริเวณศาลาว่าการ ที่มีร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ ให้นั่งชิลๆ ได้เลยค่ะ

ร้านค้าต่างๆ ในวันคริสต์มาส

มุมเล็กมุมน้อย ตามซอกอาคารต่างๆ หากเดินเข้าไปจะมีตลาดเล็กๆ แทรกอยู่เสมอ

ร้านขายของที่ระลึก

มีตุ๊กตาแม่มดเป็นของที่ระลึกค่ะ

เลข 15 บนตัวป้ายแดงๆ นั้นมีความหมายนะ

รอบๆ อาการเก่า จะมีแผ่นพับแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจไว้แจกฟรี หากอาคารไหนมีประวัติศาสตร์น่าสนใจ จะมีป้ายหรือธงแดงๆ บอกเลขที่เอาไว้ ส่วนข้อมูลอ่านอ้างอิงได้ในแผ่นพับนะคะ

อาคารเก่า แต่มีคนอาศัยอยู่

อาคารเก่าๆ เหล่านี้ได้มีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี และที่สำคัญ ยังมีคนอยู่อาศัยจริงๆ ไม่ได้สร้างไว้โชว์สวยงามอย่างเดียวนะ

บริเวณอื่นๆ รอบๆ ตัวเมือง เควดลินบวร์ก Quedlinburg

เมืองนี้เหมาะกับคนชอบประวัติศาสตร์

ถ้าหากถามว่า เมืองนี้มีอะไรน่าเที่ยว เหมาะที่จะอยู่ในแผนเที่ยวเยอรมันไหม ก็ตอบได้ว่า เมืองนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเที่ยวน้อย เพราะสถานที่ส่วนใหญ่ที่คนชอบมาดูก็คือตึกเก่า อาคารเก่าๆ เท่านั้น แถมยังไกลจากเมืองและสถานที่อื่นๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่คนไทย เช่น ปราสาทนอยชวานชไตน์, มหาวิหารโคโลญจน์, พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบาวาเรียน, พระราชวังชาล็อตเทนเบิร์ก เป็นต้น ทำให้จัดเวลาเดินทางในการเที่ยวค่อนข้างลำบาก ยกเว้นแต่ว่า คุณจะมาเบอร์ลิน แล้วแวะไปเที่ยวเมืองนี้ อย่างนี้ก็โอเคค่ะ

แต่หากใครมีเวลาว่าง อยากเดินเล่นท่องเที่ยวไปเรื่อย สนใจเรื่องประวัติศาสต์ ชอบเมืองเก่าๆ ที่ยูเนสโกแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลกแล้วล่ะก็ เมืองนี้ก็ไม่น่าจะพลาดค่ะ ลองไปดูเองกับตาสักครั้งก็ดีนะคะ ตึกเก่าเยอะไปหมด จนไม่รู้เลยว่าจะสนใจอะไรก่อนกัน

และในความรู้สึกเรา เราชอบเมืองเล็กๆ แห่งนี้ เพราะเป็นเมืองที่สงบ ไม่ใหญ่โตวุ่นวาย อากาศก็บริสุทธ์ ผู้คนมีระเบียบวินัย ขับรถไปไม่ไกลก็เจอซุปเปอร์มาร์เก็ตให้จับจ่ายได้สะดวกสบาย แถมมีลำธารตัดผ่าน ผสมความเป็นเมืองกับชนบทได้อย่างลงตัว ฝากใจไว้เยอรมันไปแล้ว เอิ๊กๆ

สำหรับตอนนี้ เดินเล่นรอบเมืองเควดลินบวร์ก คงจบเพียงเท่านี้ก่อนค่ะ โอกาสหน้าจะมาเล่าถึงชีวิตประจำวัน ความเป็นอยู่ และวันคริสต์มาส เทศกาลที่สุดแสนจะน่ารักอบอุ่นมาฝากเพื่อนๆ นะคะ

Gallery

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

ดูทั้งหมด 12 ภาพ

เดือนธันวาน่าเที่ยวเยอรมนีไหม?

หากถามคนเยอรมันว่า เดือนนี้ควรมาเที่ยวไหม สำหรับคนเยอรมันแล้วเค้าจะบอกว่า “ไม่น่าเที่ยวเลย” เพราะต้นไม้ทิ้งใบเหลือต้นโกร๋นๆ มองไปทางไหนก็ไม่มีสีเขียวๆ ของต้นไม้เลย อากาศหนาว ไปไหนมาไหนไม่สะดวก เพราะมีหิมะขาวโพลนมาเป็นระยะ

แต่สำหรับคนไทยที่อยู่กับต้นไม้เขียวๆ อากาศร้อนๆ มาแทบทั้งปี เราก็ต้องสนใจหิมะ อากาศหนาวๆ วันคริสต์มาส สถานที่แปลกตาในหน้าหนาวอยู่ดี

ทั้งนี้ หากไปเที่ยวยุโรปช่วงปลายปี ต้องทำใจนะคะว่าเวลาจะมืดเร็วมาก เวลาเที่ยวมีน้อยกว่าช่วงซัมเมอร์ค่ะ ซัมเมอร์นั้น 3 ทุ่มแล้วยังสว่างจ้ากันอยู่เลย

วันคริสต์มาส

และเนื่องจากเราไปตอนเดือนธันวาคม ที่มีเทศกาลสำคัญคือ “วันคริสต์มาส” ที่ช่วงนี้เป็นช่วงชุลมุนวุ่นวายของพวกเค้าจริงๆ เพราะต้องจัดเตรียมของขวัญ เตรียมอาหาร เตรียมบ้านไว้รอต้อนรับลูกๆ หลานๆ ที่นานๆ จะมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ไปที่ไหนๆ เราจึงได้เห็นการตกแต่งแบบจัดเต็ม ต้นคริสต์มาสเอย ซานต้าเอย แสงเทียน แสดงไฟ ที่คนไทยไปต่างแดนอย่างเราเห็นแล้วรู้สึกตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก