เป้นกันมั้ยคะ จะทิ้งของทีคิดแล้วคิดอีก นั่งคิดนอนคิด แล้วสุดท้ายก็ตัดใจทิ้งไม่ลง… ปัญหานี้เกิดได้บ่อย ๆ กับทุกคน โดยเฉพาะคน Gen X รุ่นพ่อรุ่นแม่เรา ที่ชอบเก็บ ชอบเสียดายของ เก็บมันทุกอย่างจนบ้านรก เก็บจนไม่มีที่จะอยู่ วันนี้เรามีเทคนิควิธีคิดดี ๆ ที่จะทำให้คุณ ‘กล้า’ ที่จะทิ้ง แล้วชีวิตของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
5 เทคนิค ทิ้งของ เคลียร์พื้นที่ จัดระเบียบชีวิต
เทคนิค ที่จะทำให้คุณ ‘กล้า’ ทิ้ง
5 เทคนิค ทิ้งของ เคลียร์พื้นที่ จัดระเบียบชีวิต
คิดไว้เสมอว่า “การทิ้ง ไม่ใช่การสูญเสีย แต่เป็นการได้รับ”
หลายคนอาจจะงง ขึ้นชื่อว่า “ทิ้ง” มันก็ต้องสูญเสียสิ จะได้อะไรกัน แต่ลองคิดดูดี ๆ ว่าจริง ๆ แล้ว การ ‘ทิ้ง’ นั้นมัน ‘ให้’ อะไรหลายอย่างเหมือนกันนะ ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ว่างที่ในห้องที่ไม่เคยมีมาหลายปี ประหยัดเวลาและพลังงานในการทำความสะอาด เห็นแบบนี้แล้วคราวหน้าคราวหลังตอนที่กำลังชั่งใจว่าจะทิ้งหรือเก็บดี ก็ลองนึกถึง ‘สิ่งที่เราจะได้รับ’ แทนที่จะคิดถึง ‘สิ่งที่เราจะเสียไป’ ดีกว่านะ
ทิ้งของที่ไม่ได้ใช้มานานเป็นปี
ไม่ว่าจะเป็นกางเกงยีนส์ที่หมกอยู่ในซอกตู้เสื้อผ้า ผ้าห่มผืนเก่าที่พับเก็บไว้ในถุง หรือจะเป็นกระเป๋าใบ(เคย)โปรดที่นอนนิ่งฝุ่นเกาะหนา 2 นิ้ว ตัดใจทิ้งซะเถอะค่ะ เพราะถ้าเราไม่ได้หยิบมันมาใช้เป็นปี ๆ แล้ว นั่นก็หมายความว่า เราอาจจะไม่ได้ต้องการมันอีกแล้ว ไม่มีมันเราก็ใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ถ้าเป็นของที่ได้ใช้ปีละครั้งอย่างเสื้อขนเป็ดที่เอาไว้ใส่ไปเที่ยวเมืองนอกก็ไม่ต้องทิ้งนะคะ เพราะนั่นนั่นถือเป็นสิ่งที่ ‘จำเป็น’ กับการใช้ชีวิตของเรา
ทิ้งของที่ลืมไปแล้วว่าเคยมีอยู่
เคยมั้ยที่อยู่ดี ๆ ก็ไปเจอกับของที่เราเห็นแล้วต้องร้องว่า “เฮ้ย เราเคยมีของสิ่งนี้อยู่ด้วยหรอเนี่ย” ถ้าเมื่อไหร่ที่มีความคิดแบบนี้ขึ้นมาในหัวก็อย่ารอช้า ‘ทิ้ง’ มันไปเลยค่ะ เพราะถ้าเราให้คุณค่ากับของสิ่งนั้น เราก็คงจะไม่ลืมว่าเรามีสิ่งนั้นอยู่จริงมั้ยคะ และนั่นก็หมายความว่า มันอาจจะเป็นของที่ ‘เคย’ มีค่ากับเรา แต่ ณ ตอนนี้สิ่งนั้นมันไม่จำเป็นสำหรับเราอีกต่อไปแล้ว
อย่าคิดถึงราคาตอนที่ซื้อมา
สิ่งของเกือบทุกอย่างเมื่อเวลาผ่านไป มูลค่าของมันก็ย่อมลดลงไปตามกาลเวลา กระเป๋าใบแพงที่ซื้อมาหลายหมื่น พอถึงวันนึงที่จะต้องชั่งใจว่าจะทิ้งหรือจะเก็บไว้ดี แต่พอนึกถึงเงินหมื่นที่จ่ายไปตอนนั้นก็ทำให้เราเกิดเสียดายขึ้นมา จะให้ทิ้งก็ทิ้งไม่ลง จะขายต่อในราคาหลักพันก็ทำใจไม่ได้ สุดท้ายกระเป๋าก็กองสุมกันอยู่เต็มตู้ ถ้าคิดจะทิ้ง หรือขายต่ออะไรสักอย่าง ลองไม่ต้องนึกถึงราคาตอนที่ซื้อมาดูสิ มันจะทำให้เราตัดใจจากของสิ่งนั้นได้ง่ายขึ้นอีกเยอะเลยล่ะ
แยกของที่อยากได้ ออกจากของที่จำเป็น
ชีวิตคนเราจะมีของที่จำเป็นสักกี่อย่างกันเชียว เมื่อคิดดูดี ๆ นอกจากปัจจัย 4 แล้ว ของอย่างอื่นก็เหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่เรา ‘ไม่มีก็ได้’ เพียงแต่เรา ‘อยากมี’ กระเป๋าดังนั้นเวลาที่กำลังตัดสินใจทิ้งของสักชิ้น หรือในตอนที่อยากได้อะไรสักอย่าง ให้คิดว่าสิ่งนั้นมัน ‘จำเป็น’ กับชีวิตเรามากแค่ไหน หรือเราแค่ ‘อยากได้’ ‘อยากมี’ กันแน่
ขอบคุณที่มาจาก: หนังสือ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
บทความแนะนำ:
