วัยรุ่นช่วงยุค 90 หากเอ่ยถึงชื่อ ทาทา ยัง ทุกคนคงจำกันได้ดี ในช่วงเวลานั้นเธอเป็นศิลปินหญิงที่โด่งดังมาก เป็นผู้ที่ทำสถิติศิลปินล้านตลับที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 15 ปี นอกจากเพลงดังแล้ว แฟชั่นการแต่งตัวของเธอเสื้อยืดตัวเล็ก และกางเกงหลวมตัวโคร่งๆ ก็ฮิตมากเช่นกัน จะเรียกได้ว่าเป็นยุคทาทาครองเมืองหรือเป็นเน็ตไอดอลเลยก็ได้ในช่วงเวลานั้น
จากนั้นมาเธอก็ได้มีผลงานเพลงโด่งดังในระดับอินเตอร์ ในบทความนี้ บันเทิงแคมปัส-สตาร์ ขอพาไปย้อนอ่านประวัติของ ทาทา ยัง เส้นทางก่อนที่เธอจะมาเป็น Diva นักร้องหญิงแถวหน้าของไทยอย่างทุกวันนี้
นักร้องหญิงล้านตลับอายุน้อย สู่การเป็น Diva แนวหน้าของไทย
ปี 2523 กำเนิด ด.ญ. ทาทายัง
ทาทา ยัง หรือ อมิตา ทาทา ยัง เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2523 ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อทิโมที ไมเคิล “ทิม” ยัง (มีชื่อไทยว่า วันชัย)กับคุณแม่บัญชร ยัง โดยคุณพ่อเป็นชาวอเมริกัน และคุณแม่เป็นชาวไทย นอกจากนี้ยังมีพี่สาวบุญธรรมหนึ่งคน ชื่อเล่นว่า แก้ว ซึ่งเป็นบุตรของน้า (น้องสาวของบัญชร) ที่บัญชรนำมาเลี้ยงดูก่อนทาทาเกิด
ภาพจาก : www.tatayoung.com
จากนั้นเมื่อถึงวัยเรียนได้เริ่มต้นการศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียนแมรีปอปปินส์ สำเร็จการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนบางกอกพัฒนา และศึกษาต่อระดับอนุปริญญาจากมหาวิทยาลัยเนแบรสกาแห่งลินคอล์น (Nebraska University of Lincoln)
ปี 2537 เซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มแกรมมี่
ทาทาเข้าสู่วงการดนตรีภายหลังชนะเลิศการประกวดร้องเพลงระดับชาติเมื่ออายุ 11 ปี ซึ่งเธอได้ชนะการประกวดจากเวที “นิสสันมิวสิก” ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยขับร้องเพลง “วันไนต์ออนลี” การแข่งขันดังกล่าวทำให้เธอได้เช็นสัญญากับยามาฮ่ามิวสิก ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นทางวงการดนตรี
ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 ได้เซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ และนั่นคือการเริ่มเข้าสู่เส้นทางดนตรีอย่างเป็นทางการ ถือเป็นนักร้องอาชีพเมื่ออายุ 14 ปี
ปี พ.ศ. 2538 ออกอัลบั้มหนึ่งและสอง ทะลุล้านตลับติดต่อกัน
หลังจากเซ็นสัญญากับทางจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ทาทา ยัง ได้ออกอัลบั้มแรก ชื่อว่า อมิตาทาทายัง โดยมีเพลง “โอ๊ะโอ้ย” เป็นเพลงเปิดตัวอัลบั้ม อัลบั้มดังกล่าวมียอดจำหน่ายมากกว่า 1.3 ล้านชุดภายในเวลาไม่ถึง 5 เดือนหลังออกจำหน่าย ถือว่าประสบความสำเร็จสูงสุดในช่วงวลานั้น ส่งผลให้เธอออกอัลบั้ม ทาทาวันมิลเลียนกอปปีส์เซเลอเบรชัน เพื่อเป็นการขอบคุณแฟนเพลง โดยในอัลบั้มนี้เธอได้ขับร้องเพลง “ฉันรักเธอ” ซึ่งอัลบั้มนี้ก็มียอดขายเกิน 1 ล้านชุดอีกเช่นกัน ส่งผลให้เป็นนักร้องที่มีอายุน้อยที่สุดที่มีอัลบั้มทะลุล้านตลับถึง 2 อัลบั้มติดต่อกัน
ปกอัลบั้ม อมิตา ทาทา ยัง
นอกจากนี้เธอยังได้จัดคอนเสิร์ต นานาทาทา 2 รอบการแสดงและคอนเสิร์ตตอนพิเศษ “ไอเลิฟยู” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้เธอได้รับรางวัล “นักร้องแห่งปี” จากนิตยสารบางกอก และรางวัล “ศิลปินยอดเยี่ยม” ประจำปี พ.ศ. 2538, “มิวสิกวิดีโอแห่งปี” และรางวัล “อัลบั้มแห่งปี” จากเรดิโอโวต
ปี พ.ศ. 2539 1 ใน 6 ศิลปิน 6.2.12 / คอนเสิร์ต ทาทาไลฟ์อินฮอลลีวูด
ในปี พ.ศ. 2539 ทาทาได้รับเลือกจากจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ให้เป็น 1 ใน 6 ศิลปิน อาทิ คริสติน่า อากีล่าร์,มอส,เจ เจตริน ฯลฯ ออกอัลบั้มร่วมกันในชื่อ 6.2.12 และจัดคอนเสิร์ต 6.2.12 เฟสติวัล ซึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 5 หมื่นคน นอกจากนี้เธอยังได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศไทยในการออกรายการโทรทัศน์ออสเตรเลียในชื่อ “เวิลด์เทลลีบอร์ดแคสต์” เป็นรายการที่นำเยาวชนเอเชียมาร่วมกันร้องเพลงและออกอากาศในเดือนกุมภาพันธ์ แพร่ภาพไปทั้งทวีปออสเตรเลียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2539 ได้จัดคอนเสิร์ต ทาทาไลฟ์อินฮอลลีวูด ณ ฮอลลีวูดพาลลาเดียม ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปินเอเชียไม่กี่คนที่ได้จัดคอนเสิร์ตโดยมีผู้ชมเป็นชาวอเมริกัน
ปี พ.ศ. 2540 ศิลปินที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล “พระพิฆเนตรทองคำ”
ในปี พ.ศ. 2540 ทาทา ได้รับเลือกจากรัฐบาลจีนให้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแสดงในคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองการส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 โดยแสดงร่วมกับศิลปินนานาชาติ อาทิ เวตเวตเวต ไมเคิลเลิร์นทูร็อก ลิซา สแตนส์ฟิลด์ ออลโฟร์วัน และแบรนด์นิวเฮฟวี่ส์
อีกทั้งในปีเดียวนี้เธอยังเป็นศิลปินที่มีอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล “พระพิฆเนตรทองคำ” จากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากการได้รับรางวัลดังกล่าว ทำให้มีโอกาสแสดงคอนเสิร์ตเฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ และในปีเดียวกันนี้ได้มีการจัดตั้งกลุ่มแฟนคลับ ทาทา ยัง ขึ้น ในการดูแลของบริษัททาทาเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เพื่อรวมกลุ่มแฟนเพลงของเธอและช่วยเหลือมูลนิธิเด็กในประเทศไทยและมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล
ปี 2540–2542 เริ่มเข้าสู่วงการแสดง – จักรยานสีแดง /รัก-ออกแบบไม่ได้
ปี พ.ศ. 2540 ทาทา ได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์โดยมีผลงานฉายเรื่องแรกคือ จักรยานสีแดง และยังทำให้เธอได้รับรางวัล “นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม” จากงานประกาศรางวัลบล็อกบัสเตอร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ประจำปี พ.ศ. 2540
หลังจากนั้นได้แสดงในภาพยนตร์และเละคร คือ รัก-ออกแบบไม่ได้ และ ละครปลายเทียน ซึ่งประสบความสำเร็จเช่นกัน ในปีเดียวกันนี้เธอได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ผู้ทรงอิทธิพลในประเทศไทยจากนิตยสารแอล
ในปี พ.ศ. 2541 ทาทา ยังได้รับเลือกให้ขับร้องเพลงประจำการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยขับร้องเพลง “รีชฟอร์เดอะสตาร์” ในพิธีเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ในปีเดียวกันนี้ ทาทาได้รับเลือกเป็น 1 ใน 25 บุคคลที่เป็นที่ยอมรับในเอเชียจากนิตยสาร เอเชียวีค นอกจากผลงานทางการแสดงและขับร้องเพลงแล้ว
ภาพวัยใส ในอดีต ทาทายัง
ในปี พ.ศ. 2541 ทาทา ยังได้รับเลือกให้ขับร้องเพลงประจำการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยขับร้องเพลง “รีชฟอร์เดอะสตาร์” ในพิธีเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ในปีเดียวกันนี้ ทาทาได้รับเลือกเป็น 1 ใน 25 บุคคลที่เป็นที่บอมรับในเอเชียจากนิตยสาร เอเชียวีค นอกจากผลงานทางการแสดงและขับร้องเพลงแล้ว ยังมีผลงานโฆษณาผลิตภัณฑ์ของ Smooth E ร่วมกับ Kipsan Beck นายแบบและนักแสดงชาวยูเรเชียน
ทาทายังได้ออกอัลบั้ม ทาทารีมิกซ์ ในปีเดียวกันโดยนำเพลงฮิตมาเรียบเรียงใหม่ในจังหวะที่เร็วขึ้น ประกอบไปด้วย ไชนิสมิกซ์ ยูโรมิกซ์ เฮาส์มิกซ์ และนำเพลง “ฮัลโล” มารีมิกซ์ใหม่ร่วมกับมอส ปฏิภาณ และนิตยสาร แมนีแคลร์ ได้มีการเขียนบทความเรื่อง “เด็กร่ำรวย” พูดถึงเด็กเก่งทั่วโลกโดยมีทาทาหนึ่งในนั้นโดยสามารถทำเงินได้มากกว่า 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีเดียวกันนี้ทาทายังได้รับเลือกจากสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค ของญี่ปุ่นเพื่อร่วมงาน เอเชียนไลฟ์ ร่วมกับศิลปินชั้นนำของเอเชีย ถ่ายทอดไปกว่า 30 ประเทศ
ภาพวัยใสของ ทาทา ยัง
ทาทาได้รับเชิญจากสถานีโทรทัศน์ ซีซีทีวี ให้ร่วมแสดงกับ 80 ศิลปินในการฉลองเปิดสถานี ซึ่งเผยแพร่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ในปี พ.ศ. 2542 และในเดือนพฤษภาคมทาทาได้เดินทางไปฮ่องกงเพื่อให้สัมภาษณ์ในรายการ คิวแอนด์เอ (Q&A) ของสถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น โดยมี Riz Khan’ เป็นผู้สัมภาษณ์ในหัวข้อ ‘Asia’s Top Entertainers’
ในเดือนตุลาคมสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นได้เผยแพร่เรื่องราวของเธอในสารคดีชุด “ทาทายัง – วันออฟเอเชียส์โมสต์เอาต์สแตนดิงทีเนเจอรส์” (Tata Young – One of Asia’s Most Outstanding Teenagers) ต่อมาในเดือนมิถุนายนทาทาได้เป็นศิลปินไทยคนแรกที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ เอ็มทีวีเอเชียออนไลน์
นอกจากนี้สำนักพิมพ์รอยเตอร์ได้เผยแพร่เรื่องราวของเธอกับ ‘Tata Young Feature Story – Thai Teen Sensation Reaches for the Stars’ ทาทายังได้รับเลือกจากหนังสือพิมพ์ เดอะเนชัน ให้เป็น 1 ใน 100 ผู้ทรงอิทธิพลในรอบศตวรรษ (One of Thailand’s 100 Most Influential Artist & Entertainers of the Century)
ปี 2543–2546 เริ่มสู่เส้นทางสายนางแบบ
ในปี พ.ศ. 2543 ทาทาได้เซ็นสัญญาเป็นนางแบบในสังกัดของชาแนลรวมถึงงานเดินแบบของเธอตลอดปี และเซ็นสัญญากับ บีอีซีเทโรเอ็นเตอร์เทนเมนต์ เป็นเวลา 4 ปีโดยมีผลงานละคร 2 เรื่อง ผลงานภาพยนตร์ 2 เรื่อง และผลงานเพลง 3 ชุด
นิตยสาร ไทม์ (เอเชีย) ได้เสนอบทความ “The Eurasian Invasion” เรื่องราวของลูกครึ่งที่มีชื่อเสียงในแถบประเทศเอเชีย เพื่อแสดงว่าอิทธิพลของลูกครึ่งในธุรกิจบันเทิงกำลังมาแรง ซึ่งทาทาได้ให้สัมภาษณ์และขึ้นปกพร้อมกับ Maggie Q.และ Asha Gill ในฉบับเดือนเมษายน พ.ศ. 2544 และในปีเดียวกันนี้ทาทาได้ออกอัลบั้มใหม่ในชื่อเดียวกับตัวเอง มีเพลงเด่นจากอัลบั้มได้แก่เพลง “อา-โบ-เด-เบ” “หวานใจ” และ “เก็บฉันไว้ยืนข้างเธอทำไม” ซึ่งทุกเพลงได้รับการตอบรับและขึ้นชาร์ตเพลงในประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2545 ทาทามีผลงานละคร ปลายเทียน เป็นเรื่องแรก รับบทเป็นเกาลัด มีบุคลิกมั่นใจในตนเอง และได้ขับร้องเพลงประกอบละคร 2 เพลงคือ “จะเก็บเอาไว้ให้เธอผู้เดียว” และ “จดจำไว้ในลมหายใจ” ด้วย นอกจากนี้เธอยังร่วมในการจัดทำอัลบั้ม 2002 ฟีฟ่าเวิลด์คัพ โดยได้ขับร้องเพลง “เชียร์หยุดโลก” ร่วมกับ อัยย์,ซ่าร่า,โน้ต-ตูน และอัลบั้ม เพร์สเปกชีฟ 1 ที่นำเอาเพลงเก่าของเบิร์ด-ฮาร์ท มาเรียบเรียงใหม่ โดยทาทาได้ร้องเพลง “ห่างไกล”
ภายหลังการแสดงละครและออกอัลบั้มร่วมกับศิลปินอื่นๆ แล้ว ในปี พ.ศ. 2546 ทาทาได้ออกอัลบั้มที่ 2 ในการสังกัดค่าบบีอีซีเทโรคือ เรียลทีที (Real TT) ในอัลบั้มนี้เธอมีส่วนร่วมกับผลงานในการสร้าง การประพันธ์เพลง และการกำหนดแนวคิดหลักของอัลบั้ม เพลงเด่นจากอัลบั้มนี้ได้แก่ “ซูเปอร์แฟน” และ “อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน”
ปี 2547–2550 นักร้องแห่งเอเชีย
– ปี พ.ศ. 2547 ศิลปินไทยคนแรกที่มีโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายโคลัมเบียในสังกัดของโซนีมิวสิกเมื่อและได้ออกอัลบั้ม ไอบีลีฟ (I Believe) ซึ่งเป็นอัลบั้มภาษาอังกฤษอัลบั้มแรกของเธอ โดยมีซิงเกิลแรกคือ “เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี” ตามมาด้วย ไอบีลีฟ” และ “ซินเดอเรลลา”
– ได้รับการเลือกเป็น 1 ใน 50 สตรีที่เซ็กซี่ที่สุดในโลกจากนิตยสารในมาเลเซีย แ
– ได้รับเชิญเป็นกรรมการตัดสินการประกวดมิสสิงคโปร์ประจำปี 2004 เ
– ออกซิงเกิล “ดูมดูม” เพลงประกอบภาพยนตร์อินเดีย เรื่อง ดูม (Dhoom)
– ร้องเพลง “ไอติงค์ออฟยู” (I Think of You) ร่วมกับ “เอช” นักร้องชาวเกาหลี
– ได้เกียรติให้แสดงในงานประกาศรางวัล โกลเดนเมโลดี และได้ทำงานร่วมกับศิลปินชั้นนำของไต้หวันอย่างแวนเนส วู (จากวงเอฟโฟร์), เจย์ โจว, หวัง ลี่หง
ภาพจาก: Shazam
– เพลง “เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี” เป็นเพลงแรกที่ขึ้นชาร์ตออริกอนของญี่ปุ่น มิวสิกวิดีโอของเธอได้ฉายทุกๆ 10 นาทีในจอยักษ์เขตชิบูยาของญี่ปุ่น ยอดขายอัลบั้มในญี่ปุ่นในอัลบั้มนี้มากกว่า 3 แสนชุด และจัดคอนเสิร์ตทัวร์ในญี่ปุ่นไปยังเมืองสำคัญๆ 6 เมืองได้แก่ ฟูกุโอกะ โอซากา โยโกฮามา นาโกยา เซ็นได และโตเกียว และระหว่างการจัดคอนเสิร์ตในประเทศเนปาล เธอได้รับแจ้งข่าวการเสียชีวิตของมารดาของเธอ จึงทำให้เธอยกเลิกการจัดคอนเสิร์ตและกลับประเทศไทยทันที
– อัลบั้ม ไอบีลีฟ ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายทั้งในประเทศไทย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย ได้คว้ารางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) และรางวัลแผ่นเสียงทองคำ (Gold) ด้วยยอดขายทั่วเชียกว่า 1.2 ล้านชุด จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ทาทาได้ออกอัลบั้มพิเศษในชื่อ ดูมดูม โดยนำเพลง “ไอบีลีฟ” “เซ็กซี, นอร์ตี, บิชชี” และ “ไอติงค์อฟยู” มาขับร้องใหม่ในภาษาญี่ปุ่น ทำให้เธอได้รับรางวัล “ศิลปินหน้าใหม่แห่งปี” ในงานประกาศรางวัลแผ่นเสียงทองคำของญี่ปุ่นของที่ 19
– ภายหลังการประชาสัมพันธ์อัลบั้ม ไอบีลีฟ ทาทาได้ออกอัลบั้มภาษาไทยในชื่อว่า แดนเจอรัสทาทา (Dangerous Tata) โดยมีเพลง “แดนเจอรัส” เป็นซิงเกิลแรก เพลงดังกล่าวได้ขับร้องร่วมกับไทยเทเนี่ยม นอกจากนี้อัลบั้มดังกล่าวยังได้ร่วมงานกับศิลปินอื่นๆ อาทิ นภ พรชำนิ, ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร , ตรัย ภูมิรัตน์ และบีไฟฟ์ (B5) มียอดจำหน่ายในวันแรกกว่า 1 แสนชุดทำให้ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว (Platinum) ในวันแรกที่ออกจำหน่าย
– ในปี พ.ศ. 2549 ได้เข้าร่วมงานเอ็มทีวี เอเชีย อวอร์ดสและได้ขับร้องเพลง “เอ็นเลสส์เลิฟ” (Endless Love) ร่วมกับลี ไรอัน ในปีเดียวกัน เธอได้ออกอัลบั้มภาษาอังกฤษชุดที่ 2 คือ เทมเพอเรเจอร์ไรซิง (Temperature Rising) ในเดือนสิงหาคม เปิดตัวด้วยซิงเกิล “เอลนิน-โญ!” ในอัลบั้มนี้มีนักแต่งเพลงชื่อดังมากมายร่วมประพันธ์เพลงให้เธอ อาทิ ไดแอน วาเรน, พอล แม็กคาร์ตนีย์ และนาตาชา เบดิงฟิลด์
ทาทายังมีผลงานอีกมากมาย สามารถเข้าไปอ่านได้ทั้งหมด ที่นี่
ด้านชีวิตส่วนตัว
เคยคบหากับโอลิเวอร์ พูพาร์ต, ภราดร ศรีชาพันธุ์, เปรม บุษราคัมวงษ์ และวิคเตอร์ ชายชาวโรมาเนีย ปัจจุบันสมรสกับฉัตรอดุลล์ สีณพงศ์ภิภิธ (ชื่อเดิม ฉัตรอดุลย์ สีนะพงษ์พิพิธ) เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 โดยจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ฉัตรอดุลย์เคยเป็นคนรักเก่าที่เคยคบหาและเลิกราไปเมื่อสี่ปีก่อน ตอนนี้มีบุตรด้วยกันหนึ่งคนชื่อ น้องเร สีณพงศ์ภิภิธ
ล่าสุด! มีกระแสฟีดแบ็กแฟนคลับ หลัง ทาทา ยัง กดไลค์-คอมเมนต์ “ดักตบอีช่อ” อ่านข่าวเพิ่มเติม ที่นี่
ภาพจาก: tataamitayoung