หลังจากปล่อยให้รอกันอยู่นานในที่สุด 5 หนุ่ม N.Flying วงดนตรีที่มีดีทั้งหน้าตาและความสามารถค่าย FNC ENTERTAINMENT ก็มาพบปะ N.Fia ชาวไทยในงานแฟนมีตติ้งครั้งแรกของพวกเขา “2018 เอ็น.ฟลายอิ้ง เฟิร์ส แฟน มีตติ้ง ‘โก เอ็น ฟลาย’ อิน แบงคอก” (2018 N.Flying 1st Fan meeting ‘Go N Fly’ IN BANGKOK) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 9 กันยายน 2561 ณ อัลตร้า อารีน่า ชั้น 6 ศูนย์การค้าโชว์ ดีซี
N.Flying แฟนมีตติ้งครั้งแรกในไทย
แต่ก่อนที่จะไปสนุกสุดมันกันในงานแฟนมีตติ้ง ทางผู้จัดใจดี อะชิ แอคทิเวชั่น ก็พาหนุ่มๆทั้ง 5 นำโดย อีซึงฮยอบ, ควอนกวังจิน, ชาฮุน, คิมแจฮยอน และ ยูฮเวซึง มาพูดคุยเรียกน้ำย่อยกันก่อนในงานแถลงข่าว
เมื่อหนุ่มๆ N.Flying ปรากฏตัวบนเวทีด้วยท่าทีสุดคึกคัก พร้อมทักทาย “สวัสดีครับ We are N.Flying” เหล่า N.Fia ก็กรี๊ดต้อนรับกันสนั่น แล้วหนุ่มๆ ก็เริ่มแนะนำตัวทีละคน “สวัสดีครับ ผมชื่อ N.Flying ลีดเดอร์ ซึงฮยอบ ครับ”, “สวัสดีครับผมชื่อ N.Flying เบส กวังจิน ครับ”, “สวัสดีครับ ผมชื่อ N.Flying กีตาร์ ชา ฮุน ครับ”, “สวัสดีครับ ผมชื่อ N.Flying กลองแจฮยอน ครับ รักนะ จุ๊บๆ” และ “สวัสดีครับ ผมชื่อ N.Flying คิวตี้ ฮเวซึง ครับ”
และมาเริ่มกันที่คำถามแรก “งานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมเต็มรูปแบบครั้งแรกในประเทศไทย รู้สึกยังไงกันบ้าง?” แจฮยอนตอบว่า “คิดถึงพวกเรามากแค่ไหน พวกเราก็ดีใจมากเท่านั้น โดยเฉพาะงานในวันพรุ่งนี้ ขอให้ทุกคนติดตาม เตรียมใจไว้ให้ดี” ซึงฮยอบพูดเสริม “พรุ่งนี้พวกเราจะเล่นสดครับ จะทำให้พวกคุณไม่สามารถลืมไปจนวันตายเลยครับ”
ตามด้วยคำถาม “นอกจากหน้าที่ของการเป็นวงดนตรีแล้ว เวลาอยู่ด้วยกันในหอพักหรือใช้ชีวิตร่วมกันในแต่ละวัน แต่ละคนมีหน้าที่อะไรกันบ้าง?” ซึงฮยอบตอบก่อน “โชว์เดี่ยวทุกอย่าง ของใครของมันครับ” ก่อนที่ซึงฮยอบ, ชาฮุน, กวังจิน จะช่วยกันอธิบาย “คำว่าโชว์เดี่ยวในที่นี้หมายถึงว่า ใครทำกับข้าวอะไรไว้ก็ทำความสะอาด ห้องใครก็ทำความสะอาดเอง ผ้าใครก็ซักเอง ซึ่งมันหมายถึงการแสดงน้ำใจว่าของๆเรา เราก็ดูแลเองนะ”
พิธีกรถามเพิ่ม “ซักผ้า ล้างจานเองน่ะเข้าใจ แล้วพื้นเวลาสกปรกนี่หน้าที่ของใครล่ะครับ?” ชาฮุนบอกว่า “คนสุดท้ายที่ใช้ต้องทำความสะอาดครับ” กวังจินอธิบายบ้าง “จริงๆแล้วห้องใหญ่เนี่ย เราทำความสะอาดร่วมกัน แต่เพราะน้องเล็ก ฮเวซึง เป็นคนใช้บ่อยสุด เขาเป็นคนที่ทนไม่ได้ต่อความสกปรกครับ” ฮเวซึงขอเคลียร์ “ปกติงานอดิเรกก็ชอบทำอาหาร เวลาว่างจากการทำอาหารก็เลยมาทำความสะอาดบ้านครับ”
พิธีกรถามเข้าประเด็น “ทั้งหมดนี้ ใครเลอะเทอะสุด?” ฮเวซึงรีบตอบ “ชาฮุน เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่ทำสกปรกมากที่สุด” ชาฮุนสวนทันควัน “ผมไม่เข้าใจครับ” ฮเวซึงอธิบาย “ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คือช่วงนี้ชอบทำอาหารที่ทำยาก ซึ่งใช้วัตถุดิบ อุปกรณ์เยอะ มันก็เลยกระจัดกระจายครับ” พิธีกรตัดสินให้ “ก็สรุปว่าเป็นคนเลอะเทอะสุดนั่นแหละ” ชาฮุนเลยยอมรับ “เข้าใจแล้วครับ” (ทุกคนหัวเราะ)
คำถามต่อมา “ในฐานะที่อยู่ร่วมกันมาหลายปี ถ้าให้นิยามสมาชิกข้างๆคนละประโยค…แต่ละคนจะเป็นยังไง? เอาจริงๆเลยนะ” กวังจินเริ่มก่อน “เห็น แจฮยอน ยิ้มเก่ง สนุกสนานอย่างนี้ แต่จริงๆแล้วเป็นคนที่มีความซื่อตรง ละเอียด บางมุมก็แมน ทำให้เมมเบอร์ต้องเรียนรู้จากเขา” ตามด้วยแจฮยอน “ฮเวซึง เขาชอบแกล้งผมครับ แบบอยู่ดีๆก็มากัดแขนผมอย่างเนี้ย แต่ว่าน่ารักครับ ก็เลยแกล้งกันไปมา” ตาฮเวซึงบ้าง “ก่อนอื่นพี่ซึงฮยอบของเราเนี่ย ต้องการความใส่ใจครับ ถ้าไม่อย่างนั้นจะเป็นคนขี้เหงาครับ แล้วก็เป็นพี่ที่ตั้งใจทำหน้าที่เป็นลีดเดอร์ที่ดี”
พิธีกรจี้ต่อ “แล้วลีดเดอร์เป็นคนขี้งอนด้วยหรือเปล่าครับ?” ฮเวซึงกับแจฮยอนปรึกษากัน แล้วได้คำตอบว่า “ก็เป็นคนขี้งอนบ่อยๆครับ” ฮเวซึงขยี้ซ้ำ “ขี้งอนครับ เวลาติดงานไม่กินข้าวด้วยกันจะงอน จะบ่นเป็น 20 ครั้งเลย” ชาฮุนขอเล่าบ้าง “เวลาเล่นรวมวงเสร็จแล้วไม่ไปกับเค้า พี่เค้าจะงอน” ร้อนถึงซึงฮยอบต้องแก้ข่าว “เข้าใจผิดแล้วครับ เพราะแต่ละคนมีตารางงานของตัวเอง พอซ้อมเสร็จต่างคนก็ต่างไป เลยไม่มีเวลาพูดคุยกัน ผมก็เลยแสดงออกแบบเบาๆครับ”
ถึงตาซึงฮยอบบ้าง “ชาฮุน เห็นอย่างนี้เนี่ยไม่เรียบร้อยเลยครับ พูดมากเหมือนอาจุมม่า ปกติเป็นคนร่าเริง อบอุ่น เช่น ซ้อมเสร็จแล้วเดี๋ยวไปกับเราเถอะ แต่เขาจะบอกว่าไม่ไป แต่ไปรออยู่ข้างนอก” พิธีกรเสริม “แสดงว่าเป็นคนไม่พูดแต่ทำเลย”ชาฮุนบอกว่า “พูดก็เยอะ ทำก็เยอะครับ ผมว่าผมก็เสียงดังจริงๆด้วยครับ” ช็อตนี้ฮากันทั้งลาน ก่อนชาฮุนจะนิยามบ้าง “พี่กวังจิน ปกติแล้วร่างกายมนุษย์จะมีน้ำ 70% แต่พี่กวังจินมีโปรตีน 70% ครับ เขาจะอยู่ไม่ได้เลยถ้าไม่ได้ออกกำลังกายแม้แต่ชั่วโมงเดียว
สิ่งแรกที่ทำหลังมาถึงเมืองไทยคือสำรวจว่ามีฟิตเนสหรือเปล่า? เมื่อ 10 นาทีที่ผ่านมา มีการค้นหาว่าโปรตีนในเมืองไทยมีขายที่ไหน ล้อเล่นนะครับ พี่กวังจิน อยู่ในค่าย FNC มานานที่สุดก็เลยดูแลน้องๆอย่างดี ทำตัวให้น้องๆ เคารพครับ” พิธีกรถามต่อ “เวลาซ้อมก็เยอะ เวลาอยู่ด้วยกันก็เยอะ เอาเวลาไหนไปออกกำลังกาย?” แจฮยอนแย่งตอบ “นอกจากเวลาที่พูดมาคือออกกำลังกายครับ ไม่นอนครับ เวลานอนก็ออกกำลังกายครับ”
พิธีกรสงสัย “ไม่ชวนคนอื่นออกกำลังกายบ้างเหรอครับ?” กวังจินเลยบอกว่า “ช่วงนี้ ซึงฮยอบ ไปออกกำลังกายกับผมบ่อยๆ ครับ” แจฮยอนรีบออกตัว “พยายามออกห่างเค้าครับ” ซึงฮยอบคุยบ้าง “ภายใต้เสื้อมีมังกรอยู่ หมายถึงหุ่นดีน่ะครับ” พิธีกรแซวว่าแค่พูดไม่เห็นภาพ แจฮยอนรีบขอร้อง “ช่วยเก็บไว้ในจินตนาการได้มั้ยครับ?” ฮเวซึงช่วยเสริม “ยิ่งกว่าที่จินตนาการไว้แน่นอนครับ” กวังจินเขินเบาๆ “ตรงนี้ไม่ได้ เป็นพรุ่งนี้ได้มั้ยครับ? อยากดูมั้ย?” พิธีกรถึงกับต้องเตือน “อย่าถามประโยคนี้ในเมืองไทย เพราะมีคำตอบเดียวเท่านั้น” กวังจินแก้เขินว่า “เดี๋ยวขอไปปรึกษาทีมงานก่อนนะครับ” ฮาได้อีก!
คำถามต่อไป “คนที่อ่อนไหว บอบบางที่สุดคือใคร?” กวังจินขอตอบอีก “ผมคิดว่าเป็นชาฮุนครับ เป็นคนที่จำรายละเอียดของแต่ละเมมเบอร์ได้ แล้วเตรียมของให้ด้วย เช่น ผมแค่พูดลอยๆว่าช่วงนี้สุขภาพไม่ดีท่าทางจะเป็นหวัด ตอนเย็นก็จะมีชามะนาวมาให้ละ แล้วก็เป็นคนที่จับทางความรู้สึกของคนอื่นได้เร็วสุด” พิธีกรรีบบอก “นี่คือคุณสมบัติที่สาวไทยตามหา” ชาฮุนเขินจัด “ผมอายจังครับ” เปลี่ยนเรื่องคุยบ้าง “การคัมแบ็คครั้งนี้ แต่ละคนมีความเปลี่ยนแปลง แต่ละคนเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?” แจฮยอนอธิบาย “ก่อนอื่นเลยคือทุกคนในวงลดน้ำหนักกันเยอะเลย ก่อนหน้านี้เพลงของเราจะเป็นแนวสนุกสนาน แต่มาคราวนี้มีเพลงช้า แนวเซ็กซี่ มีการทดลองแนวเพลงด้วย” ถามเรื่องเพลงกันต่อ
“อยากรู้ว่าสมาชิกคนไหนแต่งเพลงเองบ้าง เอาเวลาที่ไหนไปแต่ง ได้แรงบันดาลใจมาจากไหน เอามาจากชีวิตตัวเองรึเปล่า?” ชาฮุนเล่าให้ฟัง “อย่างผมจะนึกออกตอนก่อนนอน หรือเวลาอาบน้ำ เวลามีเนื้อเพลงที่เอามาจากชีวิตจริงของคนรอบข้างก็จะเอาเมโลดี้ลงไปใส่ในเนื้อเพลงครับ” ชวนคุยเรื่องเดินแบบ “ซึงฮยอบและแจฮยอน เคยสลัดลุคนักดนตรีมาขึ้นเวทีเดินแบบที่เมืองไทยด้วย อยากทราบว่าความรู้สึกตอนเดินบนรันเวย์ มีเบื้องหลังหรือความทรงจำอะไรสนุกๆบ้าง?” ซึงฮยอบเท้าความ “ตอนนั้นมาไทยครั้งแรกเลย สนุกมาก เหนือความคาดหมาย ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น เมืองไทยสวย ผมคิดถึงขนาดที่ว่าถ้ามีโอกาสเรียนต่อเมืองนอกก็คงจะเป็นเมืองไทยนี่แหละ..(กรี๊ดกันไป)”
แจฮยอนเล่าต่อ “ตอนนั้นผมขาวโพลนไปหมดเลย เพราะตื่นเต้นมากๆ (ทำท่าเดินแบบให้ดู) เป็นความท้าทายใหม่เลยตื่นเต้น ตอนนั้นมีนายแบบอยู่ข้างหน้าผม เค้ากำลังเต้นอยู่ (แสดงท่าทางประกอบ) อา…แบบนั้นน่ะเอง การเดินบนแคทวอล์คต้องสนุกกับมัน แต่สุดท้ายตอนเดินก็เป็นโรบอทอยู่ดี” “มีรายการเรียลลิตี้ N.Flying Let’s Roll ด้วย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย” ชาฮุนเล่าว่า “เป็นคอนเทนต์ที่มีความเป็นเรียลลิตี้ ไม่มีการปรุงแต่ง ดิบๆ ต่างจากภาพพวกเราที่เคยเห็นตามสื่อ พยายามใส่ภาพกิจวัตรประจำวันลงไปให้มากที่สุด และได้เป็นตัวของ N.Flying ครับ” พิธีกรแซวหนุ่มๆ ว่า “ถามเยอะแบบนี้ แทบจะเล่าไปถึงตอนเดบิวต์อยู่แล้ว” หนุ่มๆก็ตอบว่า “ชอบมากครับ ถามเยอะๆแบบนี้ ถามไปถึงตอนเดบิวต์เลยก็ได้ครับ”
ถามเรื่องละครบ้าง “มีผลงานซีรีส์กันทุกคนเลย ผลงานล่าสุดมีใครบ้าง?” กวังจินช่วยตอบ “ตอนนี้มีของซึงฮยอบ เรื่อง Love Pub ครับ” ซึงฮยอบเสริม “บทในละครจะเป็นที่ปรึกษาในการจีบหญิงให้กับผู้ชายที่จีบหญิงไม่เก่ง ซึ่งผมก็จีบไม่เก่ง ตอนแรกก็กลัวว่าจะทำได้ดีมั้ย แต่ผู้กำกับฯให้ความช่วยเหลือเรื่องฟีดแบ็คตลอด เลยผ่านมาได้ด้วยดีครับ” พิธีกรถามจี้ “จีบหญิงไม่เก่ง แล้วมีการปรึกษาใครในวงบ้างมั้ย? หรือจีบผู้หญิงไม่เก่งกันหมดเลย?” ฮเวซึงเด็กดีตอบว่า “ผมไม่คิดเรื่องการจีบสาวหรอกครับ ผมเน้นเรื่องของดนตรีมากกว่าครับ” แจฮยอนแซวน้องเล็ก “จริงๆก็คือไม่เก่งนั้นละ” (จุดนี้หัวเราะกันลั่น)
คำถามส่งท้าย “ได้เตรียมภาษาไทยมาเพื่องานนี้กันบ้างมั้ย?” ซึงฮยอบบอกว่า “ไล่อันดับคนที่อายุน้อยสุด 3 คน ไปเข้าคอร์สเรียนภาษาไทยมาเลยครับ” ชาฮุนรีบออกตัว “แต่ว่าตอนนี้ลืมหมดแล้ว” แจฮยอนบอกว่ามีเพิ่งเรียนมา แล้วพูดขึ้นเสียงดัง “เจ๋ง” (รู้ด้วยนะว่าแปลว่า เยี่ยม) ชาฮุนอวดบ้าง “ผมก็มีครับ เป็นคำที่จำเป็นมากที่สุดเวลาอยู่เมืองไทย ‘อยากกินปูผัดผงกะหรี่นะครับ’” (พูดชัดและเร็วมาก) แจฮยอนขอพูดอีก “เจ๋ง ปูผัดผงกะหรี่เจ๋ง” (ว่าแล้วก็แตะมือแท็กทีมกัน) ฮเวซึงขออุบไว้ก่อน “ผมเตรียมมานะ แต่ผมพูดที่นี่วันนี้ไม่ได้ครับ ผมเตรียมมาเพื่อพรุ่งนี้เลย” ซึงฮยอบก็เหมือนกัน “ผมก็ไม่สามารถพูดโชว์ตรงนี้ได้ มันซ้ำกันน่ะครับ” กวังจินไม่พูดเยอะเพราะเจ็บคอ “ผมรักคุณ” และ “อันนี้ อันนี้” (พร้อมชี้มือประกอบ)
สุดท้ายแล้ว “ช่วยทิ้งท้ายหน่อยว่าพรุ่งนี้ไปเจอกันในงานแฟนมีตติ้งเป็นยังไงบ้าง?” ซึงฮยอบเป็นตัวแทนตอบ “พวกเราจะมอบของขวัญที่ทุกคนจะลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต สำหรับบางคนก็อาจจะมาเจอพวกผมเป็นครั้งแรก และต่อๆไปก็จะพยายามให้ได้กลับมาเจอทุกคนที่เมืองไทยอีกนับครั้งไม่ถ้วนเลย ขอให้ทุกคนติดตาม แล้วก็ รักทุกคนนะครับ” และแฟนมีตติ้งของพวกเขาต้องไม่ธรรมดาแน่ เพราะงานนี้พวกเขาจะเล่นสด ร้องสด เรียกเสียงฮาแบบสดๆ จัดเต็มอย่างแน่นอน