วิธีเก็บรักษา เครื่องสำอาง

วิธีเก็บเครื่องสำอาง ให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้น ข้อควรระวัง

Home / แฟชั่น / วิธีเก็บเครื่องสำอาง ให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้น ข้อควรระวัง

การเก็บที่ดีไม่ควรเก็บในที่ที่มีอุณหภูมิสูง หรือถูกแสงแดดโดยตรง เช่น ในรถ เพราะอุณหภูมิบ้านเราอาจสูงถึง 40 องศา ได้ในตอนกลางวัน ทุกวันนี้ทุกคนเจอปัญหารถติด ต้องรีบออกจากบ้านในตอนเช้า ทำให้ต้องทานอาหารเช้าและแต่งตัวในรถ สุภาพสตรีบางท่านก็ การแต่งหน้า ในรถก็เลยอาจเก็บเครื่องสำอางไว้ในรถด้วย และหากจอดรถกลางแจ้ง

วิธีเก็บเครื่องสำอาง ให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้น

– ความร้อน และแสงแดด พึงระวัง

นอกจากจะมีความร้อนแล้ว ยังมีแสงแดดที่สามารถเร่งการเสียของเครื่องสำอางได้ หากท่านใดเคยเก็บเครื่องสำอางในรถก็จะเจอปัญหาว่าลิปสติกโค้งงอ หรือหลอม เสียรูปไป ครีมที่เก็บไว้อาจแยกชั้นก่อนวันหมดอายุ หรือก่อนที่เราจะใช้หมด หากครีมมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติก็อาจจะเสื่อมสลายได้ง่ายเมื่อโดนความร้อน แต่เรามองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น หากเก็บน้ำหอมไว้ในรถนานๆ น้ำหอมบางส่วนอาจระเหยเพราะความร้อน สีอาจจะเปลี่ยนเมื่อโดนแสงแดด และกลิ่นก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย

ดังนั้นควรเก็บรักษาเครื่องสำอางภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ตามที่ระบุไว้บนฉลากอย่างเคร่งครัด

makeup-eyes

หากไม่มีการระบุวิธีเก็บเครื่องสำอางไว้บนฉลากก็ควรเก็บเครื่องสำอางไว้ใน ที่เย็น แห้ง และแสงแดดส่องไม่ ถึงผู้บริโภคมักจะเข้าใจว่าการเก็บเครื่องสำอางไว้ในตู้เย็นจะทำให้เครื่องสำอางมีความคงตัวที่ดีและสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานขึ้น ทำให้เมื่อมีการลดราคาเครื่องสำอางหรือมีโอกาสไปต่างประเทศ ก็ไปซื้อเครื่องสำอาง มากักตุนไว้ทีละมากๆ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสม

– การเก็บเครื่องสำอางไว้ในตู้เย็น

การเก็บเครื่องสำอางไว้ในตู้เย็นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำอาจทำให้การเสื่อมสลายทางเคมีหรือการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์เป็นไปได้ช้าลง แต่ไม่ได้หมายความว่าเครื่องสำอาง ที่เก็บในตู้เย็นจะไม่มีโอกาสเสียเลย นอกจากนี้การเก็บเครื่องสำอางบางชนิดไว้ในตู้เย็นอาจทำให้ เครื่องสำอางไม่คงตัวได้อย่างรวดเร็ว เช่นเครื่องสำอางบางประเภทอาจจะขุ่นหรือตกตะกอนได้ง่ายหากเก็บไว้ในที่เย็น

– ควรใช้ครีมนั้นหรือไม่ หากซื้อมาเป็นเวลานานแล้ว

ครีมที่ซื้อมาจากต่างประเทศ เก็บไว้ในตู้เย็นที่บ้านเป็นเวลานานแล้ว ก็ยังดูดีอยู่ ไมมี่เชื้อราขึ้น ไมมี่กลิ่นเหม็น หืน จะยังคงใช้ครีมนั้นต่อไปได้หรือไม่ ?  โดยให้ดูจากวันผลิต หรือวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลาก หากหมดอายุหรือมีอายุเกิน 2 ปีครึ่งแล้วก็ควรทิ้งไป เพราะสารบางอย่างในครีมอาจเสียไปแล้ว หากนำไปใช้ อาจเกิดอาการระคายเคืองเนื่องจากสารนั้น ซึ่งอาจจะทำให้ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลมากกว่าค่าครีมที่จะทิ้งไปเสียอีก

หรือหากต้องการลองเสี่ยงใช้ดูก็อาจทำได้ แต่ต้องทดสอบดูก่อนว่าจะเกิดอาการ แพ้หรือไม่ หรือถึงแม้จะไม่เกิดอาการแพ้ สารสำคัญก็อาจเสื่อมสลายไปแล้วบางส่วน หากยังคงใช้ต่อไปก็จะไม่ได้ประโยชน์ตามที่ต้องการ

ขอบคุณข้อมูล : เภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

บทความแนะนำ