skinfood เกาหลี เครื่องสำอางเกาหลี

Skinfood เครื่องสำอางสัญชาติเกาหลี วิกฤติหนักยอดขายตก แถมหนี้สะสม 2 พันล้านวอน

Home / เรื่องทั่วไป / Skinfood เครื่องสำอางสัญชาติเกาหลี วิกฤติหนักยอดขายตก แถมหนี้สะสม 2 พันล้านวอน

Skinfood เครื่องสำอางสัญชาติเกาหลี เครื่องสำอางแบรด์ดังที่ใครๆ หลายคนรู้จักกันดี เพราะเครื่องสำอางแบรนด์นี้เข้ามาเปิดสาขาที่ไทยตามห้างดังในกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่จำนวนมาก

Skinfood เผชิญหน้าวิกฤติหนัก

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมาบริษัท iPEERS Cosmetics ซึ่งบริษัทแม่เจ้าของแบรนด์ Skinfood ได้ถูกบริษัทคู่สัญญาจำนวน 14 แห่งยื่นฟ้องร้องให้พิทักษ์ทรัพย์ต่อศาล เพราะทางบริษัท  iPEERS Cosmetics ผิดนัดชำระหนี้ค่าสินค้ามูลค่า 2 พันล้านวอน (ประมาณ 58 ล้านบาท)

Skinfood เครื่องสำอางสัญชาติเกาหลี

หลังจากที่บริษัทถูกศาลสั่งฟ้องพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือจ่อถูกฟ้องล้มละลาย เพราะการพิทักษ์ทรัพย์ถือเป็นเครื่องมือประกันความเสี่ยงให้กับเจ้าหนี้ โดยศาลจะตีมูลค่าทรัพย์สินที่ลูกหนี้มี แล้วถ้าลูกหนี้ไม่สามารถใช้หนี้ได้ ทรัพย์สินนั้นจะถูกแบ่งไปชำระหนี้ให้เจ้าหนี้แต่ละคนตามอัตราส่วนหนี้ที่เจ้าหนี้แต่ละรายแจ้งเอาไว้ ซึ่งเรื่องราวขณะนี้คือทาง Skinfood ได้เจรจาประนอมการชำระหนี้แล้ว

ข้อความส่วนหนึ่งจากแถลงการของบริษัท

“ถึงแม้ว่าบริษัทจะอยู่ระหว่างการบริหารจัดการให้มีความคล่องตัวมากขึ้นหลังจากมีปัญหาหนี้สะสม แต่ด้วยแบรนด์อันเป็นเอกลักษณ์และผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพของ Skinfood เราเชื่อว่าการปรับโครงสร้างหนี้ในชั้นศาลจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย อันหมายรวมถึงเจ้าหนี้ด้วย”

จุดเริ่มต้นของวิกฤติ

Skinfood เป็นเครื่องสำอางค์ที่เคยขึ้นแท่นเครื่องสำอางที่ขายดีอันดับ 3 ของตลาดเครื่องสำอางเกาหลีในปี 2012 แต่ทว่าตั้งแต่ปี 2014 ยอดขายก็ตกลงเรื่องๆ โดยเฉพาะปี 2017 ที่รายได้บริษัทยู่ที่ 1.27 แสนล้านวอน (ราว 3.7 พันล้านบาท)ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้ามากถึง 25%

ส่วนสาเหตุที่รายได้ลดลงก็เนื่องมาจากการเกิดใหม่ของแบรนด์เครื่องสำอางค์เกาหลีจำนวนมาก อีกทั้งยังมีปัญหาโรคระบาด ปัญหาขัดแย้งระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกำลังซื้อหลัก จึงทำให้ยอดขายจึงตกลงไปมาก

HOW TO : วิธีเขียนคิ้วสำหรับมือใหม่ ละเอียดทุกขั้นตอน

Link : seeme.me/ch/kittynoofah/qQ3EQ9

ความพยายามในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน

ช่วงเวลาที่ผ่านมาบริษัทพยายามปรับโครงสร้างทางการเงิน ขายลิขสิทธิ์ดำเนินการบริหารแบรนด์และร้านค้าในต่างประเทศ โดยมีการขยายร้านค้าในต่างประเทศทั้งหมด 19 ประเทศ อีกทั้งยังจับมือเป็นพันธมิตรกับ Amazon Korea เพื่อเปิดร้านค้าทางการบนเว็บไซต์ Amazon โดยหวังว่าจะช่วยดันรายได้จากต่างประเทศได้ ทางฝั่งนักวิเคราะห์ยังมองว่า Skinfood อาจจะต้องเริ่มปิดสาขาบางแห่งเนื่องจากสินค้าในสต๊อกขาดแคลน

นอกจากนี้สำหรับประเทศไทยก็ยังมีหลายๆ คนที่ชื่นชอบเครื่องสำอางและสกินแคร์ของยี่ห้อนี้ ตัวอย่างเครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ได้รับความนิยมก็อย่างเช่น เบสเมคอัพองุ่นขาว, MASK สครับข้าวโอ๊ต, เซรั่มมะเขือเทศ, BANANA CONCEALER, แป้งองุ่น หรือ เซรั่มบำรุงรอบดวงตา GOLD CAVIAR เป็นต้น และถ้าหาก Skinfood ต้องปิดแบรนด์ไปจริงๆ จะไปหาซื้อครีมบำรุงพวกนี้ที่ไหนกัน

รวมรูปสินค้า Skinfood ที่เป็นที่นิยม

ขอบคุณข้อมูลจาก: forbesthailand

ภาพ: skinfood visitkorea

บทความที่เกี่ยวข้อง