การสอบ

ไขข้อข้องใจ TGAT / TPAT คืออะไร? สอบอะไรบ้าง ?

Home / ข่าวประชาสัมพันธ์ / ไขข้อข้องใจ TGAT / TPAT คืออะไร? สอบอะไรบ้าง ?

ผ่านพ้นกันไปแล้วสำหรับ DEK66 ในเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในปีนี้ที่ระบบ TCAS66 ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากข้อสอบ GAT และ PAT มาเป็น TGAT และ TPAT ทำให้หลายๆ คนเกิดอาการสับสน วันนี้เราจึงขอมาสรุปให้ฟังกันอีกครั้งว่า TGAT และ TPAT คืออะไร เพื่อให้น้องๆ DEK67 ได้เตรียมพร้อมรับมือกับ TCAS67 ที่กำลังจะมาถึงในปีนี้กัน

TGAT TPAT คืออะไร?

TGAT TPAT คือ ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยรูปแบบใหม่ของระบบ TCAS66 เริ่มใช้ในปี 2565 โดยจุดประสงค์หลักเพื่อลดการสอบที่ซ้ำซ้อน รูปแบบข้อสอบจะเน้นการประยุกต์ให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง ไม่เน้นท่องจำไปสอบ

เนื้อหาของ TGAT จะแบ่งออกเป็น 3 พาร์ท และ TPAT แบ่งออกเป็น 5 วิชา ผู้เข้าสอบสามารถเลือกว่าจะสอบแบบกระดาษหรือคอมพิวเตอร์ (ยกเว้น TPAT1 ข้อสอบความถนัดแพทย์) คะแนนสอบที่ได้จะใช้ในการยื่น TCAS ในรอบแฟ้มสะสมผลงาน รอบโควตา หรือรอบ Admission ขึ้นอยู่กับว่าคณะที่เราเลือกมีกำหนดให้ยื่นรอบไหนบ้าง โดยคะแนนสอบจะมีอายุ 1 ปีเท่านั้น

TPAT (Thai Professional Aptitude Test)

เป็นการทดสอบวัดระดับความถนัดทางวิชาชีพ โดยเน้นไปที่การวัดความสามารถเชิงทักษะสายอาชีพ ชุดข้อสอบได้พัฒนามาจากข้อสอบ PAT แบบเดิมแต่ใน TPAT จะลดเหลือ 5 วิชา คะแนน TPAT สามารถใช้ยื่นได้ทุกรอบ และภาพรวมของการคัดเลือก TCAS จะใช้ TPAT เป็นเกณฑ์คะแนนในการคัดเลือกราว 70%+

ข้อสอบ TPAT มีคะแนนเต็ม 100 คะแนนต่อรายวิชา แบ่งเป็น 5 วิชา

  • ความถนัดทางแพทยศาสตร์
  • ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
  • ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
  • ความถนัดทางครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์
  • ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์

TGAT (Thai General Aptitude Test)

TGAT คือ การทดสอบวัดความถนัดทั่วไป ที่ไม่เน้นเนื้อหาความรู้ทางวิชาการ ข้อสอบถูกพัฒนามาจากข้อสอบ GAT แบบเดิม แต่ข้อสอบ TGAT จะมีทั้งหมด 3 พาร์ท และมีการเพิ่มรูปแบบการสอบแบบคอมพิวเตอร์ (CBT) เข้ามาด้วย แต่ต้องสอบผ่านคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น โดยการสอบแบบกระดาษ (Paper Based Test: PBT) กับสอบแบบคอมพิวเตอร์ (Computer Based Test: CBT) จะจัดขึ้นในวันแล้วเวลาเดียวกัน ใครที่กำลังสงสัยว่า TGAT สอบอะไรบ้าง วันนี้เราได้รวบรวมเนื้อหาที่ต้องสอบมาให้แล้วไปดูกัน

ข้อสอบ TGAT มีคะแนนเต็ม 300 คะแนน แบ่งเป็น 3 พาร์ท

โดย TGAT ส่วนที่ 1 จะเป็นข้อสอบภาษาอังกฤษทั้งหมด จะเน้นในเรื่องการสื่อสาร และการใช้ชีวิตประจำวัน และส่วน TGAT ที่ 2-3 จะขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกข้อสอบ TGAT เป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย

  • Part 1 English Communication (การสื่อสารภาษาอังกฤษ) มีทั้งหมด 60 ข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
  • ทักษะการพูด 30 ข้อ
  • ทักษะการอ่าน 30 ข้อ
  • Part 2 Critical and Logical Thinking (การคิดอย่างมีเหตุผล) มีทั้งหมด 80 ข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
  • ความสามารถทางภาษา 20 ข้อ
  • ความสามารถทางตัวเลข 20 ข้อ
  • ความสามารถทางมิติสัมพันธ์ 20 ข้อ
  • ความสามารถทางเหตุผล 20 ข้อ
  • Part 3 Future Workforce Competencies (สมรรถนะการทำงาน) มีทั้งหมด 60 ข้อ คะแนนเต็ม 100 คะแนน
  • Value Creation & Innovation : การสร้างคุณค่าและวัฒนธรรม 15 ข้อ
  • Complex Problem Solving : การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน 15 ข้อ
  • Emotional Governance : การบริการจัดการอารมณ์ 15 ข้อ
  • Civic Engagement : การมีส่วนร่วมและรับผิดชอบต่อสังคม 15 ข้อ

การเตรียมความพร้อมแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ฝึกตะลุยโจทย์ ลงเรียนคอร์สสอนพิเศษ จะช่วยให้น้องๆ มีความพร้อมและมั่นใจเวลาลงสนามสอบจริง ส่วนน้องๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากเนื้อหา TGAT จากตรงไหน Enconcept มีคอร์สที่จะช่วยให้น้องๆ ได้เริ่มจับเนื้อหาได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะ TGAT หรือ A-Level เราได้รวบรวมเทคนิดดีๆ มากมาย พร้อมพาทุกคนไปตะลุยโจทย์แบบไม่กั๊ก ให้น้องๆ มั่นใจได้ว่าจะตามทันทุกเนื้อหา ไม่มีหลุด และยังมีพี่ๆ โค้ชคอยให้คำปรึกษาและช่วยดูแลตลอดการเรียนอีกด้วย สามารถเข้าไปดูคอร์สเรียนเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ Enconcept หรือ Line @ENCONCEPT