แคมปัส-สตาร์ มีอีกหนึ่งเรื่องราวสุดประทับใจ ที่อ่านแล้วสามารถสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้ในช่วงเวลานี้ เป็นเรื่องราวของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ทั้งสองพระองค์เคยชวนกันเล่นเปิด สโมสรปาตาปุม (Club Patapoum) ขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นการเล่นในตอนทรงพระเยาว์ แต่เรื่องราวทั้งหมดนั้นได้สะท้อนให้เห็นว่า ยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ทรงรู้จักการเสียภาษี และการเก็บออมมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
สโมสรปาตาปุม ชมรมของ ร.8 และ ร.9 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์
สโมสรปาตาปุมนี้ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเล่าว่า พระองค์ทรงได้รับจดหมายจากสโมสรปาตาปุม ในจดหมายนั้นระบุชื่อกรรมการที่ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสโมสรเป็นจำนวนมาก แต่กรรมการที่มีตัวตนจริงคงมีเพียงสองพระองค์ (รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9) นั่นเอง โดยทรงใช้พระนามที่แตกต่างกัน ระบุในตำแหน่งจริง และตำแหน่งรอง สลับกันไปมาระหว่างสองพระองค์
และทรงเล่าต่อไปอีกว่า พระองค์ไม่ทรงทราบว่าสโมสรนี้ตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใด แต่คงตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แก่สโมสร หาความสนุกอย่างเด็กๆ และในขณะเดียวกันก็เป็นการทำบุญด้วย รายได้ของสโมสรปาตาปุมได้มาจากค่าสมาชิก และการหารายได้พิเศษ
ค่าสมาชิกก็คือ เงินส่วนหนึ่งที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระราชทานทุกสัปดาห์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร ทรงได้รับเงินมากกว่าเนื่องจากทรงเจริญพระชนมายุกว่า จึงต้องทรงเสียค่าสมาชิกมากกว่า นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงระหว่างสองพระองค์ว่า ถ้าพระองค์ใดทรงได้รับเงินเป็นของขวัญ จะต้องทรงเสียภาษีให้แก่สโมสรด้วย หากทรงมีรายได้พิเศษ จะต้องเก็บภาษีร้อยละ 50 เป็นรายได้สำหรับคนจน สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งทรงได้รับสมมติเป็น “รัฐบาล” ทรงทำกล่องไว้สำหรับสองพระองค์ทรงบริจาคเงินสำหรับทำบุญไว้ด้วย หากพระองค์ใดมีพระราชประสงค์จะทรงทำบุญก็จะทรงนำเงินไปใส่กล่องเอง
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้เคยกราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อ พ.ศ. 2529 เกี่ยวกับรายได้ของสโมสรปาตาปุม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงรับสั่งว่า สโมสรปาตาปุมนี้ร่ำรวยมากขึ้นเมื่อคราวเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2481 เรื่องนี้ ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ได้เล่าขยายไว้น่าสนใจ เห็นควรนำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) เสด็จฯ นิวัติประเทศเมื่อ พ.ศ. 2481 นั้น
วันหนึ่งทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ที่วังสระปทุม ทั้งสองพระองค์ยังใฝ่พระราชหฤทัยในการหารายได้เข้าสโมสรอยู่ มีพระราชประสงค์ได้เงินพระราชทานจากสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า แต่ครั้นจะกราบบังคมทูลขอพระราชทานตรงๆ ง่ายๆ ก็หาใช่พระอุปนิสัยไม่ มีพระราชดำริที่จะทรงหาเงินโดยมิต้องออกพระโอษฐ์กราบบังคมทูลขอพระราชทาน
กล่าวคือ ทรงทำพระอาการว่า โปรดจะทอดพระเนตรเงินไทย จึงกราบบังคมทูลถามว่า เงินใบละบาทมีไหม สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ารับสั่งว่ามี ทั้งสองพระองค์ก็กราบบังคมทูลต่อไปว่า ขอดูหน่อย สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าก็โปรดให้ข้าหลวงประจำพระองค์ไปนำเงินมาถวายให้ทอดพระเนตร ทั้งสองพระองค์ทรงถือโอกาสว่า สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าพระราชทานเงินนั้นแล้วก็ทรงกราบ แล้วรับสั่งถามถึงธนบัตรราคาอื่น ตั้งแต่ราคา 1 บาท 5 บาท 10 บาท 20 บาท เมื่อข้าหลวงนำเงินมาถวายให้ทอดพระเนตร สองพระองค์ก็จะทรงกราบขอบพระทัยทุกครั้ง
ครั้นสองพระองค์รับสั่งถามถึงธนบัตรฉบับละ 50 บาท สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ารับสั่งตอบว่า ไม่มี ก็รับสั่งถามต่อไปอีกว่า แล้วธนบัตรฉบับละ 100 บาท มีไหม ถึงตอนนี้ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าพอจะเข้าพระทัยในพระราชดำริของพระราชนัดดา แม้ว่าจะทรงพระเมตตา แต่ก็ไม่โปรดคนที่เอาเปรียบคนอื่น เมื่อทรงทราบทันพระราชนัดดา ก็รับสั่งตอบไปว่า “มี แต่จะต้องตัดในบัญชีของหลาน” ถึงตอนนี้ทั้งสองพระองค์จึงได้ทรงหยุด ไม่กราบบังคมทูลขอต่อไปอีก
สโมสรปาตาปุมนี้ มีการประชุมด้วย โดยใช้ตู้เก็บฉลองพระองค์ในห้องพระบรรทมของสองพระองค์เป็นสถานที่ประชุม เนื่องจากสองพระองค์ทรงพระเจริญเร็ว จึงมีฉลองพระองค์ในตู้ไม่มากนัก ทำให้พอที่จะเสด็จเข้าไปประทับประชุมลับกันได้ การประชุมสโมสรนี้ก็มักเป็นเรื่องตกลงว่าจะนำเงินสโมสรไปซื้ออะไร หากมีเงินเก็บมากก็จะนำไปฝากธนาคารไว้ นอกจากเงินแล้ว ยังมีทรัพย์สินอื่น คือ เหรียญทองสวิสที่ทรงซื้อเก็บสะสมทีละเล็กละน้อย กับหนังสือ ซึ่งมีทั้งหนังสือส่วนพระองค์ หนังสือส่วนสโมสร และหนังสือความรู้ที่ “รัฐบาล” ทรงซื้อให้
ภาพตอนทรงพระเยาว์
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเล่าว่า สโมสรปาตาปุมนี้ได้ส่งจดหมายมาถึงพระองค์อีก 2-3 ครั้ง ฉบับหนึ่งเป็นลายพระราชหัตถ์ (ลายมือ) ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ 8) ทรงเป็นภาษาฝรั่งเศสล้อเลียนงานเขียนของนักเขียนบทละครชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง และทรงเล่าว่า สโมสรปาตาปุมยังได้สงเคราะห์พระองค์เมื่อครั้งประชวรอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติเจนีวา ทรงได้รับกล่องบรรจุไก่ย่างตัวเล็ก ช็อกโกแลต สิ่งของอื่นๆ และมีหนังสืออวยพรขอให้หายป่วยเร็วๆ กล่องนี้ระบุว่าส่งมาจากสโมสรปาตาปุม และมี ป.ล.ด้วยว่า สโมสรปาตาปุม เป็นผู้จ่ายเงิน ไม่ใช่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า)
สโมสรปาตาปุมได้ยุติลงเมื่อต้องเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2489 กระนั้น การเล่นสโมสรของยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ก็ได้แสดงให้เห็นว่า ทรงรู้จักการเสียภาษี และการเก็บออมมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ภาษีหรือเงินที่ทรงเสียให้สโมสรนั้นก็ได้นำไปทำบุญหรือบริจาคในทางสาธารณประโยชน์ นับว่าเป็นการเล่นที่สะท้อนพระราชอัธยาศัยได้เป็นอย่างดี ทั้งยังส่งผลสืบเนื่องมาสู่พระบรมราโชบาย และพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎรตลอดมา
ภาพหาชมยาก รัชกาลที่ 8 และ รัชกาลที่ 9 ตอนทรงพระเยาว์
ข้อมูลและภาพจากหนังสือ เจ้านายเล็กๆ – ยุวกษัตริย์ พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และหนังสือ ทำเป็นธรรม ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เรียบเรียง, http://www.photoontour.com, https://www.facebook.com/RoyalArchivesofOHM/
บทความแนะนำ
- ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่สุดแห่งพระอัจฉริยภาพ
- ภาพที่บันทึกไว้ปี 2538 ในหลวง ร.9 เสด็จออกจากศิริราช ไปสวนจิตรฯ
- พระนามแรกประสูติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ความเป็นมาพระนามต่างๆ
- 9 เรื่อง พระราชอารมณ์ขัน ในหลวงรัชกาลที่ 9
- พระราชบุตรทั้งสี่กระโดดกอด ในหลวง ร.9 – วินาทีสุดตื้นตัน อบอุ่น ภาพวันวาน
- เรื่องราวของ “แหนน” พระพี่เลี้ยงของเจ้านายเล็กๆ ยุวกษัติย์ไทย (ร.8-ร.9-พระพี่นางฯ)