นับเป็นข่าวที่ช็อกวงการบันเทิงครั้งใหญ่ เมื่อนางเอกสาวคนสวยเจ้าของฉายา “เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง” แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช ควงคู่แฟนหนุ่มไฮโซ และครอบครัวแถลงข่าว การที่แฟนข่าวบันเทิง ให้ความสนใจมาตลอด ในช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา และดาราสาวปฏิเสธมาตลอด นั่นคือ “การตั้งครรภ์”
แหม่ม-คัทลียา ท้อง 5 เดือน
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 ก.ย. 2548 ฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัทโพลีพลัส ได้โทรศัพท์แจ้งผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ให้มาร่วมงานแถลงข่าว ของนางเอกสาวที่สตูดิโอบริษัทโพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 43 โดยการแถลงเริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น. แหม่มที่อยู่ในชุดเสื้อคอจีนสีดำตัวโคร่ง อำพรางรูปร่างที่เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง ของช่วงลำตัวอย่างชัดเจน เดินทางมาพร้อมกับนายสงกรานต์ กระจ่างเนตร์ แฟนหนุ่ม นายเริงฤทธิ์ แมคอินทอช หรือที่รู้จักกันในนามวิลลี่ พี่ชายของนางเอกสาว นางยุรภรณ์ แมคอินทอช มารดา และนายสานติ กระจ่างเนตร์ พ่อของฝ่ายชาย
โดยดาราสาวกล่าวทักทายผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่ได้แสดงอาการอมทุกข์ อย่างที่หลายฝ่ายคาดเดา โดยวิลลี่รับหน้าที่เอ่ยปากขอบคุณผู้สื่อข่าวที่มาร่วมงานแถลงข่าวเรื่องราวในครอบครัวของเขา โดยแหม่มมีข่าวดีมาบอก เป็นข่าวดีที่ทำให้ตนเองมีความสุขมาก
จากนั้นแหม่มเปิดใจต่อหน้ากองทัพนักข่าวจากทุกสำนักนับร้อยคน ถึงข่าวต่างๆที่ออกมา ซึ่งสร้างความสับสนให้แฟนๆไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่มีข่าวว่าตนไปอยู่ชิคาโก ประเทศอเมริกา ก็ไม่ได้ไป ยังอยู่เมืองไทยทำงานตามปกติ
“แหม่มไม่ได้ทำผิด ไม่ได้คิดร้ายกับใคร แต่วันนี้มีเรื่องอยากจะบอก ซึ่งเป็นข่าวดีมาก แหม่มคิดว่าทุกคนคงจะยินดีกับแหม่มด้วย คือเย็นเมื่อวานนี้หลังจากประชุมบริษัทกับพี่วิลลี่เสร็จ วันนั้นพี่วิลลี่ก็ล้ออยู่นั่นแหละว่าแหม่มพุงโร ด้วยความที่แหม่มไม่ได้ใส่ใจสุขภาพเท่าที่ควร เป็นความผิดพลาดมาก มัวแต่ทำงานตลอดเวลา อย่างอัดรายการสมาคมชมดาว ถ่ายรายการไอซียู ถ่ายแบบ เดินแบบ มันก็อ้วนขึ้นๆ แต่ไม่ได้ไปหาคุณหมอ แค่อาศัยถามเอาจากผู้เชี่ยวชาญ ว่าอาการแบบนี้มันจะเป็นเนื้องอกมั้ย เป็นมะเร็ง เป็นถุงน้ำในรังไข่รึเปล่า แต่ไม่ได้คิดจะไปตรวจ พักหลังพอมีคนทักเยอะเลยเริ่มห่วงสุขภาพตัวเองเลยไปหาคุณหมอดีกว่า ทำให้แหม่มได้รับข่าวดีมากๆ ว่าแหม่มตั้งครรภ์ พี่วิลลี่ดีใจมาก แหม่มก็ดีใจ เพราะไม่ได้เป็นโรคอะไรอย่างที่คาดเดา แต่กลับได้ข่าวดี” ดารา-พิธีกรสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง และกล่าวอีกว่าข่าวนี้เป็นข่าวดี ดีใจมากๆ เพราะเป็นคนรักเด็ก และอยากมีลูกเหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไป อย่างไรก็ตาม เจ้าของฉายาเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง ยืนยันว่า ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าตั้งครรภ์
แค่รู้สึกว่าอ้วนขึ้น..
“แหม่มอยากทำความเข้าใจว่าไม่ได้ปิดบังจริงๆ แต่ไม่ทราบเลยว่าตัวเองตั้งท้อง ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ แค่รู้สึกว่าอ้วนขึ้นประมาณ 5 กิโล พอมีคนทักเราก็พยายามลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย รวมถึงการลดอาหาร ทานแค่ผัก ปลา แต่ก็ไม่ลง หลังๆหน้าเริ่มผอม แขนเริ่มเล็กแต่ก็อ้วนอยู่ ยังเดินทางไปถ่ายรายการไอซียูกับพี่วิลลี่ที่เคฟทาวน์ แอฟริกา อยู่เลย ถามว่าทำไมแหม่มยังไม่แต่งงานล่ะ จริงๆก็น่าจะเป็นผู้ชายนะที่ไม่กล้าแต่งงาน ไม่อยากแต่งงาน แต่แหม่มกลับแอบหวงชีวิตโสด แต่พอมาถึงวันนี้แล้วให้ทางฝ่ายชายตอบดีกว่านะ” ดาราสาวกล่าว ซึ่งนายสงกรานต์ที่นั่งเคียงข้างดาราสาวก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนกล่าวเปิดใจว่า ตนเองอยากแต่งงานกับแหม่มมานานแล้ว
“เค้าก็ลีลาใส่ผมตลอด สุดท้ายแล้ววันนี้รู้ว่าจะได้เป็นพ่อคนแล้ว ผมมีความสุขมาก ผมรักแหม่มมาก แล้วก็สัญญากับทุกคนว่าจะดูแลแหม่มอย่างดี เพราะรอมานานแล้ว ส่วนเรื่องการแต่งงาน พร้อมเมื่อไหร่ก็แต่งเลย คงเร็วที่สุด เพราะรอนานแล้ว บอกตรงๆ ว่าผมขอเค้าแต่งงานหลายรอบ ขอเยอะจนท้อ เกือบจะยอมแพ้แล้วครับ” ว่าที่คุณพ่อกล่าวบ้าง
ดาราสาวซึ่งไม่ได้เปิดโอกาสให้กองทัพนักข่าวเปิดปากถาม ก็ได้กล่าวเปิดประเด็นก่อนถึงข่าวลือที่ออกมา ทั้งการถูกปลดออกจากงานพิธีกร การหนีไปทำแท้งว่าไม่รู้เรื่องเลย และข่าวการตั้งครรภ์นี้ทุกคนทราบช้ากว่าทุกคน ในครอบครัวแหม่มแค่ชั่วข้ามคืนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ดาราสาวยังกล่าวออดอ้อนและหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเป็นช่วงๆ ว่าคงต้องขอทำงานต่อ อย่าปลดเลยและคงทำไปจนแก่ ถ้าช่วงไหนทำไม่ไหว ก็ขอฝากเนื้อฝากตัวพี่ชายด้วย เพราะยังไม่ได้ฝากท้อง แต่หลังจากนี้ขอไปดูแลตัวเองและลูกในท้อง ส่วนกองละครเรื่องคุณนายสายลับที่เพิ่งเปิดกล้องไปกับทางเอ็กแซ็กท์ คงต้องปรึกษาทางบอย-ถกลเกียรติ เพราะไม่ทราบว่าทางกองจะรอได้มั้ยหรือว่าจะเปลี่ยนตัว
ยังรับงานปกติ โลดโผนเยอะมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้ถามแทรกขึ้นไปว่าตั้งท้องกี่เดือนแล้ว ซึ่งพิธีกรดาราสาวกล่าวว่า คุณหมอบอกว่า 4-5 เดือน จริงๆ อาจจะแค่ 4 ซึ่งต้องไปเช็กให้ละเอียดอีกที เพราะเท่าที่ทราบคนท้องต้องไปตรวจทุกเดือน กินอาหารบำรุง ยาบำรุง รวมทั้งอัลตราซาวด์ เพราะที่ผ่านมาโลดโผนเยอะมาก
“ตอนพี่วิลลี่รู้ข่าวว่าท้อง ยังโวยวาย คือช่วงที่ผ่านมาแหม่มไปนั่งเรือ ลงไปดูฉลามขาว เดินเขา ขึ้นเขา โชคดีที่ไม่มีอาการ ยังไปวิ่งในรายการสมาคมชมดาวอยู่เลย ยิ่งอาการแพ้ท้องยิ่งไม่มีเลย เพราะถ้าแพ้แหม่มคงต้องรู้ตัว ไม่มาลีลานั่งรับงานเยอะแยะหรอกค่ะ ส่วนว่าเค้าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายยังบอกไม่ได้ ขอให้เค้าออกมาครบ 32 ก่อนนะ ห่วงมากแต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” พูดเสร็จ แหม่มก็หัวเราะร่วน
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวว่ายาสตรีเบนโลจะมีผลต่อลูกหรือไม่? แหม่มตอบว่า “ไม่น่านะ เพราะกินแป๊บเดียว ให้ประจำเดือนมาปกติ เพราะแหม่มจะมีปัญหาเรื่องนี้ พอกินไปๆ ดันอ้วนขึ้นๆ งงมาก แต่ตอนนี้อยากรู้ว่าหน้าตาเขาจะเป็นยังไง สำหรับวันนี้แหม่มขอบคุณจริงๆ ที่ทุกคนให้ความสำคัญกับแหม่มและครอบครัว คิดว่าทุกคนคงจะยินดีกับข่าวดี”
วิลลี่ พี่ชายของแหม่ม
ด้านวิลลี่ก็กล่าวรับทันทีอย่างอารมณ์ดีว่า จากพระเอกกลายเป็นลุงไม่รู้ตัวและดีใจ แต่ก็รู้สึกผิดมาก ถ้ารู้ล่วงหน้าคงจะไม่พาแหม่มไปทำงาน ไปขึ้นเขาแผงม้า ไปลงกรงดำดูฉลาม นั่งเรือกระแทกกันหลายรอบมาก โชคดีที่เด็กไม่เป็นอะไร แต่ในที่สุดครอบครัวก็จะมีหลานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทั้งหมดนั่งแถลงข่าวได้ประมาณ 30 นาที บรรดาช่างภาพก็ขอให้แหม่มถ่ายภาพคู่และหอมแก้มแฟนหนุ่ม ซึ่งดาราสาวแสดงอาการเขินๆ และว่านี่ไม่ใช่งานแต่งงาน พร้อมทั้งกล่าวตัดบทปิดการแถลงข่าว ด้วยการขอบคุณสื่อมวลชนที่มาทำข่าว และอ้างว่า พ่อของว่าที่สามีมีนัด ต้องรีบไปทำธุระที่อื่น
จากนั้นทีมงานได้เดินนำทั้งหมดออกมาจากสตูดิโอ โดย แหม่มยังเดินเข้าไปทักทายคิง-สมจริง ศรีสุภาพ ผู้กำกับละครชื่อดัง ที่มายืนให้กำลังใจอยู่ในบริเวณดังกล่าว และช่วงหนึ่งแหม่มกับวิลลี่ได้กล่าวหยอกเย้ากันเองว่า คุณแม่ดูกังวลมากว่ารู้ผลตรวจเมื่อคืนวาน แต่จัดแถลงข่าวทันที จะมีนักข่าวมาน้อยหรือไม่ รวมทั้งแหม่มได้พูดแซวตัวเองแบบขำๆ ว่ารู้สึกตัวเองเป็นเจ้าหญิง มีคนมารุมล้อมจำนวนมาก
ความเป็นมา ความสัมพันธ์
สำหรับความเป็นมาของความสัมพันธ์ระหว่าง แหม่มกับนายสงกรานต์นั้น เป็นที่ฮือฮาในวงกว้างขึ้นมาเมื่อมีข่าวออกมาเมื่อปลายปี 2547 ว่า ทั้งคู่จะเข้าพิธีรับพระราชทานน้ำสังข์ในวันที่ 11 พ.ค. 2548 แต่แหม่ม ออกมาปฏิเสธ พร้อมเตรียมเปิดแถลงข่าวในช่วงบ่าย วันที่ 27 ธ.ค. 2547 แต่เมื่อถึงเวลาปรากฏว่า ดาราสาวได้เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยรายงานข่าวแจ้งว่าการเลื่อนแถลงข่าว เพราะเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิซึ่งทำให้คนไทยโศกเศร้ากันทั้งประเทศ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหน้าการแถลงข่าวเพียง 1 วัน
สงกรานต์ กระจ่างเนตร์ หรือบีบี๋
ส่วนประวัตินายสงกรานต์ กระจ่างเนตร์ หรือบีบี๋ ที่กลายเป็นหนุ่มผู้โชคดีที่ได้ครองคู่กับนางเอกสาวสวยเจ้าของฉายา “เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง” นั้น ปัจจุบันอายุประมาณ 32 ปี เป็นบุตรชายนายสานติ กระจ่างเนตร์ ประธานคณะกรรมการ บริษัทคริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) โดยนายสงกรานต์เกิดที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียนจบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นิวยอร์ก จากนั้นกลับมารับราชการอยู่กรมสรรพากรอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนผันตัวมาเป็นนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ มีตำแหน่งเป็นประธานบริษัทเอสจี ดิเวลลอปเมนต์ จำกัด เจ้าของโครงการสานติ พูรา คอนโดมิเนียม ที่หมู่บ้านเขาลอดหมู่ที่ 1 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า คอนโดฯ แห่งนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และก็มีข่าวกระเส็นกระสายมาตลอดว่า มักมีคนพบทั้งคู่มาใช้ชีวิตอยู่ในละแวกดังกล่าวเป็นประจำในช่วงวันหยุด
ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์
ทั้งนี้ หลังจากที่ข่าว แหม่ม-คัทลียา แถลงข่าวยอมรับว่าท้องได้ 5 เดือน แพร่สะพัดออกไป ก็กลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” ไปทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเว็บไซต์ข่าวต่างๆ มีประชาชนเข้าไปอ่านและตั้งกระทู้แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งแสดงความยินดี เห็นใจ และตัดพ้อต่อว่าที่ดาราสาวปฏิเสธข่าวดีนี้มาตลอด ทำให้หลายเว็บเกิดสถิติใหม่มีผู้เข้าชมเกือบแสนครั้งในเวลาไม่ถึงชั่วโมง กระทั่งช่วงเย็นหลายเว็บไซต์ถึงกับล่ม ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ
หมอลักษ์ ฟันธง
ขณะเดียวกันก็มีความคิดเห็นจากหลายฝ่ายเริ่มตั้งแต่นายลักษ์ เรขานิเทศ หมอดูเจ้าของฉายาหมอฟันธง ที่ก่อนหน้านี้เคยทำนายชะตาชีวิตของแหม่ม-คัทลียา ไว้ว่าให้ระวังจะ “ท้องก่อนแต่ง” จนได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนคลับถึงความไม่เหมาะสมของการทำนาย แต่เมื่อแหม่มแถลงข่าวการตั้งครรภ์แล้ว หมอลักษ์ก็เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า การทำนายดวงดาราในลักษณะฟันธงนั้นไม่ใช่ประเด็นว่าอยากดัง
“สำหรับดวงของน้องแหม่ม ได้ทำนายไว้ว่าระหว่างปี 2548 ถึงปี 2549 จะมีดวงแต่งงานแบบปุบปับฉับพลัน ถ้าคบหาอยู่กับแฟนระวังจะถูกรวบรัดตัดตอน ทำให้ท้อง ต้องระวังนะ เพราะถ้าแหม่มระวัง แหม่มจะไม่ท้อง ถูกมั้ยครับ แต่ผมไม่ได้ทำนายว่าแหม่มจะต้องท้องก่อนแต่งนะ ผมบอกว่าควรระวัง ช่วงที่ผมทายดวงน้องแหม่มไป ผมโดนแฟนละครของน้องแหม่มด่ามาเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าผมอยากดัง เมื่อน้องแหม่มออกมาบอกว่าท้อง ไม่ใช่เวลาที่ผมจะมานั่งสะใจ ต้องขอแสดงความยินดีด้วย เพราะลูกที่จะเกิดมาเป็นลูกที่ดี เป็นอภิชาตบุตร เทวดาปกปักรักษา หลังจากมีลูกแหม่มจะดังกว่าเดิม คือเป็นผู้หญิงที่ตั้งท้องลูกแล้ว มีลักษณะอวบอิ่ม ผิวพรรณดี หน้าตาสดใส ผมทายเลยว่า แหม่มจะคลอดลูกดี แม่ดัง รวย ฟันธง!”
ฤกษ์ดีสำหรับพิธีแต่งงาน
ส่วนฤกษ์ดีสำหรับพิธีแต่งงาน หมอลักษ์กล่าวว่า ฤกษ์แต่งที่ดีของน้องแหม่ม คือ ช่วงเดือนกันยายน แต่ไม่ควรเลยช่วงวันเกิด คือ วันที่ 15 ต.ค. นอกจากนี้ หมอลักษ์จึงกล่าวอีกว่า ดวงน้องแหม่มทำให้ตนดังมากนะ จึงตั้งใจว่าวันที่คลอดลูกจะทำดวงชะตาทองคำนำไปมอบให้ลูกของน้องแหม่มด้วย แต่ช่วงนี้อยากให้น้องแหม่มเก็บเนื้อเก็บตัว อย่าหวั่นไหวกับกระแสสังคม เสียงซุบซิบนินทา ประคับประคองลูกให้ดี ซึ่งวัดที่จะไปขอพรให้เทวดาคุ้มครองลูก คือ พระพุทธชินสีห์ ที่วัดบวรนิเวศวิหาร
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ส.ว.กรุงเทพฯ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุ วุฒิสภา กล่าวถึงข่าวของแหม่ม-คัทลียา ยอมรับท้อง 5 เดือนว่า แหม่มเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่ใช่เด็กๆ มีการศึกษาและการงานที่ดี พึ่งพาตนเองด้วยวิชาชีพที่ซื่อสัตย์ สุจริต ดังนั้นการที่จะมีคู่ครอง จะแต่งงานเมื่อไร เป็นสิทธิส่วนบุคคล สังคมน่าจะดีใจด้วยซ้ำที่มีการออกมาเปิดเผยข่าวสารที่ชัดเจน ไม่มีการปิดบัง รวมถึงการยอมรับอย่างเต็มใจของฝ่ายชาย ถือว่าทำให้ภาพพจน์ออกมาดูดี คิดว่าจะเป็นแบบอย่างให้กับเด็กได้ ไม่ใช่ว่ามีอะไรกันในช่วงวัยรุ่นที่ยังไม่สามารถพึ่งพาตนเองได้
ขณะที่นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ส.ว.ขอนแก่น ในฐานะนายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ก็กล่าวว่า ขอให้กำลังใจและชื่นชมน้องแหม่มที่กล้าออกมายอมรับความจริง คนกล้าแบบนี้ในสังคมไทยมีน้อยมาก เพราะถ้าปกปิดก็ทำได้ ประกาศแต่งงานเดือนหน้า จากนั้นไปอยู่เมืองนอก 4-5 เดือนก็คลอดแล้ว เด็กเดี๋ยวนี้คลอดก่อนกำหนดมีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อน้องแหม่มออกมาพูดความจริง สังคมไม่ควรไปซ้ำเติม เพราะมีความพร้อมทุกอย่าง รวมทั้งการยอมรับจากทางฝ่ายชาย อีกทั้งที่ผ่านมาน้องแหม่มมีความประพฤติดี วางตัวดี แต่งตัวไม่เคยโป๊ ไม่เหมือนดารานักร้องบางคน เราต้องให้โอกาสกัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาน้องแหม่มไม่ออกมาพูดเรื่องนี้ อาจเป็นเพราะต้องเคลียร์กับทางญาติฝ่ายชาย เรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์กับเด็กและเยาวชนของประเทศ ถ้าไม่มีความพร้อมต้องไปรีดลูกในครรภ์ออก
เช่นเดียวกับนายวัฒนา เมืองสุข รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า เรื่องที่แหม่มท้องคงไม่เสียหาย เพราะอายุ 30 กว่าปีแล้ว ส่วนที่ออกมาปฏิเสธนั้น คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานมากกว่า ส่วนกรณีที่แหม่มเป็นตัวแทนยูนิเซฟ จะเป็นเยี่ยงอย่างไม่ดีแก่เยาวชนนั้น เห็นว่าเด็กจะเอาเยี่ยงอย่างก็ได้ ถ้าอายุ 30 ปีไปแล้ว เรื่องนี้ต้องดูว่าท้องแล้วจะมีปัญญาเลี้ยงหรือไม่ กรณีนี้แหม่มคงมีปัญญาเลี้ยงแน่นอน จึงไม่ใช่เรื่องเสียหาย
“วันนี้เราพูดกันถึงความพร้อมของคุณคัทลียา ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่ได้อยู่ในวัยเรียน อยู่ในวัยที่ทำงาน มีความพร้อม ประสบความสำเร็จ แล้วถ้าคุณคัทลียาจะมีลูก มันก็หนักท้องคุณคัทลียา ไม่ได้หนักอย่างอื่นใคร ก็ต้องบอกอย่างนี้ผมให้กำลังใจ ไม่เห็นจะผิดอะไร” นายวัฒนากล่าว
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ
