“เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม” เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำขวัญประจำจังหวัดเพชรบุรีกันมาบ้างแล้ว แต่เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่าที่จังหวัดเพชรบุรี ยังมีสถานที่น่าเดินทางไปทำกิจกรรมสนุก ๆ และท่องเที่ยวกันอีกมากมายเลยจ๊ะ
ท่องเที่ยววิถีชุมชน ตำบลถ้ำรงค์ จ.เพชรบุรี
และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ จะพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับวิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน ตำบลถ้ำรงค์ จังหวัดเพชรบุรีกันค่ะ ท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชนที่จะทำให้เราสนุกไปกับการเรียนรู้จากคนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตของชาวสวนตาล การเรียนรู้การใช้ใบตาลและลูกตาลมาประดิษฐ์เป็นงานจักสานและงานหัตถกรรม เรียนรู้วิธีการทำขนมตาล และเรียนรู้วิธีการทำว่าวไทย
นอกจากนี้ยังรวมถึงการได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อดำ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่ชุนชนที่มีอายุมาอย่างยาวนานถึง 1,000 ปี เตรียมกระเป๋าให้พร้อม… แล้วไปสัมผัสกับเสน่ห์อันเป็นอัตลักษณ์ในแบบวิถีชุมชนกันได้เลยจ๊ะ
ชาวบ้านตำบลถ้ำรงค์ จังหวัดเพชรบุรี ร่วมต้อนรับอย่างสนุกสนาน และเป็นกันสุด ๆ
วันที่ 1 ของการท่องเที่ยววิถีชุมชน
รู้จัก… ชุมชนบ้านถ้ำรงค์
สำหรับตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จ.เพชรบุรี มีเรื่องเล่าขานเป็นตำนวนมาจากในอดีตว่า สมัยก่อนบ้านถ้ำรงค์มีสภาพเป็นป่า และอยู่มาวันหนึ่งมีเจ้าเมือง (ไม่ปรากฎพระนาม) ได้เสด็จมา ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเยี่ยมชมภูมิประเทศ ทั้งนี้ได้มีหญิงชาวบ้านเห็นเจ้าเมืองทรงเหน็ดเหนื่อย จึงได้ถวายน้ำดื่มแต่ในขันน้ำมีใบหญ้าคาลอยอยู่ เจ้าเมืองทรงกริ้วมากและเรียกให้หญิงชาวบ้านคนนั้นเข้าเฝ้า
หญิงชาวบ้านได้อธิบายว่า ที่ต้องใส่หญ้าคาลงไปด้วยนั้น ก็เพราะว่าป้องกันมิให้เจ้าเมืองรีบเสวยน้ำในขณะที่กำลังเหนื่อย เนื่องจากอาจจะทำให้เจ้าเมืองรู้สึกจุกเสียดและประชวรได้ เมื่อเจ้าเมืองได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก จึงได้พระราชทานแหวนให้หญิงชาวบ้านเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ ซึ่งแหวนนั้นเรียกว่า “ธรรมรงค์” ต่อมาชาวบ้านได้เรียกชุมชนแห่งนี้ว่า “บ้านธรรมรงค์” และเรียกเพี้ยนมาเป็น “ถ้ำรงค์” ในปัจจุบัน
ภาพบรรยากาศภายในถ้ำรงค์ ที่ประดิษฐานของหลวงพ่อดำ
เมื่อเราเดินทางไปถึงชุมชนบ้านถ้ำรงค์ สิ่งแรกที่เราสามารถสัมผัสได้เลยก็คือ ความอัธยาศัยดีของทุกคนในชุมชนที่คอยต้อนรับเราเป็นอย่างดี นอกจากนี้ที่นี่ยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยภูเขา ป่าไม้ ป่ายางนา ต้นตาลโตนด มีแม่น้ำเพชรบุรี และลำห้วยสายยาวที่มีน้ำตลอดทั้งปี มีโบราณสถาน วัดวาอาราม หลวงพ่อดำ หลวงพ่อขาวที่ศักดิ์สิทธิ์ มีถ้ำรงค์ และถ้ำขนาดเล็กอื่น ๆ ในพื้นที่ชุมชน
มีงานหัตถกรรมจักสานใบตาล งานประดิษฐ์จากลูกตาลแก่ งานประดิษฐ์ว่าวไทย กลุ่มแม่บ้านแปรรูปผลผลิต มีอาหารคาวหวานที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น เช่น แกงหัวตาล ขนมตาล และโตนดทอด เป็นต้น และสำหรับเพื่อน ๆ กลัวที่จะเดินทางท่องเที่ยวไม่สะดวก ขอบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะที่นี่มีเส้นทางท่องเที่ยวทั้งทางบกและทางน้ำ มีจักรยานให้เราได้ปั่นกัน และมีรถรางที่จะพาเราท่องเที่ยวในชุมชนคอยอำนวยความสะดวกให้เราอีกด้วย
รถรางของชุมชน ที่จะพาเราทัวร์ภายในชุมชนถ้ำรงค์ จนเราลืมเวลาไปเลยค่ะ
สัมผัสวิถีชีวิตของชาวสวนตาล
ศูนย์การเรียนรู้ ภูมิปัญญาตาลโตนด ของคุณลุงถนอม ภู่เงิน หรือ สวนตาลลุงถนอม เมื่อเราเดินทางมาถึงที่นี่ เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับต้นตาลโตนดตั้งแต่วิธีการปลูก การเก็บน้ำตาลโตนด แการนำส่วนของลูกตาลไปทำเป็นอาหารและขนม จากพี่แจ๋ม (ลูกชายของลุงถนอม) และที่นี่ยังมีผลผลิตจากต้นตาลให้เราได้ซื้อไปเป็นของฝากกันด้วย อาทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลสด และลูกตาลสด เป็นต้น
เพื่อน ๆ ที่สนใจอยากจะไปลองเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวสวนตาล พี่แจ๋ม บอกว่า สามารถเดินทางไปได้เลยนะจ๊ะ โดยเปิดให้เข้าชมสวนได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.30 น. – 18.00 น. หรือจะโทรไปสอบถามได้ที่ 032-440-355 และ 087-800-7716
ภาพกิจกรรม ณ สวนตาลลุงถนอม
ลิ้มลองอาหารสุดอร่อย จากเชฟชุมชน
อีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่ควรพลาดเลยก็คือ อาหารท้องถิ่นที่ใช้ส่วนของหัวตาลมาประกอบเป็นเมนูอาหารสุดอร่อยให้เราได้ทานกัน โดยเชฟสาย ชมพูทอง และเมนูแนะนำของที่นี่ก็คือ แกงหัวตาล นอกจากนี้ก็ยังมีเมนู ปลาทอดสมุนไพร แกงกะทิหัวปลี น้ำพริกกะปิ+ปลาทู ฯลฯ
และที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เราได้ลองทำขนมตาลไว้ทานเอง และทำสบู่จากลูกตาลอีกด้วย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากจะพักค้างคืนที่นี่ก็สามารถทำได้ เพราะมีโฮมสเตลให้เราได้พักกันด้วยคืนละ 260 บาท
ทานมื้อกลางวันสุดอร่อย จากฝีมือเชฟสาย (เชฟประจำชุมชน)
สนุกกับ… งานจักสานและงานหัตถกรรม
หลังจากที่เรารับประทานอาหารเที่ยงกันเรียบร้อยแล้ว เรามาลงมือทำกิจกรรมสนุก ๆ กันดีกว่านั่นก็คือ เรียนรู้งานหัตถกรรมจักสานใบตาล และงานประดิษฐ์จากลูกตาลแก่ ขอบอกเลยว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ทำให้เราเห็นถึงความประณีตสวยงามของผลิตภัณฑ์ที่ออกมาแต่ละอย่างที่ต้องใช้ฝีมือเป็นอย่างมากในการทำ
ของเล่นจากใบตาลและลูกตาลแก่ ฝีมือของคุณตาผุด และคุณยายใบ
มาเริ่มกันที่บ้านของคุณตาผุด และคุณยายใบ สองสามึภรรยาที่ทำของเล่นจากใบตาลและลูกตาลแก่กันมาอย่างยาวนาน และถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนที่เคยชมละครเรื่อง ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง จะต้องเคยเห็นน้องสะพรึงกันอย่างแน่นอน ซึ่งคนที่ทำตุ๊กตาน้องสะพรึงก็คือ คุณตาผุด นั่นเอง
เรียนรู้งานจักสาน กับพี่หนุ่ย
เดินถัดมาจากบ้านของคุณตา คุณยาย เราก็มาจักสานใบตาลกันต่อที่บ้านของพี่หนุ่ยกันค่ะ ที่บอกได้คำเดียวเลยว่างานจักสานจากใบตาลของที่นี่ทั้งสวย งดงาม และยังจัดแสดงในต่างประเทศเนื่องในวันพ่อแห่งชาติมาแล้วอีกด้วย
ทำว่าวไทย เอาไว้เล่นกับแก๊งค์เพื่อน
มาถึงอีกหนึ่งกิจกรรมที่หลาย ๆ คนต้องชอบแน่นอนก็คือ การทำว่าวไทย โดยเราจะได้เรียนรู้ถึงวิธีการทำว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า จากพี่โอ ช่างทำว่าวฝีมือเยี่ยม เพื่อน ๆ รู้หรือไม่ว่ากว่าจะได้แบบโครงของว่าวนั้นมาต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือนด้วยกัน เพราะต้องนำไม้โครงไปตากให้แห้งเสียก่อน และกระดาษที่นำมาทำเป็นว่าว ได้แก่ กระดาษฟ่าง และกระดาษแก้ว (ทำเสร็จแล้ว พี่ ๆ ในชุมชนก็จะพาเราไปทดลองเล่นว่าวที่เราทำกันด้วย รับรองเลยว่าวิ่งกันเหนื่อยแน่นอน อิอิ)
เรียนรู้วิธีการทำว่าวไทย กับพี่โอ ช่างฝีมือเยี่ยมในการทำว่าว
ถ่ายภาพสวย ๆ ที่ “นาตาชม คอฟฟี่”
นาตาชม คอฟฟี่ ร้านกาแฟเปิดใหม่ ที่จะทำให้เราได้ดื่มด่ำไปกับบรรยาศท้องทุ่งนา และต้นตาลคู่ สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบการถ่ายภาพไม่ควรพลาดที่นี่เลย (บรรยากาศ อาหารก็อร่อยยยย)
ภาพบรรยากาศ นาตาชม คอฟฟิ่ สวยงามสุดดด
อิ่มอร่อยกับอาหารเย็น ร้านเปลญวน
มาถึงเพชรบุรี ไม่ควรพลาดร้านอาหารย้อนยุคสุดคลาสสิกที่ใคร ๆ ก็รู้จักนั่นก็คือ ร้านเปลญวน ที่มีเมนูอาหารให้เราได้เลือกรับประทานกันอย่างหลากหลาย อาทิ แกงคั่วหัวตาลหมูย่าง ปลากะพงนพเก้า และหลนปู (ราคาไม่แพง เป็นกันเองจ๊ะ) นอกจากนี้ยังมุมสวย ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันอีกด้วย จบวันด้วยการถ่ายรูปสวย ๆ พระอาทิตย์ตกดินที่นี่บอกได้เลย เริ่ดมากค่าาาา
เปลญวน ร้านอาหารที่เราไม่ควรพลาด เมื่อไปถึงจังหวัดเพชรบุรี
วันที่ 2 ของการท่องเที่ยววิถีชุมชน
เริ่มต้นการเดินทางที่ ถ้ำเขาหลวง
ถ้ำเขาหลวง ตั้งอยู่บนเขาหลวง (ห่างจากเขาวังประมาณ 5 กิโลเมตร) จากเชิงเขามีบันไดคอนกรีตเป็นทางเดินลงไปยังภายในถ้ำ โดยภายในเขาหลวงนั้นจะมีหินงอกหินย้อย และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปฉลองพระองค์อันสำคัญยิ่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภาพบรรยากาศภายใน ถ้ำเขาหลวง
และที่นี่ยังมีไฮไลต์เมื่อทุกคนมาถึงจะต้องรอกันเลยก็คือ การชมแสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาจากปล่องแสงของเพดานถ้ำ ที่ตกลงมาสู่พื้นด้านล่างคล้ายกับมีสปอร์ตไลท์ส่องมาเป็นภาพที่เรียกได้ว่า อัศจรรย์และสวยงามมาก ๆ
ไฮไลต์มุมถ่ายภาพ : แสงอาทิตย์ที่ส่องลงมาจากปล่องแสงของเพดานถ้ำเขาหลวง
ทานข้าวเที่ยงที่ ร้านเจ๊กเม้ง “หน้าไม่งอ รอไม่นาน”
“เจ๊กเม้ง” Jekmeng Noodle ตั้งอยู่ที่ ถนนหน้าเขาวัง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ร้านอาหารที่มีทั้งก๋วยเตี๋ยวสุดอร่อยให้เราเลือกทาน แต่สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนไม่อยากทานก๋วยเตี๋ยวที่นี่ก็มีเมนูอาหารให้เราเลือกรับประทานกันอย่างหลาหลาย อาทิ แกงส้มชะอมทอด, ห่อหมก, ข้าวไข่ข้นกุ้ง, กะเพราเนื้อน่องลาย และเนื้อน่องลายลวกจิ้ม เป็นต้น ร้านเจ๊กเม้งเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 20.00 น.
อิ่มอร่อยที่ “เจ๊กเม้ง” Jekmeng Noodle (มีเมนูอาหารที่ทานในวันนั้นมากกว่านี้นะจ๊ะ แต่ถ่ายมาแค่นี้ อยู่ในช่วงกำลังหิว อิอิ)
เที่ยวกันต่อที่ ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี
เมื่อมาถึงชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี เราจะเห็นวิถีการใช้ชีวิตของชาวชุมชนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เอาไว้ และยังมีวัดสำคัญให้เราได้ไปสักการะกันอีกด้วย อาทิ…
รู้จักกับชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี
วัดพลับพลาชัย “พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่”
วัดพลับพลาชัย ตั้งอยู่ที่ ต.คลองกระแชง อ.เมือง จ.เพชรบุรี สร้างขึ้นเมื่อปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ราว พ.ศ.2229 – 2310 ในสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 4 พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โดยบรรดาขุนนางพ่อค้าคหบดีและประชาชน รวมทุนกันสร้างขึ้นมา
วัดพลับพลาชัย
วัดพลับพลาชัย เจริญรุ่งเรืองที่สุดในสมัยที่หลวงพ่อฤทธิ์ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ท่านเป็นผู้นำในการวางรากฐานการศึกษาฟื้นฟูศิลปะวรรณกรรม และเป็นผู้ก่อตั้งหนังใหญ่คณะวัดพลับพลาชัย และในเวลาต่อมาท่านเจ้าอาวาสคนรปัจจุบันของวัดพลับพลาชัยได้จัดทำพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดพลับพลาชัยขึ้น โดยอาคารพิพิธภัณฑ์คือ ภายในวิหารพระคันธารราฐ อีกฟากของถนนบันไดอิฐ (วัดถูกแบ่งออกเป็นสองฟาก จากการตัดถนนบันไดอิฐ)
พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ ภายในวัดพลับพลาชัย
ภายในวิหารมีพระพุทธรูปและรูปจำลองของหลวงพ่อฤทธิ์ หลวงพ่อกร อดีตเจ้าอาวาสของวัด และตัวหนังใหญ่แขวนอยู่บนผนังของวิหารโดยรอบ โดยถูกจัดแสดงจัดไว้ในกรอบ มีไฟส่องสว่างให้เห็นลวดลายของตัวหนัง
วัดเกาะแก้วสุทธาราม
วัดเกาะแก้วสุทธาราม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า วัดเกาะ ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สถาปัตยกรรมสำคัญของวัด ได้แก่ พระอุโบสถ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาว ผนังด้านหน้าพระอุโบสถเป็นภาพจักรวาลตามคติโบราณ ส่วนผนังด้านหลังเป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ ผนังด้านทิศใต้เป็นภาพพุทธประวัติตอนสำคัญที่เกิดขึ้น ณ สถานที่สำคัญ 8 แห่ง เรียกว่า “อัฏฐมหาสถาน” แทรกอยู่ระหว่างภาพเจดีย์ใต้ภาพฉัตร
ภาพบริเวณวัดเกาะแก้วสุทธาราม
ส่วนผนังด้านทิศเหนือ เป็นภาพแสดงสถานที่สำคัญที่พระพุทธเจ้าเสด็จประทับหลังตรัสรู้แล้ว 7 แห่ง เรียกว่า “สัตตมหาสถาน” แทรกอยู่ระหว่างภาพเจดีย์ใต้ภาพฉัตรเช่นเดียวกัน เหนือขึ้นไปเป็นภาพนักสิทธิ์วิทยาธร และคนธรรพ์ ที่มีลักษณะเป็นตัวแทนของชนชาติต่าง ๆ และมีอักษรจารึกระบุ พ.ศ. 2277 บอกเวลาที่เขียนภาพจิตรกรรมนี้ ซึ่งตรงกับสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ.2275 – 2301)
ภาพภายในวัดเกาะแก้วสุทธาราม
** ภาพทริปเมื่อวันที่ 10-11 กันยายน 2562
ทริปท่องเที่ยววิถีชุมชน
เพื่อน ๆ ที่สนใจทริปท่องเที่ยววิถีชุมชน สามารถสอบถามรายละเอียดได้ดังนี้
– วิสาหกิจท่องเที่ยวโดยชุมชน ตำบลถ้ำรงค์ จังหวัดเพชรบุรี Facebook : ท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลถ้ำรงค์ หรือโทรสอบถามได้ที่ นายชัชชัย นาคสุข (เบอร์ 099-246-9099)
– ชุมชนย่านเมืองเก่าริมแม่น้ำเพชรบุรี Facebook : เพลิน เมืองเพชร หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 086-344-4418
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : www.thailandvillageacademy.com หรือที่ : www.hellolocal.travel
รวมภาพ ทริปท่องเที่ยววิถีชุมชน จ.เพชรบุรี