GDH HOMESTAY

ถอดบทเรียนชีวิตจากภาพยนตร์ Homestay หนังเรื่องนี้ให้อะไรกับเรา

Home / เรื่องทั่วไป / ถอดบทเรียนชีวิตจากภาพยนตร์ Homestay หนังเรื่องนี้ให้อะไรกับเรา

หลังจากที่ Homestay ภาพยนตร์จากค่าย GDH ได้เริ่มฉายวันแรกในวันที่ 25 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา หนังเรื่องนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับดีมาตั้งแต่วันที่เรื่มฉาย เพราะทั้งมีตัวนักแสดงที่โดดเด่นมีทั้ง เจมส์ ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ และเฌอปราง อารีย์กุล สมาชิก BNK48 อีกทั้งบทภาพยนตร์ก็ดีมากเช่นกัน ถือว่าเป็นหนังดีแห่งปีเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว

ถอดบทเรียนชีวิตจากภาพยนตร์ Homestay

Homestay เป็นภาพยนตร์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือนวนิยายเรื่อง เมื่อสวรรค์ให้รางวัลผม (Colorful) ของโมริ เอโตะ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับวิณญาณเร่ร่อน ที่ได้รับรางวัลให้กลับเข้าร่างอีกครั้งโดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องสืบให้ได้ว่าเจ้าของร่างนี้ฆ่าตัวตายเพราะอะไร โดยที่มีเวลาหาคำตอบเพียงแค่ 100 วันเท่านั้น และการที่ได้ร่างกายใหม่ก็เหมือนกับการเข้าพัก Homestay ตามชื่อเรื่องเลย เพราะร่างนี้เป็นร่างที่ได้เข้าอยู่ชั่วคราว ถ้าเกิดหาคำตอบไม่ได้ก็จะต้องตายและจากร่างโฮมสเตย์นี้ไปตลอดกาล

Homestay หนังชีวิตสะท้อนสังคม

ใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้ว และยังไม่ได้ดูหนังอาจจะต้องหยุดอ่านลงที่ตรงนี้ เพราะต่อจากนี้ไปมันจะมีบางฉากบางตอนในภาพยนตร์ อาจจะเป็นการไปสปอยใครที่ตั้งใจอยากไปดูหนังเข้า ส่วนถ้าใครไม่มีปัญหากับการสปอย หรือดูหนังมาแล้วก็มาเริ่มกันที่ย่อหน้าถัดไปกันเลย

บทภาพยนตร์เรื่องนี้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องก็จะค่อยๆ สอนเราไปพร้อมกับตัวละคร ที่เริ่มจากความสุขเพราะความไม่รู้ถึงความจริงของโลกใบนี้ แต่พอรู้ความจริงว่าโลกที่ตัวเองอยู่ไม่ได้สวยงามขนาดนั้น ก็เหมือนกับตัวเราทุกคนที่เคยคิดว่าโลกมันโหดร้าย ไม่มีใครรักเรา รวมถึงความคิดในแวบหนึ่งที่โผล่มาในหัวว่า เราเกิดมาทำไม ชีวิตที่มันห่วยๆ แบบนี้ ตายยังซะดีกว่า

ตัวละครที่มีชีวิต ความรู้สึกนึกคิด และลมหายใจ

แต่พอมาพิจารณาดีๆ ที่เราโทษทุกอย่าง แล้วหันหลังให้กับโลก เหมือนกับพระเอกของเรื่องที่เลือกที่จะตาย เพราะไม่มีอะไรรั้งให้อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว เพราะทุกสิ่งรอบตัวล้วนแย่ไปทั้งหมด พอมองย้อนกลับไปที่ตัวละครทุกตัวที่พระเอกโทษว่าคนเหล่านี้แหล่ะที่ทำให้เขาเลือกที่จะฆ่าตัวตาย เราก็พบว่าตัวละครเหล่านี้ก็มีมุมที่ต้องเจ็บปวดเช่นกัน ก็เหมือนกับเราทุกคนที่จะเห็นแต่มุมมองของตัวเองว่าใครที่ทำให้เราเจ็บปวดบ้าง แต่หลายครั้งเราก็ลืมไปเหมือนกันว่าเราไปทำอะไรให้ใครเจ็บปวดบ้าง

Homestay

สุดท้ายก็พบตัวเองคือคำตอบของทุกอย่าง ทุกปัญหาที่เจอในเรื่องไม่ว่าจะเป็น ปัญหาครอบครัวแตกแยก ปัญหาระหว่างพี่น้อง คนรักที่หักหลัง ปัญหาเรื่องเพื่อน ปัญหาพวกนี้อาจจะเป็นสิ่งที่คนหลายคนต้องเผชิญในชีวิตจริง และหลายคนเลือกที่จะหนีปัญหาแบบพระเอกไปแต่แรก แต่เรื่องนี้ก็ทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครที่เหมือนกับชีวิตจริงของแต่ละคนว่าชีวิตแม่งห่วย จะอยู่ในร่างกายแบบนี้ไปทำไม ทว่าบทสรุปของหนังเรื่องนี้ก็สอนให้เรารู้ว่าชีวิตมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะร่างกายที่เราอยู่ก็เป็นแค่โฮมสเตย์ ที่พักชั่วคราว แค่ยอมรับในสิ่งที่มันเกิด และก็ก้าวต่อไป

ทดลองไม่เป็นตัวเองในสักวัน

อีกสิ่งหนึ่งที่เราได้จากการดูหนังเรื่องนี้คือถ้าการเป็นตัวเองมันเหนื่อยเกินไป ลองเป็นคนอื่นดูอาจจะมีความสุขมากกว่าเหมือนกับที่เจ้าของโฮมสเตย์ลืมไปว่าตัวเอาเป็นเจ้าของ เข้าใจว่าตัวเองเป็นแค่แขกมาขอยืมพักที่โฮมสเตย์เฉยๆ มันทำให้เราสามารถทำอะไรก็ได้ เพราะว่านี่ไม่ใช่ร่างกายของฉัน เหมือนกับรายการโทรทัศน์รายการหนึ่งที่ให้นักร้องใส่หน้ากากมาร้องเพลง แน่นอนว่าภายใต้หน้ากากนั้นเราจะทำอะไรก็ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร และสิ่งที่บอกเราจากหนังเรื่องนี้คือ การเป็นตัวเองไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่เราทำให้การเป็นตัวเองมันแย่ เพราะอาจจะมีปัจจัยมากมายที่ทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้

เหมือนกับตอนจบของหนังที่ตัวละครแต่ละตัวก็กลับมาเป็นตัวของตัวเอง เดินไปในเส้นทางของตัวเอง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะต้องผ่านความเจ็บปวดมาก่อน แต่การเป็นตัวเองคือสิ่งที่ดีที่สุด และแค่เลิกบั่นทอนตัวเองด้วยความรู้สึกด้านลบมันก็น่าจะเพียงพอแล้ว

บทสรุปของหนัง

ทั้งหมดนี่อาจจะไม่ใช่แก่นเรื่องทั้งหมดที่หนังสะท้อนออกมา แต่ทั้งหมดที่เราเขียนมาตั้งแต่ต้นเรารู้สึกจริงๆ ว่ามันคือเรื่องจริงที่เกิดกับคนเด็กวัยรุ่นหลายๆ คน ทุกคนเคยเป็นมินที่ต้องเจอปัญหา เป็นมินที่เลือกจะหนี แต่พวกเราเหล่าวัยรุ่นก็จะโตขึ้นในสักวัน แล้วก็จะรู้ว่าโลกไม่ได้โหดร้ายกับเราขนาดนั้น

ภาพ : GDH

บทความแนะนำ

น่ารักเรียนเก่ง เฌอปราง-อารีย์กุล BNK48 หลักสูตรวิทยาศาสตร์ มหิดล อินเตอร์

เจ๋งมาก ผลงานวิจัยของ เฌอปราง BNK48 ได้ตีพิมพ์ในวารสารของอังกฤษ

GDH คอนเฟิร์มแล้ว! เฌอปราง BNK48 กับหนังเรื่องแรกในชีวิต

“จีดีเอช” เปิดตัวภาพยนตร์ใหม่ล่าสุด “HOMESTAY” (โฮมสเตย์)

เจมส์-ธีรดนย์ กับทริกการสอบ สไตล์เด็กวารสารฯ อินเตอร์ ม.ธรรมศาสตร์