น้องๆ ชาวแคมปัส-สตาร ์เคยเป็นเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นแผลสดๆ กันบ้างมั้ยคะ อาทิเช่น รถล้ม ท่อรถลวกขา ฯล แล้วจะได้ยินผู้ใหญ่รอบๆ ตัวเรา อาทิ คุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ มักจะบอกกับเราว่า อย่ากิน “ไข่” เดี๋ยวแผลจะปูดเป็นแผลเป็น ซึ่งจริงๆ แล้วนั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดนะคะ ล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมายืนยันแล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง! แถมยังมีผลสำรวจที่น่าตกใจออกมาด้วย!
จริงๆ แล้วการกิน ไข่ ไม่ได้ทำให้แผลปูดเป็นแผลเป็น
นพ. ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรงสาธารณสุข กล่าวว่า ผลสำรวจปี 2559 พบว่า ประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ยังเข้าใจวิธีการดูแลบาดแผลไม่ถูกต้อง โดยร้อยละ 60 เข้าใจผิดว่ากินไข่แล้วทำให้แผลปูดเป็นแผลเป็น โดยพบในภาคเหนือมากที่สุดร้อยละ 74 รองลงมาภาคกลางร้อยละ 69 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 62 กทม. และปริมณฑลร้อยละ 55 ซึ่งกลุ่มอายุที่มีความเชื่อเรื่องนี้มากที่สุดมีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 68 เลยทีเดียว เกินครึ่งเลยนะคะเนี่ย!!
ทั้งนี้ มีผลการรายงานยืนยันออกมาแล้วค่ะว่า การกินไข่ไม่ได้ทำให้แผลปูดใหญ่โตขึ้นมา ตามที่ได้เชื่อกัน แต่สาเหตุจริงๆ แล้วเป็นธรรมชาติของเนื้อหนัง ของแต่ละบุคคลซึ่งมีความแตกต่างกันนั่นเองค่ะ
แต่กลับกัน การกิน ไข่ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่มีโปรตีนที่มีประโยชน์ในการบำรุงร่างกาย และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย นอกจากไข่แล้ว แหล่งอาหารที่มีโปรตีนอีกเช่น พืชพวกตระกูลถั่ว ไม่ว่าจะเป็น ถั่วงอก ถั่วเหลือง ถั่วเขียว และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญหากน้องๆ เกิดเป็นแผลขึ้นมาการดูแลความสะอาดถือเป็นเรื่องสำคัญ อย่าให้แผลติดเชื้อเป็นอันขาด
ที่นี่ก็คงจะทำความเข้าใจ และลบความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการเรื่องการกิน ไข่ และแผลเป็นกันได้แล้วนะคะ ชวนคุณตาคุณยายคุยเรื่องนี้แล้วค่อยๆ อธิบายให้พวกท่านฟังด้วยก็ได้นะคะน้องๆ ทุกๆ คน จะได้เข้าใจเรื่องราวของไข่ และแผลเป็นได้อย่างถูกต้อง ^_^