เคยคิดไว้มานานแล้วว่าอยากไปเที่ยวประเทศมาเลเซียสักครั้ง แต่โอกาสและวันหยุดก็ไม่ค่อยเป็นใจ จน ม.หาดใหญ่ เชิญไปสานสัมพันธ์กับสื่อมวลชนภาคใต้ และไปดูความเป็นอยู่การเรียนของนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่นั่น … คุณคะ ดีช้านติดใจและอยากไปอีกค่ะ ตั้งใจไว้ว่าต้องไปเองอีกสักครั้งแน่นอน วันนี้เลยมีเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝาก
ปีนัง เสน่ห์เมืองเก่า ดินแดนหลากวัฒนธรรม
สิ่งที่ควรรู้ก่อนไป มาเลเซีย
ความโดดเด่นของมาเลเซีย
มาเลเซียถือเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม เป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่สามารถผสมผสานวัฒนธรรมต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันได้อย่างกลมกลืนและมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร
ศาสนา
ประชากรชาวมาเลเซียทั้งประเทศส่วนใหญ่ นับถือศาสนาอิสลาม
เกาะปีนัง หรือ ปูเลาปีนัง
เกาะปีนัง มีชื่อตามมาภาษามาเลย์ เรียกว่า “ปูเลาปีนัง” มีสถานะเป็น 1 ใน 13 รัฐของมาเลเซีย ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย และมี “จอร์จทาวน์” เป็นเมืองหลวงของรัฐ
ฉ่าก๋วยเตี๋ยว เมนูไมม่ควรพลาด
อาหารเลื่องชื่อของมาเลเซียที่ควรลิ้มลอง คือ “ฉ่าก๋วยเตี๋ยว” ซึ่งเป็นอาหารจีนยอดนิยมของชาวมาเลย์ทุกเชื้อสาย หากอยากลองชิมแบบต้นตำรับก็ต้องหาชิมที่เกาะปีนัง หรือหากไม่สะดวกไปที่เกาะปีนังก็หาชิมได้ในมาเลเซียทั่วไป ทั้งนี้แต่ละร้านก็จะมีสูตรการผัดและวัตถุดิบที่แตกต่างกันเล็กน้อย อันมีผลจากความหลากหลายทางเชื้อชาติของคนที่นี่นั่นเองค่ะ
อาหารมาเลเซีย
เนื่องจากความหลากหลายในเชื้อชาติ ข้อดีคือจะทำให้เราได้ลิ้มลองอาหารแปลกๆ มากมาย แต่จะถูกใจหรือเปล่านั้นก็แล้วแต่คนล่ะนะ ส่วนตัวแล้วเราสามารถทานได้ค่ะ ชอบพวกเครื่องแกงเครื่องเทศของเขามาก จัดจ้านถูกปาก ที่สั่งบ่อยๆ จะเป็นเมนูไก่ค่ะ
ไมโล (เครื่องดื่มโกโก้)
มาเลเซียเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านโกโก้และเครื่องดื่มประเภทมอลต์สกัด ที่มาเลเซียถือเป็นตลาดใหญ่ของโลก นอกจากนั้นที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของโรงงานไมโลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และนั่นก็ทำให้ร้านอาหารไม่ว่าจะเป็นร้านข้างทาง หรือตามร้านฟาสต์ฟู้ดอย่าง KFC, Mc Donalds, Mamak ฯลฯ มีไมโลเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอันดับต้นๆ ที่จะขาดเสียไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการนำไมโลมาดัดแปลงเป็นเมนูต่างๆ ที่น่าลิ้มลองอีกมากมาย แต่เท่าที่ลองชิมแล้ว.. เรากลับพบว่า เราชอบรสชาติของไมโลในไทยมากกว่าอีก
ต้นไม้ในมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งมาเลเซีย (University Sains Malaysia : USM)
ความสมบูรณ์ของพันธุ์พืช และสัตว์ป่า
มาเลเซียคือหนึ่งใน 17 ประเทศทั่วโลกที่มีชื่อว่าเป็น Megadiverse Countries อันเป็นกลุ่มประเทศที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทั้งสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยเฉพาะในบริเวณท่าเรือ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ในประเทศพื้นที่เขตร้อนหรือกึ่งเขตร้อน โดยกล่าวกันว่ามาเลเซียนนั้นเต็มไปด้วยท่าเรือถึง 20% ของโลก อีกทั้งป่าไม้ในมาเลเซียยังมีอายุที่เก่าแก่กว่าร้อยล้านปี ซึ่งถือว่าเป็นอายุที่มากกกว่าป่าอะเมซอนของบราซิลเสียอีก โดยเฉพาะป่าไม้ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทามันเนการาอันเลื่องชื่อและยังมีสถานะเป็นอุทยานแห่งชาติที่แรกของมาเลเซียอีกด้วย
ปัญหาของการท่องเที่ยว ในช่วงเดือนรอมฎอน
มาเลเซียนั้นเต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและหลากหลายวัฒนธรรม ซึ่งมากกว่าครึ่งของประชากรชาวมาเลเซียทั้งประเทศล้วนนับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้นในช่วงเดือนเก้าตามปฏิทินจันทรคติจึงถือเป็นช่วงเดือนรอมฏอนของพี่น้องชาวมุสลิม ที่ต้องทำพิธีถือศีลอดตลอดทั้งเดือน ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศมาเลเซียในช่วงนี้อาจจะต้องประสบปัญหาบ้างเล็กน้อยในเรื่องของอาหารการกิน รวมทั้งการดื่มเพื่อความบันเทิง ซึ่งร้านค้าที่ดำเนินการโดยชาวมุสลิมจะงดให้บริการในช่วงเวลากลางวัน และไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด แต่สำหรับร้านที่ไม่ใช่ชาวมุสลิมแล้ว ทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปกติ
สถานที่ที่อยากแนะนำ
หากอยากชมวิวเมืองปีนังในมุมสูงควรไปที่ ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) และวัดเก็กล๊อกซี ซึ่งการได้ชมทิวทัศน์ในมุมสูงนี้จะทำให้เรามองเห็นภาพรวมของเมืองก่อนค่ะ ส่วนตัวเราชอบถือคติว่า “มองในมุมสูงให้ทั่ว แล้วค่อยทัวร์ตามใจฉัน” ซึ่งคตินี้เรามักใช้ในกรณีเข้าไปในสวนสนุก เพื่อขึ้นดูวิว ว่าเครื่องเล่นอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง จากนั้นก็ปักหมุดตามทิศทางที่ต้องการค่ะ
Kek Lok Si : วัดเก็กล๊อกซี – เจ้าแม่กวนอิม
วัดเก็กล๊อกซีเป็นวัดที่ตั้งเด่นเป็นสง่ากลางเมืองปีนัง โดดเด่นด้วยโคมไฟที่แขวนประดับไว้อยู่ทั่ววัด และจะส่องแสงสวยงามเป็นพิเศษในเวลาค่ำคืน สร้างในแบบของสถาปัตยกรรมจีน มีจุดเด่นคือเจดีย์สูง ซึ่งมีลิฟท์ให้บริการนักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามรอบๆ เกาะบนชั้นบนสุดได้ เป็นวัดยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการชมวิวเมืองปีนัง และที่นี่คนยังนิยมมาไหว้พระขอพรกับองค์เจ้าแม่กวนอิม ที่ได้ชื่อว่าเป็นรูปปั้นสีบรอนซ์ขนาดใหญ่ ที่สวยที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ว่าได้
George Town : จอร์จทาวน์
จอร์จทาวน์เป็นเมืองหลวงของรัฐปีนังแห่งมาเลเซีย ที่ได้รับการแต่งตั้งและยกย่องให้เป็น 1 ในมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก้ร่วมกับเมืองมะละกาในเดือนกรกฎาคม 2551 เนื่องมาจากมีภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่งดงามทรงคุณค่ามากมายหลายแห่ง อย่างเช่น คฤหาสน์เฉิงฟัตเจ๋อ ป้อมปราการคอร์นเวลลิส และวัดเจ้าแม่กวนอิม เป็นต้น นอกจากนั้นภายในเมืองจอร์จทาวน์ยังมีการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนหลายๆ แห่ง โดยเฉพาะอาคารที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล ชิโน-โปรตุกีส สร้างบรรยากาศให้เมืองแห่งนี้มีความขลังในเสน่ห์ของเมืองเก่ามากยิ่งขึ้น
Street Art ถนนสายศิลปะ
Street Art หรือ Ernest Zacharevic Murals in Penang ในเกาะปีนังนี้เป็นอีกแห่งที่ไม่อยากให้พลาด เพราะสาวๆ จะสนุกสนานในการเดินหาภาพศิลปะเหล่านี้ที่แทรกอยู่ตามจุดต่างๆ อาทิ กำแพงข้างถนน ผนังบ้าน ตึกและประตูต่างๆ ทำให้ถนนธรรมดาๆ กลายเป็นหอศิลป์กลางแจ้งที่ใครๆ ก็เช้าชมได้ไม่มีค่าใช้จ่าย
ผลงานศิลปะนี้เป็นของศิลปินชื่อ Ernest Zacharevic ชาวลิทัวเนีย ภาพวาดส่วนใหญ่จะถูกวาดขึ้นในรูปแบบภาพ 3 มิติ (3D) ส่วนใหญ่จะเป็นอิริยาบถต่างๆ ของเด็กๆ อย่างภาพด้านบนนี้มีชิงช้าของจริงแทรกอยู่ นักท่องเที่ยวส่วใหญ่ก็ทั้งปีนทั้งนั่งเพื่อถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
Gurney Plaza : เกอร์นีย์ พลาซ่า
จะเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าอะไรดี เหมือน ตลาดกลางคือ “ไนท์บาซ่า” ไม่ก็เรียกเป็น “ตลาดโต้รุ่ง” บ้านเรานั่นเองค่ะ แต่เน้นขายอาหาร ซึ่งความสนุกของนักท่องเที่ยวในการกินอาหารเย็นก็จะอยู่ตรงนี้คือ ไม่รู้จะกินอะไรดี เพราะไม่รู้ว่าร้านไหนอร่อย ร้านไหนเด็ด อยากกินไปทุกสิ่งอย่าง
เท่าที่แอบมองก็มีอาหารแบบนี้ แต่ไม่ลองค่ะ มองไปผัดไทยก็ขายดีนะคะ
ได้อาหารแล้วก็มานั่งกินแบบนี้
ป้อมปราการคอร์นเวลลิส (Fort Cornwallis)
ป้อมซึ่งตั้งชื่อตาม ชาร์ล คอร์นเวลลิส ผู้สำเร็จราชการของอังกฤษประจำเมืองเบงกอลในช่วงปลายทศวรรษที่ 1700 ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์ในย่านจอร์จทาวน์ ตัวป้อมปราการตั้งอยู่ติดกับเอสพลานาด ถัดจากหอนาฬิกาวิกตอเรียเมโมเรียล กำแพงป้อมสูง 10 ฟุต เป็นรูปดาว การเดินรอบป้อมใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ภายในป้อม จะเห็นโครงสร้างดั้งเดิมบางส่วนที่มีอายุกว่าร้อยปี ได้แก่ โบสถ์ คุกขังนักโทษ คลังเก็บดินปืน ประภาคาร เสาธงเก่า และปืนใหญ่สำริด หนึ่งในปืนใหญ่เหล่านี้มีปืนใหญ่ชื่อ ศรีรัมไบ สร้างโดยชาวดัตช์ในปี 1603 ชาวท้องถิ่นเชื่อว่า ปืนใหญ่ศรีรัมไบให้คุณต่อหญิงผู้ต้องการมีบุตร
ข้อมูลทั่วไป
1.เวลาที่มาเลเซียเร็วกว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมง
2.มาเลเซียใช้เงินสกุลริงกิตมาเลเซีย หรือดอลลาร์มาเลเซีย
3.ทางมาเลเซียไม่อนุญาตให้รถยนต์ที่ติดฟิล์มเข้มมากๆ เข้าเมือง
4.เบอร์โทรศัพท์ในการแจ้งเหตุฉุกเฉินกับตำรวจคือ 999
5.การขับรถยนต์ในมาเลเซียเหมือนกับประเทศไทยคือ พวงมาลัยขวา ขับชิดซ้าย
6.โรงแรมที่เก็นติ้งจะมีห้องเตรียมอุปกรณ์รีดผ้าไว้ให้ใช้ได้ฟรี
7.เมืองมะละกาเป็นเมืองปลอดบุหรี่แห่งแรกในประเทศ
8.มีสวนสนุกเลโก้แลนด์แห่งแรกในเอเชียอยู่ที่รัฐยะโฮย์
9.การใช้บัตรเครดิตจะทำให้คุณสะดวกสบายมากขึ้น
ปลั๊กไฟมาเลเซีย
ปั่นจักรยานปั่นเที่ยวก็ดีค่ะ
อย่าลืมชิมลิ้มลองไมโลจากประเทศผู้ผลิตนะคะ
ภาพจาก www.nyonyacooking.com
การเดินทางไปประเทศมาเลเซีย
ในครั้งนี้เราได้เดินทางด้วยรถตู้จาก ม.หาดใหญ่ ไปด่านสะเดาค่ะ ใช้เวลาจากด่านนี้ไป 1 ชม.กว่าๆ พอถึงด่านก็ไปที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทย ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ ปั้มขาออกแล้วเอากระเป๋าไปแสกน จากนั้นขึ้นรถตู้แล้วไปที่ ตม.ของมาเลเซีย ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ที่นี่ในวันนั้นเปิดอยู่ 4 เคาน์เตอร์ค่ะ ความพิเศษคือที่แสนนิ้วชี้นั้นอยู่สูงมาก บางคนตัวเล็กๆ ก็ต้องเขย่งกันสุดฤทธิ์ จากนั้นก็เดินไปหารถตู้ที่จอดรออีกฝั่งค่ะ เป็นการเข้าประเทศมาเลเซียโดยสมบูรณ์แล้ว
จากจุดนี้ไปน่าจะราวๆ 2-3 ชั่วโมงค่ะ ถึงจะไปถึงที่หมายของเรา นั่นคือเกาะปีนัง และ USM หรือ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งมาเลเซีย (University Sains Malaysia)
การเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ
- ด้วยเครื่องบิน
- ด้วยรถส่วนตัว หรือรถขนส่งสาธารณะ เช่น รถตู้ มักจะเข้าไปที่ ด่านสะเดา
- ทางรถไฟ : สถานีรถไฟหาดใหญ่และปาดังเบซาร์ จุดเชื่อมโยงพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ
ที่พักในปีนัง
หากคิดไม่ออก แนะนำ Tune Hotels จอร์จทาวน์ ปีนัง ค่ะ ที่อยู่ใจกลางเมือง > รีวิว www.mu-ku-ra.com/
แผนที่ภาพรวม มาเลเซีย ปีนัง
เราจะได้ยินสองชื่อนี้บ่อยๆ คือ จอร์จทาว์น (George Town) กับ Butterworth
ขอบคุณผู้สนับสนุนการเดินทาง และประสบการณ์ดีๆ > มหาวิทยาลัยหาดใหญ่