10 วิธีง่ายๆ ช่วยยืดอายุดอกไม้ในแจกัน ให้อยู่ได้นานขึ้น

Home / เรื่องทั่วไป / 10 วิธีง่ายๆ ช่วยยืดอายุดอกไม้ในแจกัน ให้อยู่ได้นานขึ้น

บางคนชอบดอกไม้ที่อยู่บนต้นของมันเอง ดูได้นานกว่า แต่บางคนก็เลือกที่จะเก็บความงามนั้นไว้ในแจกัน และนี่คือทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ดอกไม้สวยๆ อยู่กับเราได้นานขึ้น เมื่อตัดออกจากต้นแล้ว

10 วิธี ช่วยยืดอายุดอกไม้ในแจกัน

ภาชนะใหญ่

จัดวางดอกไม้ในแจกันปากกว้างที่ทำความสะอาดแล้ว

อย่าลืมว่าต้องทำความสะอาดแจกันก่อนจัดช่อดอกไม้ใส่ลงไปทุกครั้งนะคะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่สำคัญมากเลยทีเดียว เพราะเกี่ยวข้องกับความสดของดอกไม้โดยตรง หากแจกันไม่สะอาด ดอกไม้ก็จะเสี่ยงติดเชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อจุลินทรีย์ที่ปะปนอยู่ในแจกันได้ มีผลทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วขึ้น ส่วนสาเหตุที่ทำไมถึงต้องเลือกแจกันปากกว้าง ? นั่นก็เพื่อไม่ให้ก้านดอกไม้เบียดกันแน่นจนเกินไป ทำให้ดอกไม้ คอหัก หรือ ช้ำ ได้ค่ะ

น้ำร้อน!

จัดดอกไม้ลงในน้ำร้อน

อ่านไม่ผิดค่ะ และเราก็ไม่ได้พิมพ์ผิดด้วย น้ำที่ใส่ในแจกัน ต้องมีอุณหภูมิ 43 – 44 องศาเซลเซียสโดยประมาณ อย่าเพิ่งตกใจ อ่านต่อก่อนค่ะ ให้เทน้ำลงในแจกันขณะที่น้ำร้อนมีอุณหภูมิประมาณ 43 – 44 องศาเซลเซียสนะคะ จากนั้นนำไปตั้งไว้ในที่เย็นๆ สัก 1 – 2 ชั่วโมง โมเลกุลของน้ำร้อนจะเคลื่อนไหวเข้าสู่ก้านดอกไม้ได้ไวขึ้น ในขณะที่ดอกไม้กำลังขาดน้ำ เพราะลมเย็นภายในห้อง วิธีนี้เรียกว่า Hardening จะช่วยยืดอายุดอกไม้ให้แข็งแรง คงทนยาวนานขึ้นค่ะ

ใช้น้ำอุณหภูมิห้อง

ถ้าไม่ใช้วิธี Hardening ก็สามารถใช้น้ำอุ่นได้เช่นกัน

ถ้าไม่ปลื้มวิธี Hardening ก็สามารถจัดช่อดอกไม้ในน้ำอุ่นๆ หรือ น้ำที่มีอุณหภูมิห้องก็ได้ การจัดดอกไม้สดลงในน้ำอุ่นก็จะดีกว่าน้ำที่เป็นน้ำเย็นนะคะ แต่สำหรับกระเปาะเลี้ยงดอกไม้แล้ว ต้องใส่น้ำเย็นจะดีที่สุดค่ะ

ริดใบออก

เด็ดใบล่างๆ ทิ้งให้หมด

เพื่อยืดอายุดอกไม้ให้ยาวนานขึ้น ให้เด็ดใบด้านล่างที่ต่ำกว่าระดับน้ำในแจกันทิ้งให้หมดค่ะ หากปล่อยใบไม้แช่อยู่ในน้ำ จะทำให้เน่าเร็วขึ้น และยังกลายเป็นอาหารของแบคทีเรียที่จะเร่งปฏิกิริยาให้เฉาเร็วยิ่งขึ้น

เปลี่ยนน้ำ และ ยาแอสไพริน

เปลี่ยนน้ำในแจกันทุกวัน

การเปลี่ยนน้ำในแจกันทุกวันจะทำให้ดอกไม้สดยาวนานขึ้นค่ะ ทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำ อย่าลืมทำความสะอาดให้เศษคราบต่างๆ ออกไปให้หมดก่อนแล้วจึงค่อยเติมน้ำนะคะ วิธีนี้จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการติดเชื้อได้ค่ะ เมื่อเปลี่ยนน้ำแล้ว คุณสามารถใส่ยาแอสไพรินสัก 2 – 3 เม็ดลงไปในแจกันด้วยก็ได้เช่นกันค่ะ จะช่วยให้น้ำยังคงสะอาดและช่วยฆ่าแบคทีเรียในแจกันได้อีกด้วย

ตัดกิ่งในน้ำ

ตัดปลายก้านในมุม 45 องศาเสมอ

อย่าเผลอตัดปลายก้านดอกไม้ตรงๆ นะคะ ให้ใช้มีดคมๆ ตัดปลายก้านดอกไม้ในมุม 45 องศาเสมอค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้ดอกไม้สามารถดูดซึมน้ำได้ดีขึ้น และยังเป็นการเตรียมการให้พร้อมก่อนจะนำดอกไม้ออกจากช่อบูเก้มาใส่แจกัน

สำหรับดอกไม้ที่บอบบางมากๆ อย่าง ดอกกุหลาบ วิธีการตัดปลายก้านที่ดีที่สุด คือให้ตัดในน้ำ เพราะดอกกุหลาบจะอ่อนไหวง่ายต่อ ฟองอากาศ และ แบคทีเรีย ซึ่งจะขัดขวางการดูดซึมน้ำที่จะเข้าไปหล่อเลี้ยงในก้านและส่งต่อไปยังดอก ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเร็วมากยิ่งขึ้น

Use flower preservatives.

ใช้สารถนอมดอกไม้

คุณสามารถซื้อหา สารอาหารสำหรับเลี้ยงดอกไม้ ได้ตามร้านขายต้นไม้ ร้านทำสวนต่างๆ หรือจะลงมือปรุงสารอาหารเองก็ยังได้ค่ะ สารอาหารที่จะถนอมดอกไม้ นั้นประกอบขึ้นด้วยวัตถุดิบง่ายๆ ที่หาได้ทั่วไป แต่จำเป็นสำหรับการยืดอายุของดอกไม้เป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนผสมเหล่านี้ยังช่วยฆ่าเชื้อโรค ป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่จะกัดกินต้นไม้ได้อีกด้วย

วิธีการผสมก็ง่ายๆ เลยค่ะ เพียงผสมน้ำมะนาวโซดาเข้ากับน้ำยาฟอกขาว ถ้าไม่มีน้ำมะนาวโซดา ก็สามารถ ใช้น้ำอัดลมอะไรก็ได้ ผสมน้ำเปล่า โดยยึดอัตราส่วนดังนี้

โซดา 1 ส่วน ต่อ น้ำ 3 ส่วน จากนั้นหยดน้ำยาฟอกขาวสัก 2 – 3 หยด พอนะคะ (ห้ามเกินกว่านี้ ห้ามแถม อันตรายค่ะ) ทั้งนี้ก็เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหลายให้เกลี้ยง …บอกเลยว่า สูตรสารอาหารที่ผสมเองนี้ได้ผลกว่า สารอาหารดอกไม้ที่ไปซื้อตามร้านขายต้นไม้อีกค่ะ

จัดวางดอกไม้ให้ห่างจากแสงแดด ความร้อน และ ผลไม้

ควรจัดวางดอกไม้ให้ห่างจากแสงแดด ความร้อน เพราะจะทำให้ดอกไม้เฉา อีกทั้งคุณควรหลีกเลี่ยงการวางดอกไม้ไว้ใกล้ๆ ผลไม้สด เพราะ ผลไม้จะปล่อยก๊าซเอทิลีนออกมาทีละนิด ซึ่งมีผลทำให้ดอกไม้เฉาเร็วขึ้นได้ค่ะ

เอาดอกไม้เหี่ยวๆ ออก

เด็ดดอกที่เหี่ยวแล้วทิ้งให้เร็วที่สุด

กำจัดดอกที่ตายแล้ว หรือ โรยแล้วออกจากแจกันให้ไวที่สุดทันทีที่เห็น เพราะนอกจากผลไม้แล้ว ก๊าซเอทิลีน จะถูกปล่อยจาก ต้นไม้ ดอกไม้ที่เหี่ยวโรยด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีผลต่อดอกอื่นๆ ที่ยังสวยสดงดงามอยู่ให้โรยราตามๆ กันไป ว๊าย ตายแล้ว!

จัดดอกไม้ให้เหมาะสม

ไม่ใช่ดอกไม้ทุกชนิดหรอกค่ะ ที่จะอยู่ในแจกันใบเดียวกัน ในน้ำเดียวกันได้ ดอกแดฟโฟดิล และ ดอกไฮยาซินธ์ จะมีสารเคมีที่ทำลายต้นไม้ชนิดอื่นๆ ได้ ดังนั้น จึงควรจัดแยกแจกันกับดอกไม้ชนิดอื่นๆ ไป

อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณได้ทำมาทุกวิถีทางที่เราเอ่ยมาข้างต้นแล้ว สำหรับดอกไม้ ต้นไม้ที่เริ่มเหี่ยวโรย แล้ว ให้แช่ลงในน้ำอุ่นสัก 2 – 3นาที ดูก่อนนะคะ นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะช่วยให้มันฟื้นคืนชีพได้ค่ะ

ที่มา https://brightside.me และ Decor.mthai.com