ครีมกันแดด ผิวแพ้ง่าย ล้างหน้า

เช็กพฤติกรรมที่อาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว ! ทำไมยิ่งดูแล แต่ยังเจอปัญหาผิวแพ้ง่าย?

Home / ข่าวประชาสัมพันธ์ / เช็กพฤติกรรมที่อาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว ! ทำไมยิ่งดูแล แต่ยังเจอปัญหาผิวแพ้ง่าย?

เคยสังเกตไหม แม้จะดูแลผิวดีแค่ไหน กลับเกิดอาการแพ้ แดง ลอก หรือมีสิวขึ้นบ่อยๆ? นั่นอาจเป็นเพราะพฤติกรรมบางอย่างที่เราทำอยู่โดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย เพราะหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ปัญหาผิวแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น วันนี้เราได้รวมปัจจัยที่อาจส่งผลเสียต่อผิวโดยที่เราไม่รู้ตัวมาฝาก มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

เช็กพฤติกรรมที่อาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว

ล้างหน้าบ่อยเกินไป จนทำลายสมดุลผิว

หลายคนเข้าใจว่าการล้างหน้าบ่อยๆ จะช่วยลดความมัน ลดสิ่งสกปรก และทำให้ผิวสะอาดขึ้น แต่สำหรับคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย การล้างหน้าบ่อยครั้งเกินไป โดยเฉพาะการใช้โฟมล้างหน้าที่มีสารทำความสะอาดรุนแรงหรือส่วนผสมที่สร้างความระเคืองต่อผิว อาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ และทำลายเกราะป้องกันผิว ส่งผลให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสารซัลเฟต และล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็ถือว่าเพียงพอ

ขัดผิวแรงเกินไป หรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว สกินแคร์หลายตัวเกินจำเป็น

ผิวแพ้ง่าย ไม่ได้ต้องการสกินแคร์หลายขั้นตอนเสมอไป การใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิดพร้อมกันหรือทดลองผลิตภัณฑ์ใหม่บ่อยๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองมากกว่าเดิม อีกทั้งการสครับหรือใช้สารผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA, BHA บ่อยเกินไป อาจทำให้ผิวแพ้ง่าย ระคายเคือง ผิวบางลง และสูญเสียความแข็งแรงของชั้นผิว ทำให้ผิวไวต่อแสงแดดและเกิดอาการแพ้ได้ง่ายขึ้นด้วย ดังนั้นควรเลือกใช้สกินแคร์ที่จำเป็นเท่านั้น เลือกใช้สารผลัดเซลล์ผิวที่อ่อนโยน และผลัดเซลล์ผิวไม่เกิน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และอย่าลืมทดสอบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ท้องแขนก่อนเริ่มใช้บนใบหน้าทุกครั้งด้วย

ผิวแพ้ง่าย

ใช้ครีมกันแดดที่ไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย หรือไม่ทาครีมกันแดดเลย

แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้สภาพผิวโดยเฉพาะผิวแพ้ง่ายอ่อนแอลง คนที่ไม่ทาครีมกันแดดเลย ผิวจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว แต่ในครีมกันแดดบางตัว ก็มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรงก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ แดง หรือแสบผิวได้ ดังนั้นผู้ที่สภาพผิวไวต่อสารเคมีหรือมีผิวแพ้ง่าย สามารถเลือกใช้ครีมกันแดดสูตรเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย สูตร Physical Sunscreen ที่มี Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ซึ่งอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย และอย่าลืมทาทุกวันแม้ไม่ได้ออกกลางแจ้งก็ตาม

นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ผิวฟื้นฟูไม่ทัน

การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว ทำให้ผิวอ่อนแอและไวต่ออาการแพ้มากขึ้น เพราะในช่วงที่เรานอนหลับผิวจะมีการฟื้นฟูตัวเอง หากนอนดึกเป็นประจำ ระบบฟื้นฟูผิวจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ผิวแพ้ง่าย มีแนวโน้มอักเสบและระคายเคืองได้ง่ายขึ้น ควรนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบและมืดสนิท เหมาะกับการพักผ่อน เพื่อให้ผิวได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่นั่นเอง

สัมผัสใบหน้าบ่อยๆ หรือใช้ของที่ไม่สะอาดแตะต้องผิว

บางครั้งอาการผิวแพ้ง่ายหรือสิวที่เกิดขึ้น อาจมาจากพฤติกรรมที่เราเองก็ไม่ทันสังเกต เช่น การเผลอจับหน้าบ่อยๆ การใช้ปลอกหมอน ผ้าห่ม โทรศัพท์มือถือ หรือแปรงแต่งหน้าที่ไม่ได้ทำความสะอาดเป็นเวลานาน ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่อาจกระตุ้นให้เกิดปัญหาผิวได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น ซักปลอกหมอนเป็นประจำ และทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าอย่างสม่ำเสมอ ปัญหาผิวและสิวที่เกิดขึ้นอาจลดลงได้

ดื่มน้ำน้อย และขาดสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิว

การดื่มน้ำน้อยหรือร่างกายไม่ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ มีส่วนทำให้ผิวแห้งและอ่อนแอลง ผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ง่าย ก็จะยิ่งไวต่อมลภาวะและสิ่งกระตุ้นต่างๆ นอกจากนี้ การทานอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูงอาจทำให้ผิวอักเสบและระคายเคืองได้ง่ายขึ้น จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว และรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และปลา ก็จะช่วยเสริมสารอาหารให้ผิว ให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

หากเป็นคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย และรู้สึกว่าทำไมผิวดูแลเท่าไหร่ก็ยังไม่ดีขึ้น ลองสำรวจพฤติกรรมของตัวเองดูว่ามีข้อไหนที่อาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัวหรือไม่ เพราะการดูแลผิวที่เหมาะสมไม่ใช่แค่เลือกใช้สกินแคร์ราคาสูง แต่ควรเป็นสูตรที่เหมาะกับสภาพปัญหาผิว และรู้จักวิธีปกป้องและดูแลผิวด้วยวิธีที่เหมาะสมด้วย หากต้องการให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลองเริ่มต้นจากการปรับพฤติกรรมที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง และให้เวลาผิวเพื่อฟื้นฟู รับรองว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแน่นอน!