ข่าวเกี่ยวกับค่าไฟบ้าน หรือค่า FT ที่เพิ่มขึ้น ทำให้คนที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านเป็นกังวลไม่น้อย ด้วยเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยจะดี รายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายกลับสูงขึ้น! ทำให้หลายคนเก็บเงินได้น้อยลง แถมเวลาช็อปปิงก็ทำได้ไม่สุด และยังต้องมาคอยแบ่งเงินไว้รอจ่ายค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้นอีก สำหรับใครที่อยากจะเซฟค่าใช้จ่ายมากขึ้น วันนี้เราได้รวบรวมวิธีลดค่าไฟบ้านอย่างไรให้เหมาะสมและเห็นผลจริง มาฝากทุกคนแล้ว จะอยู่บ้านหลังใหญ่ อยู่หอพัก หรืออยู่คอนโดก็ทำตามได้เหมือนกัน หากไม่อยากให้ค่าไฟบ้านบานปลาย พุ่งกระฉูด ตามมาเช็กและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟบ้านไปพร้อมๆ กันเลย
รวมวิธีลดค่าไฟบ้าน
1) เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5
วิธีเบสิกที่มั่นใจว่าทุกๆ คนรู้จักและได้ยินมานานแล้ว กับการเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มี>สัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5> ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ดี สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้งานบ่อยและมีการใช้งานอยู่ตลอด เพราะสัญลักษณ์เบอร์ 5 นี้ เป็นระดับที่วัดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นระดับที่แสดงว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละเครื่องมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงสุดและประหยัดไฟที่สุด
แต่หลายคนอาจพิจารณาจากดีไซน์และราคาของเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก จนทำให้มองข้ามเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์เบอร์ 5 นี้ไป จึงอาจทำให้ค่าไฟบ้านในแต่ละเดือนนั้นสูงขึ้น แม้จะไม่ได้ใช้งานบ่อยก็ตาม นอกจากนี้การเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีสัญลักษณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 ยังทำให้เราวางแผนค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะในฉลากจะมีการระบุค่าไฟโดยประมาณต่อปีของเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้นั่นเอง
2) เปิดแอร์พร้อมกับพัดลม
อีกหนึ่งทริกที่หลายคนไม่ค่อยรู้ และอาจเข้าใจผิดว่าวิธีนี้ทำให้ค่าไฟบ้านแพงขึ้นกว่าเดิม แต่ขอบอกว่าทริกนี้ช่วยเซฟค่าไฟบ้านได้จริงๆ มากกว่าการเปิดแอร์ไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส แบบที่เราคุ้นเคยอีก เพราะพัดลมนั้นใช้กำลังไฟเพียงแค่ 50 วัตต์เท่านั้น เทียบกับแอร์ที่ใช้กำลังไฟมากถึง 750-1,200 วัตต์ เมื่อเราเปิดพัดลมเพื่อเพิ่มการเคลื่อนที่ของอากาศ ควบคู่ไปกับการเปิดแอร์ที่ไม่ได้ตั้งค่าอุณหภูมิไว้สูงมากนักอย่าง 26 องศาเซลเซียสขึ้นไป ก็จะได้อากาศที่เย็นสบาย แต่กำลังไฟจะถูกใช้ลดลง ทั้งนี้จะประหยัดค่าไฟบ้านได้มากหรือน้อย ก็ต้องพิจารณาระบบควบคุมและแอร์ที่แต่ละบ้านที่ใช้ด้วยนะ
3) ตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์
อย่างที่เราบอกไปว่าแอร์นั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟฟ้ามากถึง 750-1,200 วัตต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลักที่ทำให้ค่าไฟบ้านเราสูงขึ้นมากที่สุด แต่ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนอบอ้าวสุดๆ จะไม่เปิดแอร์ใช้เลยก็คงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นหากเลี่ยงการใช้แอร์ไม่ได้ เลยขอแนะนำให้ปรับเปลี่ยนวิธีการใช้สักเล็กน้อย อย่างการตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์อัตโนมัติ ควบคุมจำนวนชั่วโมงที่เราใช้แอร์ในแต่ละวัน ไม่ให้แอร์ทำงานหนักจนเกินไป สามารถชช่วยเซฟค่าไฟบ้านในระยะยาวได้ เช่น เปิดตอนกลางคืนช่วงที่เรากำลังจะนอนพักผ่อน และตั้งปิดอัตโนมัติในตอนเช้า เป็นต้น
4) ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
การทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากจะเพิ่มความสะอาด กำจัดเชื้อโรค สิ่งสกปรกออกไปจากบ้านของเรา พร้อมยืดอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้ว ยังช่วยเซฟค่าไฟบ้านได้ด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ระบายความร้อน เพิ่มความเย็น เช่น แอร์ พัดลม แนะนำให้ทำการล้างที่กรอง และส่วนประกอบของเครื่องต่างๆ เพื่อขจัดคราบฝุ่น สิ่งสกปรกที่เข้าไปติดอยู่ข้างใน ซึ่งจะช่วยให้แอร์และพัดลมสามารถทำความเย็นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และใช้กำลังไฟฟ้าอย่างปกติ ไม่หนักจนเกินไปนั่นเอง
5) ใช้หลอดไฟ LED ดีกว่า
หลายๆ บ้านที่มีค่าไฟบ้านสูง ลองสำรวจว่าเราใช้หลอดไฟแบบไหนอยู่บ้าง หากใช้หลอดแบบไส้ต์ หรือหลอดตะเกียบอยู่ แนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแบบ LED หรือหลอดไดโอดเปล่งแสง (Light Emitting Diode) ดู เพราะเป็นหลอดไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ความสว่างได้ดี โดยการปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านสารกึ่งตัวนำจนเกิดแสง แต่เกิดความร้อนน้อยมากๆ จึงประหยัดพลังงานได้ดี แถมอายุการใช้งานก็นานด้วย
6) จัดวางตู้เย็นให้ถูกที่ พร้อมจัดของภายในให้เป็นระเบียบ
ตู้เย็นเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าสำคัญที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ และมีการใช้กำลังไฟฟ้าที่สูงมาก รองลงมาจากเครื่องปรับอากาศ และหากบริเวณรอบๆ มีอากาศที่ร้อน ของในตู้เย็นเยอะกระจัดกระจาย ก็ยิ่งทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าใช้กำลังไฟมากขึ้นไปอีก เพื่อรักษาระดับความเย็นในตัวเครื่องเอาไว้ ดังนั้นหากอยากลดค่าไฟบ้านให้น้อยลง จึงควรหมั่นเช็กให้แน่ใจว่าเราวางตู้เย็นไว้ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อยู่ใกล้แหล่งความร้อนใดๆ ยางขอบตู้เย็นต้องไม่รั่วซึม หมั่นละลายน้ำแข็งอย่างสม่ำเสมอ ตั้งอุณหภูมิในระดับที่เหมาะสมกับปริมาณของในตู้เย็น พร้อมจัดระเบียบของในตู้เย็นให้เป็นระเบียบด้วย กำลังไฟที่ตู้เย็นใช้จะได้กระจายอย่างเหมาะสม
7) อย่าลืมเช็กมิเตอร์ค่าไฟเป็นประจำ
การเช็กมิเตอร์ค่าไฟเป็นประจำ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเซฟค่าไฟบ้านได้เช่นกัน เพราะเป็นวิธีที่ทำให้เราได้ทราบปริมาณการใช้หน่วยไฟในแต่ละเดือน พร้อมเปรียบเทียบกับค่าไฟบ้านในแต่ละเดือน เพื่อเช็กสาเหตุที่ทำให้หน่วยไฟในแต่ละเดือนเพิ่มมากขึ้น หากค่าไฟสูงขึ้นผิดปกติ เราอาจสำรวจพฤติกรรมการใช้ไฟในเดือนนั้นๆ หรือตรวจสอบเครื่องใช้ไฟฟ้าว่ามีการชำรุด ไฟรั่วไหลหรือไม่ หรือปัญหาอยู่ที่มิเตอร์ไฟฟ้ากันแน่ ซึ่งนอกจากจะเซฟค่าไฟบ้านแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานด้วย
ในยุคที่เศรษฐกิจไม่เป็นใจ การประหยัดค่าใช้จ่ายเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ก็เป็นการรัดเข็มขัดที่ดีให้เราได้เซฟเงินก้อนไว้ใช้ในยามที่ฉุกเฉินหรือจำเป็นจริงๆ อย่างการประหยัดค่าไฟบ้าน รายจ่ายที่เราต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือน ใครที่กังวลเรื่องค่าไฟบ้าน ไม่อยากให้รายจ่ายบานปลาย ก็สามารถนำวิธีการและทริกเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามาฝากวันนี้ไปปรับใช้ได้เลย
และสำหรับบ้านไหนที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเยอะ มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญและมีราคาสูง กำลังมองหาแหล่งสำรองพลังงานไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับกะทันหัน Siam Generator ผลิตและจำหน่ายเครื่องปั่นไฟใช้ในบ้าน ที่มีมาตรฐาน ดำเนินการควบคุมและดูแลจากวิศวกรมืออาชีพ มาพร้อมทีมเซอร์วิสในการส่งมอบติดตั้งดูแลเครื่องกำเนิดไฟฟ้าทั่วประเทศไทยทั้งก่อนและหลังการขาย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Siam Generator เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการแบบครบครัน