การเทรด TFEX ฟิวเจอร์ เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากเป็นการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งผู้ลงทุนจะต้องมีการวางเงินประกัน (Margin) ไว้ก่อน เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระค่าสินค้า หากราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรด TFEX ฟิวเจอร์ และบทความนี้จะมาแนะนำ เคล็ดลับ การบริหารความเสี่ยง ฉบับเข้าใจง่าย นักลงทุนมือใหม่ก็ทำตามได้
เคล็ดลับ การบริหารความเสี่ยง ในการเทรด TFEX ฟิวเจอร์
กำหนด Stop Loss
Stop Loss คือ จุดที่นักเทรดกำหนดไว้ เพื่อปิดสถานะการซื้อขายหากราคาเคลื่อนไหวสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ การกำหนด Stop Loss จะช่วยให้นักเทรดจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุนได้
สมมติว่านักเทรด TFEX ฟิวเจอร์ซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50 Index Futures ที่ราคา 1,500 จุด และกำหนด Stop Loss ที่ 1,450 จุด หากราคา SET50 Index Futures ลดลงมาถึง 1,450 จุด คำสั่งซื้อขายจะถูกปิดอัตโนมัติ และนักเทรดจะขาดทุนเพียง 50 จุดเท่านั้น
ใช้คำสั่ง Limit Order
Limit Order คือ คำสั่งซื้อขายที่นักเทรดกำหนดราคาซื้อขายไว้ล่วงหน้า เมื่อราคาถึงราคาที่กำหนดก็จะทำการซื้อขายทันที การใช้คำสั่ง Limit Order จะช่วยให้นักเทรดสามารถควบคุมความเสี่ยงในการขาดทุนได้มากขึ้น
สมมติว่านักเทรด TFEX ฟิวเจอร์ต้องการซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50 Index Futures ที่ราคา 1,500 จุด แต่ไม่อยากซื้อที่ราคาสูงกว่านั้น นักเทรดสามารถใช้คำสั่ง Limit Order ในการซื้อขาย โดยกำหนดราคาซื้อไว้ที่ 1,500 จุด หากราคา SET50 Index Futures ลดลงมาถึง 1,500 จุด คำสั่งซื้อขายจะถูกดำเนินการทันที
ใช้คำสั่ง Trailing Stop
Trailing Stop คือ คำสั่ง Stop Loss ที่สามารถปรับตามการเคลื่อนไหวของราคาได้ ช่วยให้นักเทรดสามารถปกป้องกำไรได้เมื่อราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้
สมมติว่านักเทรดซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50 Index Futures ที่ราคา 1,500 จุด และกำหนด Trailing Stop ที่ 10 จุด หากราคา SET50 Index Futures เพิ่มขึ้นมาจนถึง 1,510 จุด Trailing Stop จะถูกปรับมาที่ 1,500 จุด หากราคา SET50 Index Futures ลดลงมาถึง 1,500 จุด คำสั่งซื้อขายจะถูกปิดอัตโนมัติ และนักเทรดจะขาดทุนเพียง 10 จุดเท่านั้น
ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค
เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคจะช่วยให้นักเทรด TFEX ฟิวเจอร์สามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาได้แม่นยำยิ่งขึ้น การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรอบคอบและลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้
สมมติว่านักเทรดต้องการซื้อสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET50 Index Futures แต่ยังไม่แน่ใจว่าราคาจะปรับตัวขึ้นหรือไม่ นักเทรดสามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น Moving Average, MACD, RSI เป็นต้น เพื่อคาดการณ์ทิศทางของราคา หากเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคบ่งชี้ว่าราคามีโอกาสปรับตัวขึ้น นักเทรดจึงค่อยตัดสินใจซื้อ
