สรุปข้อดี ฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 7, iPhone 7 Plus

Home / เรื่องทั่วไป / สรุปข้อดี ฟีเจอร์ใหม่ของ iPhone 7, iPhone 7 Plus

สาวกแอปเปิ้ลฟินไปตามๆ กัน ล่าสุด! เมื่อคืนได้เปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อย่างเป็นทางการ จะมีฟีเจอร์อะไรเด่นๆ บ้าง วันนี้เราขอสรุปให้ชาวแคมปัสฯ ได้อัพเดทกันค่ะ จะได้ไม่ตกเทรนด์น้าาา >//<

เปิดตัวแล้ว iPhone 7, iPhone 7 Plus มีฟีเจอร์อะไรน่าสนใจ?

iPhone7 (2)

1. ออกสีใหม่ Jet Black และ Black (สีดำ)

iPhone 7 ออกสีใหม่ล่าสุดคือ สีดำ แบ่งออกเป็นสีดำ 2 แบบ ดังนี้คือ สีแบบ Jet Black จุดเด่นคือ ตัวเครื่องเป็นพื้นผิวแบบลูมิเนียม มีความมันเงา ดูแล้วให้ความรู้สึกหรูหรา และสี Black ตัวเครื่องมีพื้นเป็นแบบอลูมิเนียมเช่นกัน แต่จุดเด่นคือ จะเป็นสีดำสนิท ไม่มันวาว ( เหมือนกับ iPhone 6s) อีกทั้งยังมีอีก 3 สี คือ Silver, Gold และ Rose Gold (น่าจะถูกใจสาวๆ นะคะ สีสุดท้ายนี้)

2. มีกล้องคู่ มาพร้อม LED Flash 4 ดวง และถ่ายวิดีโอ 4K ได้

iPhone7 (7)

ร้องว้าวเลย สำหรับใครที่เน้นการถ่ายรูป เรียกได้ว่าจัดกล้องขั้นเทพมาให้เลยทั้งถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอ สรุปรายละเอียดดังนี้ค่ะ
กล้อง iPhone 7

  • กล้องหลังมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมเลนส์ 6 ชิ้น รูรับแสง f/1.8 มีระบบกันสั่น
  • กล้องหน้าความละเอียด 7 ล้านเมกะพิกเซล
  • ซูมแบบ Digital ได้ 5 เท่า
  • มีระบบกันสั้น
  • ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K

กล้อง iPhone 7 Plus

  • กล้องหลังคู่ มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มาพร้อมเลนส์ 6 ชิ้น
  • กล้องหลังตัวนึงจะเป็นเลนส์แบบ Tele (รูรับแสง f/2.8) และกล้องอีกตัวจะเป็นเลนส์ Wide (รูรับแสง f1/8)
  • สามารถซูมได้ทั้งหมด 10 เท่า Optical Zoom ได้ 2 เท่า และ Digital Zoom ได้ 5 เท่า
  • ถ่ายไฟล์ raw ได้คุณภาพใกล้เคียงกล้อง DSLR เลย
  •  ถ่ายภาพแบบ Bokeh ได้ด้วย (ซอฟต์แวร์ที่รองรับจะปลายปี)
  • มีระบบกันสั่น
  • ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ 4K

iPhone7 (5)

ฟีเจอร์ต่างๆ ของ iPhone 7

3.แบตเตอรี่มีความอึดมากขึ้น

สำหรับใครที่บ่นๆ กันว่า อยากให้แบตอยู่ได้ทน สำหรับรุ่นล่าสุดนี้ ทางแอปเปิ้ลก็ได้ตอบสนองความต้องการแล้วนะคะ ด้วยการเพิ่มความอึดให้แบตเตอรี่ CPU มาพร้อมชิพ A10 Fusion 4 core แบบใหม่ประกอบคอร์ด้วยประสิทธิภาพสูง 2 คอร์ และคอร์ประหยัดพลังงานสูงอีก 2 คอร์ เพิ่มความอึดให้แบตเตอรี่มากกว่าเดิม

4. จอภาพ Retina HD สีสวย สมจริงขึ้นมาก

ทั้ง 2 รุ่น รองรับ 3D Touch สีจะมีเฉดเยอะมากขึ้น และแสดงผลความสว่างที่หน้าจอมากขึ้น 25% โดย iPhone 7 มีขนาดจอ 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334×750 และ iPhone 7 Plus มีขนาดจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080

iPhone7 (3)

5. หูฟังไร้สาย AirPods + มีลำโพงแบบสเตอริโอ

ตัวเครื่อง ไม่มีช่องสำหรับใส่หูฟังแล้วนะจ๊ะ เพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวน และฟังเพลงได้อย่างชัดเจน โดยจะให้พูดคุย ฟังเพลง โดยใช้หูฟังแบบไร้สาย ที่มาพร้อมชิพ W1  ข้อดีนั้นมีมากมายเลย มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ ข้อดีคือสามารถพูดคุย ฟังเพลงได้อย่างชัดเจนแบบไม่มีเสียงข้างนอกรบกวน เรียกใช้ Siri ได้ง่ายๆ แค่เคาะที่หูฟังข้างไหนก็ได้เพียง 2 ครั้ง AirPods สามารถฟังเพลงได้ถึง 3 ชั่วโมง เพียงการชาร์จแค่ 15 นาที  ฯล

iPhone7 (1)

นอกจากนี้ยังเพิ่มลำโพงเครื่องเป็น 2 ตัว ทำให้มีเสียงแบบสเตอริโอ (เสียงดังมากกว่า iPhone 6s ถึง 2 เท่า)

iPhone7 (4)

6.ปุ่มโฮมใหม่แบบ ทัชสกรีน แยกแยะน้ำหนักการกดได้ 

เพิ่ม Focre Touch สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกด หนัก-เบา มี Taptic Engine สั่นตอบสนองเวลาใช้แรงกดลงไปที่ปุ่มโฮม

iPhone7 (6)

7. กันน้ำลึก 1 เมตร 

สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP67 ทดลองจุ่มน้ำได้ที่ความลึกตั้งแต่ 15 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร

iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะมีความจุที่ 32GB, 128GB และ 256GB  พร้อมสีให้เลือกด้วยกัน 5 สี คือ เทา, ทอง, ชมพู, ดำด้าน และดำเงาเจ็ทแบล็คใหม่ โดยสีดำเงาจะมีในความจุตั้งแต่ 128 GB ขึ้นไป ส่วนราคาสำหรับ iPhone 7 จะเริ่มต้นที่ 22,500 บาท และ iPhone 7 Plus เริ่มต้นที่ 26,700 บาท และจะเริ่มให้สั่งจองได้ในวันที่ 9 กันยายนและพร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 16 กันยายน 2016

ขอบคุณข้อมูลจาก:: www.apple.com/iphone-7,http://www.macthai.com/