5 สัญญาณเตือนขณะขับรถ เจอแบบนี้ต้องเข้าศูนย์

Home / ข่าวประชาสัมพันธ์ / 5 สัญญาณเตือนขณะขับรถ เจอแบบนี้ต้องเข้าศูนย์

คนขับรถหลายๆ คน ทั้งมือใหม่หัดขับ หรือมือเก่าขับรถมานานก็ตาม มักจะขับรถโดยไม่ค่อยดู หรือสังเกตสัญญาณไฟที่หน้าปัดรถกันสักเท่าไหร่ อย่างมากที่สุดก็แค่ดูไฟเตือนระดับน้ำมัน แต่รู้หรือไม่ว่าสัญลักษณ์สัญญาณเตือนต่างๆ ที่เห็นบนหน้าปัดรถเรานั้น มีความสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากช่วยเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหากับรถยนต์ได้อีกด้วย หากไม่รีบทำความเข้าใจตั้งแต่แรก เกิดไฟสัญญาณเตือนขึ้นมาจริงๆ อาจทำอะไรไม่ถูกเอาเลยก็ได้ หรือหากไม่รู้ยังฝืนขับต่อไป อาจจะต้องพารถเข้าอู่ซ่อมหนักๆ ก็มี รู้ขนาดนี้แล้วเรามาดูกันเลยว่าหากพบ 5 สัญญาณเตือนขณะขับรถ เจอแบบนี้ต้องเข้าศูนย์ทันที

สัญญาณเตือนระบบความร้อน

สำหรับรถรุ่นเก่าๆ ที่ใช้งานมานาน หรือรถมือสอง ต้องบอกเลยว่าสัญญาณเตือนอันนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญมากเลยทีเดียว เพราะหากเห็นสัญลักษณ์รูปเทอร์โมมิเตอร์สีแดงบนหน้าปัด นั่นแสดงว่าเครื่องยนต์เกิดความร้อนผิดปกติ ซึ่งเกิดจากปัญหาของระบบหม้อน้ำ ซึ่งเกิดได้จากสาเหตุหลายด้านด้วยกัน เช่น หม้อน้ำรั่ว พัดลมไม่หมุน หรือปั๊มไม่ทำงาน ทางที่ดีให้รีบหาที่จอดรถทันที อย่าฝืนขับต่อ จอดแล้วดับเครื่องยนต์ เปิดฝากระโปรงรถระบายความร้อน และที่สำคัญห้ามเปิดฝาหม้อน้ำขณะเครื่องยนต์ร้อนโดยเด็ดขาด เมื่อรอจนเครื่องเย็นลงแล้ว ลองเช็กดูคร่าวๆ เติมน้ำ แล้วนำรถเข้าอู่

สัญญาณเตือนระบบน้ำมันเครื่อง

อีกหนึ่งสัญญาณเตือนบอกเหตุที่สำคัญมากเช่นกัน หากเห็นสัญลักษณ์รูปกาน้ำมันสีแดง แสดงขึ้นมาบนหน้าปัดเมื่อไหร่ ต้องรีบหาที่จอดรถทันทีเช่นกัน ไม่ควรฝืนขับต่อไปอย่างเด็ดขาด เพราะระดับน้ำมันในเครื่องยนต์กำลังเกิดปัญหาขึ้นมาแล้วนั่นเอง สามารถเช็กระดับน้ำมันเครื่องเบื้องต้น ได้ด้วยการวัดและเติมน้ำมันเครื่องเพิ่มเข้าไป ถ้าเติมในระดับปกติแล้วไฟสัญญาณยังไม่หายไป ก็อาจจะเป็นที่ระบบปั๊มแรงดันก็ได้ รีบน้ำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการเพื่อเช็กอย่างละเอียดโดยทันที

สัญญาณเตือนเแบตเตอรี่

ใครที่กำลังขับรถอยู่ดีๆ แล้วมีสัญลักษณ์รูปแบตเตอรี่สีแดงโชว์ขึ้นมาบนหน้าปัด ทั้งๆ ที่พึ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่รถได้ไม่นาน ซึ่งไฟเตือนที่ว่านี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับแบตเตอรี่ใหม่หรือเก่าโดยตรง แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ระบบการจ่ายไฟเข้าแบตเตอรี่กำลังมีปัญหาเกิดขึ้นนั่นเอง เมื่อไฟไม่สามารถเข้าสู่แบตเตอรี่ได้ แสดงว่าระบบไดชาร์จมีปัญหา ซึ่งจะส่งผลให้รถยนต์สตาร์ตไม่ติด ต้องรีบพาเข้าอู่รีบแก้ไขโดยทันที

สัญญาณเตือนระบบเบรก

อีกหนึ่งสัญลักษณ์ สัญญาณไฟแจ้งเตือนที่เราอาจเห็นบนหน้าปัดบ่อยๆ ก็คือ รูปวงกลมสีแดง ที่มีเครื่องหมายตกใจอยู่ตรงกลาง ปกติสัญญาณนี้จะแสดงว่าเบรกมือกำลังทำงาน หากสัญญาณค้างขณะขับรถอาจเป็นไปได้ว่า เราขับรถออกไปโดยลืมปลดเบรกมือก็เป็นได้ แต่หากเช็กเบรกดูแล้ว สัญลักษณ์ยังไม่หายไป ระบบเบรกคงจะมีปัญหาแน่นอน น้ำมันเบรกอาจจะใกล้หมด รีบนำรถไปให้ช่างตรวจเช็กจะดีที่สุด

สัญญาณเตือนระบบเครื่องยนต์

ปกติแล้วเวลาเราติดเครื่องหรือสตาร์ตรถยนต์แต่ละครั้ง สัญญาณต่าง ๆ จะโชว์ขึ้นมาแล้วดับลงไป แต่หากสัญลักษณ์รูปเครื่องยนต์แสดงค้างอยู่บนหน้าปัดรถโดยไม่ดับลงไป หรืออยู่ๆ ติดขึ้นขึ้นมาขณะขับรถ แสดงว่ามีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับเครื่องยนต์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปได้หลายอย่างด้วยกัน เช่น ระบบสายพานแท่นเครื่อง หรือระบบควบคุมเครื่องยนต์ (ECU) ซึ่งไม่สามารถแก้ไขด้วยตัวเองได้อย่างแน่นอน ทางที่ดีที่สุดคือค่อยๆ ขับรถอย่างช้าๆ ไปให้ช่างที่อู่ซ่อมรถ หรือเข้าศูนย์ตรวจเช็กทันทีสัญลักษณ์ไฟสัญญาณเตือนต่างๆ บนหน้าปัดรถนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เจ้าของรถทุกคัน ควรจะศึกษาทำความเข้าใจจากคู่มือการใช้รถให้ดีเสียก่อน หากเกิดเหตุจริงขึ้นมา ก็จะสามารถแก้ไขป้องกันได้ทันท่วงที ก่อนที่รถยนต์คันโปรดจะเกิดความเสียหายไปมากกว่านั้น ส่วนใครที่กำลังมองหารถยนต์มือสองสภาพดีๆ รถฮอนด้ามือสอง รถโตโยต้ามือสอง สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Car Hero https://www.carhero.co.th/  ฮีโร่ตัวจริงเรื่องรถมือสอง ได้รับความไว้วางใจ เลือกแต่รถที่ดีที่สุดมาขาย พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำในทุกๆ ด้าน เพื่อช่วยให้คุณได้รถมือสองที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง