ในยุคปัจจุบันนี้ผู้คนทั้งหลายหันมาใช้เวลาว่าง ด้วยการแคะขี้มูกกันมากขึ้นตามสถานที่ต่างๆ เมื่อแต่ก่อนนั้น อาจมีการแคะขี้มูกตามสถานที่ลับตาคน หรือใช้มือป้อง แต่ปัจจุบันนี้การแคะขี้มูกได้ถูกยอมรับและแพร่หลายออกไปในวงกว้าง ทั้งเด็ก ทั้นนักศึกษา สามารถแคะขี้มูกได้บนรถเมล์ ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ ในวัด ตามห้างสรรพสินค้า ริมเวทีคอนเสิร์ตอย่างภูมิใจ
รวมเรื่องฮาๆ ของการแคะขี้มูก
มีชาติไหนยืนแคะขี้มูกคุยกันอย่างหน้าตาเฉย
การแคะขี้มูกเป็นวัฒนธรรมที่โดดเด่นของชนชาติไทยมาก ฝรั่งต่างชาติคนหนึ่งชื่อ เคลลี่ ติดใจในวัฒนธรรมนี้ ถึงกับมาตั้งรกรากในเมืองไทย ไม่เคยเห็นชาติไหน ที่ยืนแคะขี้มูกคุยกันได้อย่างหน้าตาเฉยเช่นชาติไทย บ้างแคะธรรมดาไม่พอ มีนำมาบดขยี้ให้เป็นผงหรือม้วนปั้นเป็นลูกก้อน หรือเช็ดตามเนื้อตัว ตามขอบชายเสื้อ ขอบกางเกง ป้ายตามเสาไฟ โซฟา ใต้ที่นั่ง นี่เป็นวัฒนธรรมที่น่าทึ่งถึงแม้เคลลี่จะชอบวัฒนธรรมนี้มาก แต่ก็ยังขนลุกชูชันทุกครั้งที่เหลือบเห็น
การแคะขี้มูกมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน
ส่วนมากแล้วจะใช้นิ้วมือแคะ ซึ่งเป็นวิธีขั้นพื้นฐาน ยังไม่มีใครพัฒนาไปถึงใช้ช้อนหรือไม้บรรทัด นิ้วมือที่ใช้ก็จะไม่พ้นนิ้วมือทั้งห้านิ้วนี้ คือ โป้ง ชี้ นาง กลาง ก้อย
จากรายงานของสวนสัตว์ดุสิตโพล โหวตกันเองออกมาแล้วว่า นิ้วที่ได้รับความนิยมติดชาร์ทอันดับต้น คือ นิ้วชี้และนิ้วก้อย สองนิ้วนี้เบียดคู่กันมา ระดับคะแนนสูสีกันมาก นิ้วชี้ เหมาะกับผู้ที่มีลักษณะจมูกกว้างกว่าเส้นรอบวงของดินสอหรือปากกา การแคะมักจะแคะเข้าหาตัว ลักษณะคว้านทวนเข็มนาฬิกา และสะบัดงุ้มเข้าหาตัว เท่าที่สอบถามมา ยังไม่มีใครใช้นิ้วชี้และสะบัดดีดออกไปยังฝั่งตรงกันข้าม หลังจากใช้นิ้วชี้แคะแล้ว ก็จะได้ขี้มูกติดมือมาพอสมควร นิ้วโป้งก็จะเป็นอีกนิ้วนึงที่มาช่วยบดขยี้ หรือช่วยดีดส่ง
ส่วน นิ้วก้อย นั้น 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้นิ้วก้อยจะเป็นสุภาพสตรี หรือนักเรียนนาฎศิลป์ที่ฟ้อนเล็บ ผู้หญิงมักจะใช้นิ้วก้อย เพราะนิ้วก้อยเป็นนิ้วที่กะทัดรัด ไม่ฝืนรูจมูก และชอนไชเข้าไปได้ลึกที่สุดแทบจะถึงโพรงประสาตาเลยทีเดียว เป็นนิ้วที่เมื่อไชลึกก็ยิ่งเพิ่มความเมามันในการแคะมากขึ้น และก็สามารถโกยขี้มูกออกมาที่ปากโพรงจมูกเป็นจำนวนมาก เมื่อแคะขี้มูกออกมาก็จบลงด้วยนิ้วโป้งบดขยี้ขี้มูกนั้นเสมอ
มาถึง นิ้วโป้ง ลักษณะการแคะมักจะสะบัดออกนอกตัว เหมาะสำหรับผู้ที่มีโพรงจมูกใหญ่ปานถ้ำ ประมาณคุณสมัครหรือคุณสะมะพล จริงๆ แล้วเป็นนิ้วที่ไม่แนะนำให้ใช้แคะขี้มูก เป็นนิ้วที่ชอนไชไม่ได้ หัวทุ่ๆ ทุยๆ ดุ่ยๆ เข้าไปจะทำให้เกิดการระคายเคืองจากขอบเล็บ หรือริมจมูกเป็นแผล เป็นขุย แม้ว่าจะมีวาสลีนหล่อลื่น ก็ไม่ควรจะดันทะลึ่งพรวดเข้าไปโดยเด็ดขาด อาจจะทำให้เลือดกำเดาไหลเส้นเลือดฝอยแตก
นิ้วนาง เป็นนิ้วที่ไม่ค่อยมีการนิยมใช้แคะ หนึ่ง เพราะตำแหน่งไม่เหมาะที่จะใช้งาน สอง เป็นนิ้วที่ดูดี เหมาะสำหรับสวมแหวนแต่งงาน คงไม่หน้าดูถ้าจะโชว์แหวนแต่งงานหัวขี้มูกฝังเพชร สาม เป็นนิ้วที่ไม่ค่อยมีกำลังวังชา เพราะว่าเป็นนิ้วที่ไม่ค่อยได้รับการใช้งานเป็นปกติประจำวัน การยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อจะน้อยกว่านิ้วชี้ ที่ใช้ชี้โน่นชี้นี่กันบ่อยๆ หรือนิ้วหัวแม่มือ เมื่อเวลาโกรธใครก็ยังยกขึ้นมาโป้ง หรือว่ายกย่องชมเชยใครก็ยกนิ้วให้ ส่วนนิ้วก้อยก็ยังใช้บ่อย เวลาที่คุณคืนดีกัน เดินเกี่ยวก้อยกับแฟน ในกรณีใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางก็ยังใช้บ่อยมาก ในยามที่คุณต้องการสู้ คุณก็ชูสองนิ้ว หรือเกลียดเพื่อนก็ใช้สองนิ้วนี้จกตาได้ นิ้วนางเลยไม่ค่อยได้รับความนิยม หรืออาจจะเพราะชื่อที่ดูเหมือนสตรีมีบุตรแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นนิ้วนางสาว อาจจะมีหลายคนอยากใช้มากขึ้น
นิ้วต่อไปที่หลายคนใช้แคะก็คือ นิ้วกลาง ส่วนมากก็จะเป็นพวกจิ๊กโก๋หรืออันธพาล เพราะนอกจากจะเขี่ยสิ่งสกปรกออกจากจมูกแล้ว ยังเป็นการด่าฝั่งตรมโดยกลายๆ นิ้วกลางเมื่อใช้เคาะขี้มูก การแคะก็จะงองุ้มเข้าหาตัว ไม่เหมาะกับสุภาพชนปัญญาชน นักเรียนที่ผลการเรียนดีเด่น หรือนักการเมืองสุภาพๆ อย่างคุณ อภิสิทธิ์ ความเพลิดเพลินในการแคะขี้มูก หลายท่านคงเคยสัมผัสมันมาบ้างแล้ว (ยอมรับมาซะดีๆ ) มันเป็นเรื่องยากที่จะหยุดมัน หลายคนเมื่อเริ่มแล้วจะหยุดไม่ได้ แม้กระทั่งว่าขี้มูกจะหมดโพรงจมูกแล้วก็ตาม ก็ยังมือบอนไปถอนขนจมูกเล่นเพื่อความแสบซี๊ด น้ำตาไหลพรากๆ ออกมาเหมือนกับกินวาซาบิ บางคนที่ขี้มูกเปียกก็จะใช้ทิชชู่แทนนิ้ว ม้วนกลมๆ ให้รูปร่างหน้าตาเหมือนนิ้ว ชอนไชไปมาในจมูก และมีการหมุนเกลียวสองรอบ ก็จะได้ขี้มูกเปียกออกมาเชยชม ในกรณีนี้ไม่ค่อยนิยมเอามาปั้นนัก เพราะขี้มูกเปียกจะเหนียวปั้นยาก นอกจากจะมีทิชชู่ก็มีการพัฒนาไปถึงคอตตอนบัด เพราะมีขนาดเล็ก ไชง่าย แต่ถ้าไชเข้าไปไม่ดีอาจทะลุไปถึงโพรงสมอง
การแคะขี้มูกก่อเกิดประโยชน์อะไร?
การแคะขี้มูกก่อเกิดประโยชน์อะไรหรือ ความมันมหากาฬผ่อนคลายอิรินาบทยามเก้อเขิน หรือต้องการขจัดสิ่งกีดขวางทางเดินของลมหายใจ แต่ที่รู้ๆ การแคะขี้มูกจะมีผลเสียอย่างนึงคือว่า จะนำพาเชื้อโรคเข้าไปสู่โพรงจมูก ทำให้เกิดโรคโพรงจมูกอักเสบ ใครจะรู้ได้ว่า วันๆ นึงนิ้วของเราไปจับไปถูกกับเชื้อโรคชนิดไหนมาบ้าง แต่ถึงแม้เราๆ ท่านๆ จะรู้อยู่แก่ใจ แต่ใครเล่าจะไปหยุดยั้งความมันระเบิดเหล่านี้ได้
การแคะขี้มูกส่วนมากจะกระทำโดยตัวเอง แต่เมื่อแคะซะพรุนจนหมดมูกแล้ว ท่านอาจสร้างสรรค์ด้วยการขอแคะให้คนอื่นบ้าง แต่ต้องมีน้ำใจด้วย เมื่อท่านมีขี้มูกเยอะๆ แล้ว ท่านก็ต้องปันให้เค้าแคะบ้าง เริ่มจากสองคนแล้วค่อยๆ หาสมาชิกเพิ่ม โดยยืมแผนการตลาด IDA ของแอมเวย์ ขยายองค์กรแบบระบบลูกโซ่ เพื่อนท่านจะได้เป็นหัวหน้ากลุ่ โดยมีตำแหน่งขี้มูกเพชรเป็นเป้าหมาย
ถ้าเพื่อนๆ สมาชิกใหม่มีขี้มูกที่เหลวใสกว่าของเรา อย่าเยาะเย้ย ควรให้โอกาสเค้าได้เอาขี้มูกตากลมไว้สักประมาณ 20 นาที ขี้มูกก็จะเริ่มเหนียวตัว จังหวะนี้ให้รีบจัดแต่งรูปทรงก่อนขี้มูกจะแข็งตัว มิฉะนั้นขี้มูกของคุณก็จะไร้ค่า ไม่สามารถนำไปป้ายติดตามที่ต่างๆ ที่ต้องการได้
เป็นธรรมดาเมื่อคุณแคะบ่อยๆ ก็ต้องมีเบื่อ แต่ไม่ยาก คุณสามารถพลิกแพลงมันได้ไม่จำกัดรูปแบบ เช่น แคะทีละสองนิ้ว หรือห้านิ้วสลับฟันปลา แต่ที่ภูมิใจเสนอคือ ท่าไอเลิฟยู นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วก้อย แคะไปชูไป ยื่นให้กับคนที่คุณรัก แต่อย่าลืมใส่ความเป็นตัวของคุณเอาลงไประหว่างแคะด้วย เพราะนี่คือภาพจำสำหรับคนที่ได้เห็นเป็นบุคลิกที่จะฝังใจเค้าไปนานแสนนาน
มั่งมั่นแคะกันต่อไป เพื่อรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันโดดเด่นในการแคะขี้มูกของเรา กรุณาล้างมือให้สะอาดก่อนแคะทุกครั้ง หลังแคะเมื่อป้ายขี้มูกไว้ตามที่ต่างๆ ถ้ามีน้ำใจกรุณาชี้เบาะแสให้ผู้อื่นทราบด้วยว่า มันอยู่ตรงมุมไหน กระผมนั่งดูหนังในโรงหนังแถวสยามฯ คลำไปที่พักแขน ใต้ที่พักแขนจะเจออยู่ 3-5 ก้อนเป็นประจำ (ส่วนก้อนของผมอยู่ที่ใต้เบาะโรงหนังซีคอนฯ แถว A ปั้นเป็นรูปดอกโป๊ยเซียน)
สักวันหนึ่งกระทรวงสาธารณสุขอาจเล็งเห็นความสำคัญของพฤติกรรมนี้ จนสร้างเสารวมน้ำมูกตามที่สาธารณะมาให้ป้ายอย่างเป็นทางการ จะได้ไม่ต้องลำบากไปป้ายตามเสาไฟฟ้า ป้ายรถเมล์ ใต้โต๊ะอาหาร พนักพิงรถปรับอากาศ หรือราวโหนรถเมล์
ใครน้อ ทำบทความชิ้นนี้ขึ้นมา