13 ก.ค. วันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (พระนามเดิม หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร) เป็นพระภคินี (ลูกพี่ลูกน้อง) และอดีตพระวรชายาในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นธิดาคนโตของหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร กับท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร พระองค์เป็นทั้งพระภาติยะและอดีตพระสุณิสาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องจากอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร (พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10) ซึ่งขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
พระองค์มีพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชายาฯ ถือเป็นเจ้านายที่ดำรงพระอิสริยยศเป็น พระวรชายา พระองค์แรก มีพระราชธิดา คือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา แต่หลังการหย่าในปี พ.ศ. 2534 พระองค์ยังมีสถานะเป็นเจ้านายและได้รับการเฉลิมพระนามว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
พระประวัติ
พระชนม์ชีพในวัยเยาว์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ มีพระนามเดิมคือ หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 ณ โรงพยาบาลกายส์ เขตเซาท์วาร์ก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นธิดาคนโตของหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร พระเชษฐาในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ กับท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร (พระนามเดิม หม่อมเจ้าพันธุ์สวลี ยุคล)
เหตุที่ประสูติในลอนดอนสืบเนื่องมาจากพระบิดา คือ หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ ได้ไปศึกษากฎหมายในอังกฤษหลังพระราชทานน้ำสังข์แล้ว จนเมื่อพระองค์มีพระชันษาได้ 2 ปี จึงได้กลับมายังประเทศไทย และมีพระขนิษฐาเพียงคนเดียวคือ หม่อมหลวงสราลี กิติยากร หรือ คุณน้ำผึ้ง (ซึ่งเป็นนักแสดงและพิธีกร)
ที่มาของพระนาม
พระนาม โสมสวลี อันหมายความว่า น้ำผึ้งพระจันทร์ นั้นเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานมาจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เข้าใจว่าคงจะนำมาจากสร้อยพระนามของพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ครอบครัวและพระสหายในโรงเรียนราชินีมักเรียกสั้น ๆ ว่า คุณโสม ส่วนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเรียกว่า โสม เฉย ๆ
การศึกษา
หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เข้าศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา รุ่นที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2504 รุ่นเดียวกับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี แต่เมื่อสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ ย้ายไปเป็นผู้พิพากษาศาลจังหวัดเชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2510
พระองค์ก็ทรงลาออกจากโรงเรียนเดิมและย้ายไปประทับที่เชียงใหม่ โดยเข้าเรียนที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย เป็นเวลา 2 ปี และเมื่อบิดาได้ย้ายกลับมายังกรุงเทพมหานคร ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระยะหนึ่ง แต่ด้วยมิสะดวกต่อการรับส่ง จึงได้ย้ายมาศึกษาอยู่ที่โรงเรียนราชินี เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ไปยังที่ทำงานของบิดา
หม่อมหลวงโสมสวลีและพระขนิษฐา เติบโตในวังเทเวศร์และได้รับการเลี้ยงดูอย่างสามัญ มีพระบิดาไปรับส่งที่โรงเรียน ในวัยเยาว์พระองค์ทรงปฏิบัติหน้าที่งานบ้านด้วยพระองค์เอง เช่น จัดที่นอนให้เป็นระเบียบ กวาดบ้านถูพื้น รวมไปถึงการปลูกผักและตัดหญ้า ทั้งนี้โปรดการประกอบอาหารและวิชาภาษามากกว่าวิชาใด ๆ แต่พระองค์ไม่ถูกกับวิชาคำนวณ เมื่อพระองค์สำเร็จการศึกษาระดับ ม.ศ. 2 พระองค์ก็ขอร้องกับบิดามารดา เพื่อขอออกมาศึกษาวิชาที่พระองค์ชอบ
อภิเษกสมรส
วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2519 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ประกอบพิธีหมั้นระหว่างสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กับหม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต
วันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2520 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรส ณ พระตำหนักสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี วังสระปทุม และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการนี้ได้เสด็จออก ณ ท้องพระโรงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และสีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรค์ปราสาท เพื่อรับการถวายพระพรชัยมงคล
พระองค์ทรงตั้งพระครรภ์พระราชกุมารพระองค์แรก แต่ด้วยทรงมีปัญหาความเครียดส่วนพระองค์จึงแท้งพระโอรสขณะมีอายุครรภ์ได้ 4 เดือน ต่อมาจึงตั้งพระครรภ์เป็นครั้งที่สองและก็มีปัญหาด้านความเครียดส่วนพระองค์อีกเช่นกัน จนเกือบคลอดก่อนกำหนดขณะอายุครรภ์ได้ 6 เดือน พระองค์ต้องบรรทมพักผ่อนและให้แพทย์ฉีดยา และมีพระประสูติกาลพระธิดาในเวลาต่อมา คือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2521)
วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2534 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศเฉลิมพระนามพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์นั้นเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โดยสร้อยพระนาม พระวรราชาทินัดดามาตุ หมายถึง พระมารดาของพระราชนัดดาพระองค์แรกแห่งพระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐ
ชีวิตส่วนพระองค์
พระองค์ชื่นชอบงานฝีมือฝึกฝนด้านหัตถกรรมอย่าง การร้อยพวงมาลัย จัดดอกไม้ และเย็บปักถักร้อย โดยโปรดงานนิตติ้งมากที่สุด และโปรดเลี้ยงสัตว์คือ ปลาทอง หากพระองค์จะเสด็จไปประทับที่ใดก็ต้องเอาปลาทองที่ทรงเลี้ยงไปด้วย
โปรดการเล่นเครื่องดนตรี คือ กีตาร์และเปียโน ดังคำให้สัมภาษณ์ของท่านผู้หญิงพันธุ์สวลีตอนหนึ่งว่า “คุณโสมชอบเล่นกีตาร์ ดิฉัน (ท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี) ให้ท่านผู้หญิงอรุณ กิติยากร มาสอนเปียโนอยู่เป็นประจำ” นอกจากนี้ยังสามารถทรงเครื่องดนตรีไทยได้บ้าง ได้แก่ ระนาดเอก และฆ้องวง ทั้งนี้ทรงมีพื้นฐานด้านบัลเลต์ ศิลปะการแสดง และการเต้นลีลาศ
แต่สิ่งที่พระองค์ชื่นชอบและเป็นที่รู้จักที่สุดคือการประกอบอาหาร ซึ่งพระองค์ได้ทำพระกระยาหารไปถวายยังพระบรมวงศานุวงศ์ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2553 ในช่วงมหาอุทกภัย พระองค์ก็ทรงประกอบอาหารแจกจ่ายไปยังประชาชนที่ประสบภัยในจังหวัดนครราชสีมา และหลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชช่วงปลายปี พ.ศ. 2559 พระองค์ทรงทอดไก่ประทานแก่ประชาชนที่มาร่วมถวายสักการะพระบรมศพด้วยพระองค์เอง
ปัจจุบัน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงประทับที่พักสองแห่งสลับกัน แห่งแรกคือ วังเทเวศร์ และประทับคอนโดใจกลางเมืองอีกแห่งหนึ่ง ทั้งนี้พระองค์ยังทรงอุปการะ คุณสิรพัชรา โสพัชรมณี ชื่อเล่น ใบพลู ไว้ในพระอุปถัมภ์ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก อีกด้วย
พระอิสริยยศ
- หม่อมหลวงโสมสวลี กิติยากร (13 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 – 3 มกราคม พ.ศ. 2520)
- หม่อมหลวงโสมสวลี มหิดล (3 มกราคม พ.ศ. 2520)
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรชายาฯ (3 มกราคม พ.ศ. 2520 – 12 สิงหาคม พ.ศ. 2534)
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (12 สิงหาคม พ.ศ. 2534 – 4 พฤษภาคม 2562)
- พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ (5 พฤษภาคม 2562 – ปัจจุบัน)
อ่านเพิ่มเติม : ร.10 โปรดเกล้าฯ สถาปนาพระยศใหม่ พระบรมศานุวงศ์ แห่งพระราชวงศ์จักรี
พระกรณียกิจ
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงบำเพ็ญพระกรณียกิจด้านต่าง ๆ แบ่งเบาพระราชภาระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในการเสด็จแทนพระองค์ไปทรงประกอบพระกรณียกิจต่าง ๆ จนลุล่วงด้วยดี สมกับที่ทรงวางพระราชหฤทัยตลอดมา
และวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2554 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ รศ.ดร.นายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงยังชีพ 3,000 ถุง ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ
โครงการ/มูลนิธิในพระอุปถัมภ์
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงมีความสนพระทัยในด้านสังคมสงเคราะห์ และการสาธารณสุข ทรงรับโครงการต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย ไว้ในพระอุปถัมภ์หลายโครงการ และทรงจัดตั้งมูลนิธิและโครงการส่วนพระองค์อีกหลายโครงการ อาทิ
- มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ทรงเป็นนายกกิตติมศักดิ์)
- มูลนิธิเพชรรัตน-สุวัทนา (ทรงเป็นนายกกิตติมศักดิ์)
- มูลนิธิศาสตราจารย์ นายแพทย์ หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร
- มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย (ทรงดำรงตำแหน่งนายกกิตติมศักดิ์ตลอดพระชนม์ชีพ)
- มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของศาลเยาวชนและครอบครัว
- มูลนิธิบ้านบางแค
- มูลนิธิโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียแห่งประเทศไทย
- มูลนิธิสงเคราะห์เด็ก ของศาลเยาวชนและครอบครัว
- มูลนิธิสถาบันแสงสว่าง
- มูลนิธิธรรมจารินีวิทยา
- มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของศาลเยาวชนและครอบครัว
- โครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก สภากาชาดไทย
- โครงการคืนชีวิตให้พ่อแม่เพื่อลูกน้อยที่ติดเอดส์
- กองทุนยาพระวรราชาทินัดดามาตุ สำหรับผู้ติดเชื้อเอดส์ สภากาชาดไทย
- กองทุนนมสำหรับเด็กในโครงการช่วยลดการติดเอดส์จากแม่สู่ลูก
- กองทุนโรคมะเร็งในเด็ก
- สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี
- สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย
- สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือจังหวัดเชียงใหม่
- สมาคมพัฒนาแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย
- สภาแม่ดีเด่นแห่งชาติ
- โรงเรียนวรราชาทินัดดามาตุวิทยา
- วัดหนองน้ำขุ่น อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
ผลงานด้านการแสดง
ในวัยเยาว์พระองค์เคยแสดงละครโทรทัศน์ครั้งแรกทางช่อง 4 บางขุนพรหม เรื่อง ขุนช้างขุนแผน ทรงรับบทเป็น นางพิมพิลาไลย (ในวัยเด็ก) และเป็นนักแสดงประกอบในภาพยนตร์เรื่อง น้ำผึ้งขม (พ.ศ. 2517) ทั้งแสดงละครเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในบางวาระ
นอกจากนี้พระองค์แสดงละครเวทีสองเรื่องคือ รักษาป่า และหลังจากอภิเษกสมรสกับอดีตพระราชสวามีก็ทรงแสดงละครเวทีเรื่อง เกาะสวรรค์ ร่วมกับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา และหม่อมหลวงสราลีขนิษฐา
ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2557 ทรงร่วมแสดงในละครเวที เรื่อง ซูสีไทเฮา เดอะ มิวสิคัล ในบท นางนิวฮูลู่ ซึ่งเป็นมารดาของซูสีไทเฮา เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยากของพระองค์ และในปลายปีเดียวกันนั้นพระองค์ได้ทรงร่วมแสดงในละครโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เรื่อง รักเร่ ทรงรับบทเป็น พร้อมจิต
พรรณพืช (อันเนื่องด้วยพระนาม)
- กล้วยไม้โสมสวลี มีลักษณะลำต้นขนาดกะทัดรัด สูง 40-50 เซนติเมตร ดอกมีสีม่วงครามอ่อน มีลายเส้นสีขาวอ่อน ๆ แฝงอยู่ในกลีบ เมื่อดอกเริ่มบานใหม่ ๆ จะมีสีเข้ม แต่เมื่อบานเต็มที่สีม่วงของดอกจะสว่างขึ้น ส่วนคอดอกเป็นสีขาว ก้านช่อของดอกไม่ยาวมาก ปลูกเลี้ยงง่าย หากหน่อสุดแล้ว จะออกดอกตลอดทั้งปี จึงเหมาะนำไปทำเป็นกล้วยไม้ประดับชนิดตั้งแสดงทั้งต้นและดอก
สถานที่ (อันเนื่องด้วยพระนาม)
- อาคารโสมสวลี คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่
- อาคารโสมสวลี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี จังหวัดลพบุรี
- อาคารโสมสวลี 48 พรรษา ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค
- อาคารโสมสวลี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จังหวัดนครปฐม
- อาคารเฉลิมพระเกียรติพระชันษา 60 ปี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ศาลเจ้าพ่อเสือ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
ภาพจาก : http://pr.ku.ac.th, www.matichonweekly.com