ตำนานสุดหลอน จากทั่วโลก ชุดที่ 1 – เรื่องเล่าลี้ลับ แอบสยอง

รวมตำนาน เรื่องเล่าสุดหลอน จากประเทศต่างๆ ทั่วทุกมุมโลก มีมาทั้งหมด 20 เรื่องด้วยกัน สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบเรื่องราวลี้ลับไม่ควรพลาดเลย ถ้าไม่อยากหลอนคนเดียวส่งต่อให้เพื่อนๆ อ่านไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

ตำนานสุดหลอน จากทั่วโลก ชุดที่ 1

ไฟดวงนั้น

แม้ว่าตำนานสุดสยองเรื่องนี้ยังไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง แต่มันก็สามารถทำให้คุณขนลุกซู่ได้เลยทีเดียว เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนักเรียนอเมริกันที่กลับมาที่หอแล้วไม่กล้าเปิดไฟเพราะกลัวเพื่อนร่วมห้องที่หลับอยู่จะตื่น เช้าวันรุ่งขึ้นเธอกลับพบศพของเพื่อนร่วมห้องคนนั้นพร้อมกับประโยคที่เขียนด้วยเลือดบนกำแพงว่า “เธอคงดีใจสินะที่ไม่ได้เปิดไฟเมื่อคืน” แค่นี้ทำให้คุณขนหัวลุกพอไหม?

รถโวลก้าสีดำของซาตาน

รถโวลก้าเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปี 1960 โดยเฉพาะในประเทศรัสเซียและประเทศอื่น ๆ ในแถบยุโรปตะวันออก และเรื่องราวของรถโวลก้าสีดำถือเป็นตำนานสุดสะพรึงเรื่องหนึ่ง เป็นที่เชื่อกันว่าพวกแวมไพร์ พวกนับถือซาตาน หรือแม้แต่ตัวซาตานเองเป็นคนขับรถโวลก้าสีดำเพื่อลักพาตัวเด็ก เชื่อกันว่าเลือดของเด็กเป็นยารักษาโรคลูคีเมียได้ ส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเด็กถูกนำไปใช้เป็นยาในการรักษาด้านอื่น ๆ อีกด้วย

ผีแห่งทะเลสาบสโตว์

เป็นที่เลื่องลือกันว่ามีผีอยู่ที่ทะเลสาบสโตว์ของสวนสาธารณะโกลเดนเกตในซานฟรานซิสโก ตำนานกว่าร้อยปีเรื่องนี้เล่าว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมากับเด็กทารกในรถเข็นแล้วหยุดพักที่ม้านั่งใกล้ ๆ ทะเลสาบ เธอเริ่มพูดคุยกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ผ่านมาแถวนั้นจนไม่ทันสังเกตว่ารถเข็นค่อย ๆ ไหลลงไปในทะเลสาบ เมื่อเธอรู้ว่าลูกของเธอหายไป เธอจึงเริ่มตามหาลูกของเธอทุก ๆ ที่ในสวนสาธารณะ สุดท้ายเธอก็กระโดดลงไปในทะเลสาบและไม่เคยโผล่ขึ้นมาอีกเลย

สะพานแห่งถนนซัซคอน

สะพานทางรถไฟบนถนนซัซคอนในรัฐเพนซิลเวเนีย เป็นที่ตั้งของตำนานสุดหลอนที่เล่าขานกันมานานหลายปี ผู้คนต่างพูดว่าผู้หญิงที่ตายตรงสะพานนี้ยังคงวนเวียนหลอกหลอนไม่ไปไหน หากคุณลองได้หยุดรถตรงนั้นแล้ววางกุญแจไว้บนหลังคารถ คุณจะมองเห็นเธอในกระจกหลังของรถคุณ บางคนเล่าว่าผู้หญิงคนนี้แขวนคอตายตรงสะพานแต่นั่นก็เป็นแค่หนึ่งในหลาย ๆ เรื่องที่เล่าต่อกันมาซึ่งก็หลอนไม่แพ้กัน

บ็อบบี้ แม็กกี้ส์ มิวสิคเวิลด์

บ็อบ แม็กกี้ เป็นเจ้าของบาร์ที่ชื่อว่าบ็อบบี้ แม็กกี้ส์ มิวสิคเวิลด์ ในรัฐเคนทักกี ประวัติคร่าว ๆ ของตึกนี้ก็คือ ก่อนที่จะมาเป็นบาร์ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นโรงฆ่าสัตว์มาก่อน เมื่อปี 1896 นายอะลอนโซ วอลลิ่ง และนายสก๊อต แจ็คสัน ได้ทำการฆ่าตัดหัวหญิงสาวนามว่า เพิร์ล ไบรอัน ในโรงฆ่าสัตว์แห่งนี้ แม้ว่าร่างของเธอจะถูกพบในเวลาต่อมา แต่หัวของเธอไม่เคยถูกพบเลยตลอดการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ผู้ชายทั้งสองคนถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอที่หน้าโรงฆ่าสัตว์ ก่อนตาย พวกเขาประกาศว่าเขาจะหลอกหลอนสถานที่แห่งนี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ที่นี่ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวสุดสยองเหนือธรรมชาติ

สะพานเด็กร้องไห้

หลายสะพานในสหรัฐอเมริกาถูกเรียกว่าสะพานเด็กร้องไห้ ตามที่หลายตำนานได้กล่าวไว้ สะพานเหล่านี้มีเด็กถูกฆ่าตาย ผู้คนกล่าวว่าหากคุณฟังให้ดี ๆ คุณจะได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเด็กอยู่แถวนั้นเลย นอกจากนี้มียังเคยมีคนเคยเห็นเด็กทารกเหล่านั้นบนสะพาน ที่แน่ ๆ คือคุณไม่อยากข้ามสะพานเหล่านี้แน่ ๆ

ศพสุนัข

ตำนานเรื่องนี้เล่าว่ามีเด็กหญิงคนหนึ่งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงน้ำหยดจากก๊อก เธอจึงเดินไปปิดก๊อกน้ำแล้วกลับมานอนต่อโดยทิ้งแขนลงข้างเตียงให้หมาของเธอเลียนิ้วเป็นปกติ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลายรอบในคืนนั้นจนเธอนึกขึ้นได้ว่าเสียงหยดน้ำไม่ได้มาจากก๊อกน้ำ ในที่สุดเธอก็ได้พบว่าเสียงนั้นคือเสียงหยดเลือดของสุนัขของเธอที่ถูกซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าที่มีโน้ตเขียนติดไว้ว่า “คนก็เลียได้นะ”

เอลิสา เดย์

ช่วงยุคกลางของยุโรป หญิงสาวนามว่า เอลิสา เดย์ เป็นที่ขนานนามในเรื่องความงามของเธอ กระทั่งวันหนึ่งมีผู้ชายตกหลุมรักเธอเข้าทันทีเมื่อแรกเห็น ทั้งคู่นัดพบกันเป็นเวลาสามวัน วันแรกเขาไปเยี่ยมเธอที่บ้าน วันที่สองเขาให้ดอกกุหลาบสีแดงและขอให้เธอมาพบเขาที่มีต้นดอกกุหลาบป่า และในวันที่สามเขาทุบหัวเธอด้วยก้อนหินจนเธอเสียชีวิต ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมามีคนพบเห็นผีเดินไปตามชายฝั่งแม่น้ำถือดอกกุหลาบในมือ

ทหารกรีก

หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง ขณะที่ทหารกรีกคนหนึ่งกำลังเดินทางกลับบ้านเขาถูกลักพาตัว ทรมาน และฆาตกรรมโดยกลุ่มกบฎ ตั้งแต่นั้นมาก็มีเรื่องเล่าจากบรรดาผู้หญิงกรีกว่าพวกเธอได้พบกับทหารหนุ่มหล่อคนหนึ่ง แต่เมื่อพวกเธอท้องกับทหารคนนั้นเมื่อไหร่ ทหารก็จะหายตัวไปโดยทิ้งไว้เพียงข้อความที่เขียนว่า “เขากลับมาจากความตายเพื่อที่จะสืบทอดตระกูลและลูก ๆ ของเขาจะได้แก้แค้นแทนเขา”

แผ่นหินบนหลุมฝังศพ

แผ่นหินบนหลุมฝังศพของ ลิลเลี่ยน เกรย์ตั้งเด่นอยู่ในสุสานของเมืองซอลท์เลคซิตี้ของสหรัฐอเมริกา บนแผ่นหินนั้นจารึกไว้ว่า “เหยื่อของอสูรร้าย 666” (Victim of the beast 666) ผู้คนต่างพยายามหาความหมายของรอยจารึกนั้นและสืบหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนี้ แต่ดูเหมือนกับว่ารอยจารึกนั้นคิดขึ้นมาโดยสามีของเธอเองที่มีแนวคิดต่อต้านรัฐบาลจึงใช้วลีของซาตานนี้แสดงถึงความเกลียดชังที่เขามีต่อรัฐ

ที่มา:: www.msn.com

– 20 เรื่องราวความหลอน จากทั่วโลก (ชุดที่ 2)

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง