10 ประเทศน่าอยู่ ที่สามารถย้ายไปอยู่ได้ มีความสวยงาม บรรยากาศดี ค่าครองชีพไม่แพง

ถ้าเราลองให้เพื่อน ๆ นึกถึงประเทศที่น่าอยู่มากที่สุดในโลก เพื่อน ๆ จะนึกถึงประเทศไหนกันบ้าง? และอยากจะย้ายไปอยู่ประเทศไหนกันมากที่สุด โดยในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ก็ได้รวบรวม 10 ประเทศน่าอยู่ ที่สามารถย้ายไปอยู่ได้ ฝากกันค่ะ

10 ประเทศน่าอยู่ ที่สามารถย้ายไปอยู่ได้

ซึ่งแต่ละประเทศที่เราได้รวบรวมมาให้นั้น เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีบรรยากาศดี สวยงาม และเป็นประเทศที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อย รับรองว่าใครที่ชอบธรรมชาติและความสงบ จะต้องหลงรักประเทศเหล่านี้กันอย่างแน่นอน

อันดับ 10 เอกวาดอร์

เอกวาดอร์ หรือ สาธารณรัฐเอกวาดอร์ เป็นประเทศในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ และเมื่อเราย้ายไปอยู่ที่เอกวาดอร์แล้ว เราจะต้องมีรายได้อย่างน้อยเดือนละ 25,000 บาท เพื่อเป็นการยืนยันว่าเราสามารถที่จะอาศัยอยู่ที่นี่ได้ ทั้งนี้จะเป็นเงินมาจากการทำงาน หรือเป็นเงินบำนาญ ได้หมดเลย ขอเพียงแค่เรามีเงินเข้าบัญชีเป็นประจำทุกเดือนเท่านั้น

ประเทศเอกวาดอร์ ตั้งอยู่บริเวณที่เส้นศูนย์สูตรพาดผ่าน และจากการที่ตั้งอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตรนี่เอง จึงทำให้ทั้งประเทศได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ตลอดทั้งปี แต่ทั้งนี้สภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันออกไป ตามสภาพภูมิประเทศที่ได้มีการแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ พื้นที่ภูเขา ป่าฝน และชายฝั่งทะเลแปซิฟิก

อันดับ 9 ออสเตรีย

ออสเตรีย หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐออสเตรีย เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในยุโรปกลาง และประเทศแห่งนี้ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น ดินแดนอันสุดแสนโรแมนติก มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ ซึ่งในแต่ละสถานที่นั้นมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน แต่ก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมอันเก่าแก่เอาไว้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

โดยมีความโดดเด่นในเรื่องของความงดงามของธรรมชาติ ที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและทะเลสาบ บวกกับความสวยงามของตึกรามบ้านช่องของแต่ละเมือง ยิ่งทวีคูณความเพอร์เฟคขึ้นไปอีก และนอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีวีซ่าทั้งทำงานและการอยู่อาศัยกว่า 10 แบบด้วยกันที่สามารถจะขอได้ ซึ่งจะช่วยทำให้เราสามารถเดินทางไปที่นี่ได้ง่ายมากขึ้น อีกด้วย

อันดับ 8 เบลเยียม

เบลเยียม หรือมีชื่ออย่างทางการว่า ราชอาณาจักรเบลเยียม เป็นประเทศในยุโรปตะวันตกเฉียงเหนือ มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ลักเซมเบิร์ก ฝรั่งเศส และทะเลเหนือ ทั้งนี้เบลเยียมยังเป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งของสหภาพยุโรป และเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ อีกด้วย

สำหรับใครที่อยากจะเดินทางไปอยู่ที่ประเทศเบลเยียม ขอแค่เราไปถึงที่นั่นแล้วมีงานทำจริง ๆ ก็สามารถขอวีซ่าอยู่อาศัยที่ได้แล้ว และวีซ่าที่เราได้มาจะอยู่กับเราไปนาน ตราบใดที่เรายังมีงานทำอยู่ในประเทศแห่งนี้

อันดับ 7 ปารากวัย

ปารากวัย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐปารากวัย เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในทวีปอเมริกาใต้  สำหรับความหมายชื่อประเทศปารากวัยก็คือ น้ำซึ่งไหลไปสู่น้ำ (water that goes to the water) และนอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่น่าสนใจ เพราะมีชายหาดที่มีความสวยงามเหมือนภาพในความฝัน มีน้ำตกอันน่าทึ่ง และด้วยความหลากหลายของพืชและเหล่าสัตว์นานาชนิด

จึงไม่แปลกใจเลยที่ปารากวัยจะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน ที่อยากจะไปสัมผัสกับความสวยงามของที่นี่ สำหรับใครที่อยากจะย้ายไปอยู่ที่นี่ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่เรามีเงินฝากในบัญชีเท่ากับที่ได้มีการกำหนดเอาไว้ของประเทศปารากวัย ก็สามารถเดินทางไปแล้ว นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพถูกมาก อีกด้วย

อันดับ 6 แคนาดา

แคนาดา เป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ (ติดกับประเทศสหรัฐอเมริกา) เป็นประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ทางเหนือมากที่สุดของโลก และมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ปัจจุบันแคนาดาใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข โดยถือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรเป็นพระมหากษัตริย์

สำหรับการเข้าไปอาศัยอยู่ที่แคนาดา ที่นี่ชื่อว่าเป็นประเทศที่อ้าแขนรับผู้อพยพ โดยมีวีซ่าหลายแบบด้วยเริ่มตั้งแต่การตามญาติไปอาศัยอยู่ด้วยกัน ไปจนถึงวีซ่าแรงงานมีฝีมือ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการทำวีซ่าอยู่ที่ประมาณหลักหมื่นบาท

อันดับ 5 เบลีซ

เบลีซ เป็นชาติขนาดเล็ก ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของอเมริกากลาง ริมทะเลแคริบเบียน มีอาณาเขตจรดประเทศเม็กซิโกทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และจรดประเทศกัวเตมาลาทางทิศตะวันตกและทิศใต้ มีประเทศฮอนดูรัสเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ห่างออกไปเพียง 75 กิโลเมตร (47 ไมล์) ตามอ่าวฮอนดูรัสทางด้านตะวันออก

ทั้งนี้ เบลีซยังเป็นสมาชิกของประชาคมแคริบเบียน (CARICOM) และ The Sistema de Integracion Centro Americana (SICA) และจัดว่าตนเองอยู่ทั้งในกลุ่มประเทศแคริบเบียนและอเมริกากลาง อีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศแห่งนี้ หลังจากที่เราอาศัยอยู่ที่นั่นในวีซ่านักท่องเที่ยวเป็นเวลา 1 ปี เราก็สามารถสมัครขอวีซ่าที่อยู่อาศัยได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท

อันดับ 4 นิการากัว

นิการากัว หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐนิการากัว เป็นประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุดในอเมริกากลาง แต่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุด ชื่อของประเทศมาจากการสนธิระหว่างคำว่า นีการาโอ (Nicarao) เป็นชื่อชนเผ่าพื้นเมืองที่มีประชากรมากที่สุด ขณะที่ชาวสเปนก็มากับคำว่า อะกวา (Agua) ซึ่งเป็นคำในภาษาสเปนแปลว่า น้ำ

ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่เราจะย้ายไปอาศัยอยู่ที่ประเทศแห่งนี้ เพียงแค่เรามีการยืนยันว่ามีเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 19,000 บาท เพื่อที่จะเข้ามาอยู่อาศัยที่นี่ หรือจะเลือกมาอยู่เมื่อเกษียณก็ได้ แต่ต้องมีหลักฐานยืนยันว่าเรามีเงินค่าใช้มากพอที่อยู่ในประเทศนี้

อันดับ 3 ปานามา

ปานามา หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สาธารณรัฐปานามา เป็นประเทศที่อยู่ทางใต้สุดของอเมริกากลาง มีอาณาเขตจรดประเทศคอสตาริกาทางทิศตะวันตก และจรดประเทศโคลอมเบียทางทิศตะวันออก

สำหรับเพื่อน ๆ ที่เลือกไปใช้ชีวิตในช่วงเกษียณที่นี่จะได้รับส่วนลดต่าง ๆ มากมาย โดยขอแค่มีเงินเข้าบัญชีทุกเดือนประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน แต่สำหรับใครที่อยู่ในวัยทำงานจะต้องมีเงินฝากในธนาคารประมาณ 160,000 บาท จากนั้นก็สามารถทำธุรกิจเพื่อได้รับวีซ่าของประเทศนี้ได้เลย

อันดับ 2 เม็กซิโก

เม็กซิโก หรือมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหรัฐเม็กซิโก เป็นประเทศในทวีปอเมริกาเหนือ มีพรมแดนทางทิศเหนือจรดสหรัฐอเมริกา ทิศใต้และทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรแปซิฟิก ทิศตะวันออกเฉียงใต้จรดกัวเตมาลา เบลีซ และทะเลแคริบเบียน ส่วนทิศตะวันออกจรดอ่าวเม็กซิโก เนื่องจากครอบคลุมพื้นที่ถึงเกือบ 2 ล้านตารางกิโลเมตร เม็กซิโกจึงเป็นประเทศที่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของทวีปอเมริกา และเป็นอันดับที่ 15 ของโลก

การย้ายไปอยู่ที่นี่ก็ง่าย ๆ เลย เพียงแต่เราต่อวีซ่านักท่องเที่ยวทุก ๆ 6 เดือนเป็นประจำ เสียค่าต่อประมาณ 600 บาทต่อครั้ง เราก็สามารถที่จะย้ายไปอยู่ที่ได้เรื่อย ๆ โดยไม่จำกัดเลยว่าเราจะไปกี่ครั้ง หรือเดินทางไปตอนไหน

อันดับ 1 เกาะสฟาลบาร์ (นอร์เวย์)

เกาะสฟาลบาร์ เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรอาร์กติก ตั้งอยู่ทางเหนือของยุโรปภาคพื้นทวีป ระหว่างนอร์เวย์และขั้วโลกเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเทศนอร์เวย์ โดยเป็นส่วนที่อยู่เหนือที่สุดของประเทศ มีประชากรอาศัยอยู่บนสามเกาะคือ สปิตส์เบอร์เกน บีเยอร์เนอยา และโฮเปน

นอกจากนี้ สฟาลบาร์ยังได้รับจัดตั้งเป็นเขตเศรษฐกิจเสรีและเขตปลอดทหาร การวิจัยและการท่องเที่ยวได้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมรองที่สำคัญของประเทศ อีกด้วย การเดินทางมาที่นี่ไม่ต้องใช้วีซ่าด้วยซ้ำ เพราะมีประชากรที่อาศัยอยู่บนเกาะเพียง 2,600 คนเท่านั้น ขอเพียงแค่เราสามารถทำงานหาเงินได้ และมีรายได้ที่มั่นคง

อ้างอิงข้อมูลจาก : www.mha-wat.com

บทความที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง