จากพระราชดำรัสฯ ร.9 สู่วันสิ่งแวดล้อมไทย … วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี

หลายคนอาจจะทราบว่าวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก แต่อาจมีอีกหลายคนที่ยังไม่ทราบว่าประเทศไทยของเราก็มีวันสิ่งแวดล้อมไทยเช่นกัน คือวันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี (จากพระราชดำรัสสิ่งแวดล้อม … สู่วันสิ่งแวดล้อมไทย)

จากพระราชดำรัสสิ่งแวดล้อม … สู่วันสิ่งแวดล้อมไทย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำรัสถึงสถานการณ์สิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลก เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2532 ทรงแสดงความห่วงใยต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประชาชนต้องเผชิญ และตรัสเตือนให้พสกนิกรร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยให้ถือเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องปฏิบัติ ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง

จากพระราชดำรัสฯ ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย จึงกำหนดให้วันที่ 4 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันสิ่งแวดล้อมไทย” และ “วันอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านแห่งชาติ” หรือ “วัน ทสม. แห่งชาติ” เพื่อส่งเสริม เผยแพร่ และสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม จากร่วมมือของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้มีพระราชดำรัส เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมีใจความตอนหนึ่งว่า

“วันก่อนนี้เราพูดถึงปัญหาว่าเมืองไทยนี้ อีกหน่อยจะแห้งไม่มีน้ำเหลือ จะต้องไปซื้อน้ำจากต่างประเทศ ซึ่งก็อาจเป็นได้ แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น เพราะว่าถ้าคำนวณดู น้ำในประเทศไทยที่ไหลเวียนนั้นยังมีอยู่ เพียงแต่ต้องบริหารให้ดี ถ้าบริหารให้ดีแล้ว มีเหลือเฟือ มีตัวเลขแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้ไปแยกแยะตัวเลข เหมือนที่ได้แยกแยะตัวเลขของคาร์บอน น้ำนั้นน่ะ ในโลกมีมาก แล้วที่ใช้จริงๆ มันเป็นเศษหนึ่งส่วนหมื่นของน้ำที่มีอยู่ อาจไม่ถึง ก็ต้องบริหารให้ดีเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้ก็มีปัญเกี่ยวกับน้ำ น้ำนี้จะต้องใช้ให้ดี คือน้ำนั้นมีคุณ อย่างที่เราใช้น้ำสำหรับบริโภค น้ำสำหรับการเกษตร น้ำสำหรับอุตสาหกรรม ทั้งหมดนี้ต้องใช้น้ำที่ดี หมายความว่า น้ำที่สะอาด”

“ได้พูดถึงตรงนี้ก็พอสมควร เพราะว่าจะเป็นการบ้านได้สำหรับไปคิดตลอดปี ถ้าไม่พอท่านก็ไปคิดใหม่ ไปคิดเพิ่มเติม แล้วปีหน้าจะได้เพิ่มเติมให้ได้ แต่ว่าปีหน้าเราแต่ละคนต้องรักษาถังแต่ละถังไว้ให้ดี เพื่อที่จะไม่ให้รั่ว ได้ทราบอะไรเข้าไป ไม่ให้รั่วออกมาเฉยๆ คือคนเรา ถ้าหากฟังอะไรมาแล้ว ปล่อยให้รั่วออกมาหมดก็น่าเสียดาย แต่ว่าคนไหนที่สามารถจะเก็บเอาไว้ได้ แล้วน้ำมาใช้ประโยชน์ได้ ก็เป็นผู้ที่มีประโยชน์ และเป็นผู้ที่จะมีความสุข และมีความพอใจ”

*บทความพระราชดำรัสฯ ฉบับเต็ม

โดยในปีนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานวันสิ่งแวดล้อมไทยและวัน ทสม. แห่งชาติ ประจำปี 2561 ภายใต้แนวคิด “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” เพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกพร้อมกันทั่วประเทศ และเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนเห็นคุณค่าความสำคัญของการทำความดี ร่วมกันขจัดปัญหาขยะพลาสติกและโฟม ซึ่งเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของประเทศ โดยมีกิจกรรมต่างๆ ดังนี้

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก thairath.co.thbiotec.or.thdeqp.go.thmgronline.comสำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง