ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัข มีอะไรบ้าง อยากเลี้ยงต้องรู้ !

ปัญหาสุนัขสร้างความเดือดร้อนให้แก่เพื่อนบ้าน เป็นปัญหามายาวนานมากและเกิดคดีขึ้นบ่อยครั้ง นำมาซึ่งความขัดแย้งเกิดการทะเลาะวิวาทมากมายจนต้องสู้คดีกันตามกฏหมาย เราจึงมาบอกถึงข้อกฎหมายที่คนเลี้ยงสุนัข หรือคนที่กำลังคิดจะเลี้ยงต้องรู้ไว้ค่ะ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา

ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัข

สำหรับในกรุงเทพมหานคร มีการออกมาตราทางกฏหมายในการควบคุมการเลี้ยงสุนัข เพื่อประโยชน์ในการรักษาสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมกับการดำรงชีพของประชาชน ป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญ อันตรายจากการเลี้ยงสุนัข อันตรายจากเชื้อโรคที่เกิดจากสุนัข

ข้อบัญญัติ กทม.

โดยข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548 ข้อ 26 ประกอบกับพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 มาตรา 73 วรรค 2 ดังนี้

1. เจ้าของสุนัขต้องควบคุมสุนัขไม่ให้ก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ เช่น การก่อให้เกิดเสียงดังติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เป็นต้น

2. ต้องรักษาสถานที่เลี้ยงสุนัขให้สะอาดอยู่เสมอ จัดเก็บสิ่งปฏิกูลให้ถูกสุนัขลักษณะเป็นประจำ ไม่ปล่อยให้เป็นที่สะสมหมักหมมจนเกิดกลิ่นเหม็นรบกวนผู้อื่นที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

3. ต้องกำจัดสิ่งปฏิกูล อันเกิดจากสุนัขในที่หรือทางสาธารณะหรือในที่อื่นใดในเขตกรุงเทพมหานครโดยทันที

4. เมื่อสุนัขตาย เจ้าของสุนัขต้องกำจัดซากสุนัขให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพราะพันธุ์แมลงหรือสัตว์นำโรค ทั้งนี้ โดยวิธีที่ไม่ก่อเหตุรำคาญและไม่เป็นเหตุให้เกิดการปนเปื้อนของแหล่งน้ำ

สุนัขควบคุมพิเศษ

ต้องใส่อุปกรณ์ครอบปากและใช้สายลากจูง

รวมถึงทุกครั้งที่เจ้าของจะพาสุนัขออกไปในที่สาธารณะ โดยเฉพาะกับสุนัขควบคุมพิเศษ ซึ่งได้แก่ สุนัขสายพันธุ์ที่ดุร้าย เช่น พิทบูลเทอเรีย บูลเทอเรีย สเตฟฟอร์ดเชอร์บูลเทอเรียรอทไวเลอร์ และฟิล่าบราซิลเรียโร เป็นต้น จะต้องมีเจ้าของติดตาม รวมทั้งจะต้องผูกสายลากจูงตลอดเวลา โดยจะต้องใส่อุปกรณ์ครอบปากและใช้สายลากจูงมีความยาวไม่เกิน 50 ซม.

ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ทั้งนี้ ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท โดยประชาชนทั่วไปที่พบเห็นการฝ่าฝืนสามารถแจ้งเจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเทศกิจ ให้ดำเนินการปรับได้ทันที แต่จะต้องมีหลักฐานบ่งชี้ชัด เช่น ภาพถ่าย และหากสุนัขไล่กัดทำร้ายผู้อื่นก็จะมีโทษปรับ 2 เท่า คือ ปรับเป็นเงินไม่เกิน 5,000 บาท แล้วจะต้องชดใช้ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล และค่าทำขวัญให้กับผู้เสียหายอีกด้วย

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง