สัมผัสที่ 6 ประจำวันเกิด ความเชื่อ-เรื่องหลอน

เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

สัมผัสที่ 6 ประจำวันเกิด

๛ เกิดวันอาทิตย์

ช่วงไหนที่คุณเจ็บป่วย ไม่สบาย หรือไม่ก็อ่อนแอทางจิตใจ ให้หลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับผู้หญิงที่กำลังตั้งท้อง เพราะพลังอะไรบางอย่างที่ลึกลับ อาจจะทำให้คุณเห็นผี หรือ วิญญาณ ได้

๛ เกิดวันจันทร์

สำหรับคุณแล้ว จะส่องกระจกน่ะส่องได้ แต่อย่าส่องหลังเวลาเที่ยงคืนถึงเช้า โดยเฉพาะในกระจกร้าว และถ้าได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ หรือเสียงเรียกเวลาค่ำคืน อย่าพูดทัก หรือขานตอบ เพราะนั่นอาจจะเป็นเสียงที่ทวงถามวิญญาณของคุณก็ได้

๛ เกิดวันอังคาร

คนเกิดวันอังคารลำบากกว่าคนเกิดวันอื่นเสียแล้ว เพราะคุณไม่ควรเข้าห้องน้ำนอกบ้าน ถ้าไม่มีธุระ คุณควรจะอยู่ให้ห่างจากห้องน้ำที่ไม่น่าไว้ใจเอาไว้ เพราะอาจมีบางอย่างแอบติดตามคุณออกมา หรือปรากฏให้คุณเห็น

๛ เกิดวันพุธ

คุณไม่ควรไปงานศพ เพราะอาจจะมีวิญญาณติดตามตัวคุณกลับออกมา แต่ถ้าหากว่าเป็นงานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากที่กลับมาจากงานศพแล้ว ให้รีบอาบน้ำก่อนเที่ยงคืน และถ้าจะให้ดีน้ำที่อาบควรเป็นน้ำว่าน

๛ เกิดวันพฤหัส

ในยามวิกาล มืดๆ อย่ามองไปที่หัวบันได เพราะคุณอาจจะมีอะไรบางอย่างปรากฏให้คุณเห็นที่ตรงนั้น หากว่าได! ้ยินเสียงแป ลกๆ คล้ายๆ กับเรียกชื่อคุณ อย่าขานตอบ ให้ก้าวเท้าถอยหลัง 1 ก้าว แล้วเสียงนั้นจะหายไป

๛ เกิดวันศุกร์

เคยได้ยินหรือเปล่าว่าธาตุน้ำ อาจจะเป็นเหมือนประตูเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์ กับ โลกวิญญาณ ดังนั้น คนที่เกิดวันศุกร์อย่างคุณควรหลีกเลี่ยงการเดินทางทางน้ำ

๛ เกิดวันเสาร์

ศาลพระภูมิ คือ สิ่งต้องห้ามสำหรับคนเกิ ดวันเสาร์ ไหว้ เคารพ ได้ แต่อย่ามองจ้อง หากได้ยินเสียงหมาเห่า หอน เกรียวกราว ใกล้ๆ ตัว นั่นอาจแปลได้ว่าคุณกำลังโดนติดตามโดยภูตผี วิญญาณ

………………………………………………….

เรื่องเล่า ..เอามาฝาก

เมื่อ ราว 3 ปีก่อนผมมาเช่าห้องอยู่กับเจ้าใหม่ที่ย่านบางกอกน้อย เราเป็นเพื่อนที่ทำงานบริษัทเดียวกันครับ จนกระทั่งสนิทกันมากๆ ตามประสาชายโสด นิสัยใจคอชอบสนุกสนานรื่นเริง ไม่คิดเล็กคิดน้อยเหมือนกัน เลยมาเช่าห้องอยู่ด้วยกันซะเลย

ตอนแรกก็คิดว่าใกล้ที่ทำงานแถวท่าพระ แถมยังมีเพื่อนช่วยแชร์ค่าห้องเช่า ไม่ต้องว้าเหว่เหมือนอยู่คนเดียวอีกต่อไป

v

v

v
v

v

v

 

คือมองโลกในแง่ดีน่ะซีครับ นึกไม่ถึงว่าผมกับเจ้าใหม่จะเป็นเพื่อนแนวคู่เวรคู่กรรม ชอบเที่ยวเตร่เฮฮาเหมือนกัน เที่ยวคนเดียวน่ะไม่ค่อยสนุกหรอกครับ เดี๋ยวก็กลับรัง แต่พอมีเพื่อนถูกคอเข้า แหม…ตกค่ำเมื่อไหร่เป็นต้องแวะผับนั้นบาร์นี้อยู่เป็นประจำ

ไหนจะเงินทองฝืดเคืองตอนปลายเดือน ไหนจะโดนผีหลอกเอาเต็มรักอีกต่างหาก

โดนหลอกที่ไหนไม่โดน มาโดนผีหลอกตึกร้างกลางซอยก่อนถึงห้องเช่าของราว 20 เมตรเท่านั้นเอง!

ตึก ร้างที่ว่าน่ะไม่ใช่ไร้คนอยู่ ใส่กุญแจทิ้งไว้เฉยๆ นะครับ แต่เป็นตึกร้างแบบพังยับเยินเหมือนโดนไฟไหม้หรือระเบิดลงยังงั้นแหละเอ้า ไม่มีประตูหน้าต่าง ผนังกั้นห้องแตกร้าวเหลือแค่ครึ่งๆ กลางๆ หลังคาก็แหว่งโหว่ไม่มีทางกันแดดกันฝนได้เด็ดขาด ผมเดินผ่านทีไรมักจะอดหันเข้าไปมองไม่ได้ เห็นขยะเกลื่อนกลาด บางวันเห็นหนูตัวโตๆ วิ่งปรู๊ดปร๊าด บางวันก็มีแมวดำมากระโดดโหยงๆ บางตัวก็ขึ้นไปนั่งเลียขนอยู่บนผนังกั้นห้องที่เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง

หน้า ฝนยิ่งแล้วใหญ่ น้ำเจิ่งนองเกือบครึ่งน่อง เห็นขยะลอยเป็นแพ…ดูๆ แล้วเหมือนคนตายที่มีบาดแผลเหวอะหวะเต็มตัว แล้วศพถูกทิ้งประจานเอาไว้ไม่มีผิด

ไม่รู้ว่าเป็นตึกร้างมา ตั้งแต่เมื่อไหร่? ที่แน่ๆ คือกลายเป็นแหล่งมั่วสุมพวกขี้ยาไม่เลือกกลางวันหรือกลางคืน บางครั้งก็มีหนุ่มสาวใจถึงจูงมือกันเข้าหลบมุมพลอดรัก…ไม่รู้ว่าใน บรรยากาศแบบนั้นยังอุตส่าห์มีอารมณ์เข้าไปได้ยังไง?

ได้ข่าวว่าเคยมีผู้หญิงถูกมารสังคมฉุดเข้าไปข่มขืนด้วย แต่ยังโชคดีที่ไม่ถึงกับโดนฆ่าทิ้ง แต่บางรายก็วิ่งเตลิดหนีออกมาได้

คืน หนึ่งราวสี่ทุ่ม ผมกับเจ้าใหม่ว่าจะดับไฟเข้านอนก็พอดีได้ยินเสียงร้องเอ็ดตะโรดังลั่น เรารีบเปิดหน้าต่างจากชั้นบนลงไปดู ก็เห็นหลังไวๆ ของชายคนหนึ่งวิ่งผ่านห้องเช่าไปทางก้นซอย…ห้องข้างๆ ก็โผล่ออกมาดูเช่นกัน เขาบอกว่านั่นไอ้เป๋-ขี้ยาประจำซอย ลักเล็กขโมยน้อยได้ก็รีบไปซื้อยาเสพติดทันที

“สงสัยจะโดนผีหลอก…เจอกันหลายรายแล้วแต่ไม่รู้จักเข็ดซะที”

พี่ อรรถ-เช่าห้องอยู่ก่อนเราบอกเล่าให้ได้รับความรู้…ครั้นกลับเข้าห้องเจ้า ใหม่ก็หัวเราะเยาะ บอกว่าจนถึงสมัยมีมือถือ แถมถ่ายรูปได้ ถ่ายคลิปได้ ยังจะหลงเชื่อเรื่องผีอยู่ อีกเหรอเนี่ย? ผมเตือนมันว่าอย่าทำพูดดีไป เดี๋ยวเจอกับตัวเองแล้วจะรู้สึก! เจ้าใหม่กลับบอกว่ารู้สึกโล่งใจน่ะซีที่รู้ว่าโลกนี้ยังมีผีๆ สางๆ อยู่จริง

วันรุ่นขึ้นก็ได้รู้จากพี่อรรถว่า…ไอ้เป๋กำลังพี้ยา อยู่ดีๆ ก็มองเห็นร่างหนึ่งห้อยหัวลงมาจากเพดาน หน้าเน่าเฟะแทบจะชนหน้ามัน เท่านั้นเองไอ้เป๋ก็ทะลึ่งพรวดขึ้นร้องจ้า วิ่งปุเลงๆ ร้องโวยวายออกมาอย่างที่เราเห็น…เจ้าใหม่กลับบอกว่าไอ้เป๋เมายาจนตาฝาด เพี้ยนไปเองน่ะซี!

อาทิตย์ต่อมา เพื่อนปากเสียของผมก็เจอของจริงเข้าเต็มเปา

คืน นั้น เรานั่งโจ้เหล้ากันในห้องเพราะปลายเดือนเต็มที พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานแต่เช้า กะว่าหมดแบนนี้จะเข้านอน …ราวสามทุ่มกว่าๆ เห็นจะได้ เสียงร้องโหยหวนบาดใจก็ดังขึ้นจากตึกร้างหลังนั้นเอง…เราลุกพรวดไปดูก็ เห็นภาพนั้นเต็มตา

จันทร์เต็มดวงกับแสงไฟข้างถนน เห็นชายหญิงคู่หนึ่งวิ่งหน้าตั้งออกมา ดูเหมือนเสื้อผ้าจะยังไม่เรียบร้อย ฝ่ายหญิงร้องไห้พลางวิ่งพลาง…โอ๊ย! ผีหลอก! ช่วยด้วย…

ไม่ว่าใคร ก็เดาได้ว่าหนุ่มสาวไปพลอดรักกันแล้วโดนผี หลอกกระเจิงออกมา แต่เจ้าใหม่ยังอุตส่าห์บอกว่า…สงสัยเห็นแมวดำละมั้ง เลยนึกว่าผี…

เสียง มันขาดหายไป ผมเอะใจก็ละสายตาจากคนที่วิ่งไปทางก้นซอย มองตามสายตาของเพื่อนไป…ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าโดดเด่น ชัดเจนอยู่ในแสงไฟ คือร่างดำทะมึนของชายที่นุ่งกางเกงขาสั้นตัวเดียว เปลือยอกกว้างกำยำ ร่างสูงตระหง่านกำลังเงยหน้าช้าๆ ขึ้นมามอง

นรกเป็นพยาน! นัยน์ตาแดงจ้าเหมือนแสงไฟร้อนโชนจ้องหน้าเจ้าใหม่เขม็ง ส่วนเพื่อนผมก็ร้องแต่อะๆ อ้าๆ ไม่เป็นภาษาก่อนจะเข่าอ่อน ทรุดฮวบลงสลบเหมือดคาที่… พอฟื้นขึ้นมาก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นเกือบตลอดคืนเลยครับ!

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : tlcthai.com

บทความแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง