สงสัยกันไหม? ทำไมตัวละครหลักในการ์ตูนดัง จึงต้องทำเป็น ‘ตัวสีเหลือง’ กันด้วยน้า!!

เพื่อนๆ เคยสังเกตกันไหม ทำไมแอนิเมชันหลายๆ เรื่อง จึงได้ทำตัวการ์ตูนออกมาเป็นสีเหลืองกันแทบทั้งหมดเลย และยังมีพื้นหลังเป็นสีน้ำเงินเสมอๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นความตั้งใจหรือแค่บังเอิญกันแน่ วันนี้ แคมปัส-สตาร์ หาคำตอบมาให้แล้วว่าทำไมเหล่าตัวการ์ตูนไม่ว่าจะเป็น Spongebob, Tweety, Winnie the Pooh, Minions, Pikachu, The Simpsons และ Pluto ถึงได้มีสีเหลืองเหมือนกันหมดเลย

ทำไม? ตัวการ์ตูนถึงเป็นสีเหลือง

ตัวการ์ตูน Spongebob

โดยล่าสุดได้มีช่องใน Youtube ที่มีชื่อว่า ChannelFrederator ได้ออกมาอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมตัวการ์ตูนเหล่านี้ถึงได้มีสีเหลืองเหมือนกันทั้งหมด เขาได้อธิบายเกี่ยวกับทฤษฎีสีไว้ว่า สีแต่ละสีที่ใช้ต้องเป็นสีที่ตรงข้ามกันหรือส่งเสริมกัน เช่น สีเหลืองและสีน้ำเงิน เป็นต้น และนอกจากนั้นในระบบดิจิตอลหรือโทรทัศน์ก็ใช้ระบบสีที่เรียกว่า “RGB model” ทำให้สีเหลืองกับสีน้ำเงินเกิดการตัดกันหรือเสริมกันเป็นอย่างดีเมื่อนำมาใช้ร่วมกัน ส่งผลทำให้ตัวการ์ตูนมีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ไม่กลืนไปกับฉาก

จิตวิทยาการใช้สีเหลืองในการสร้างตัวการ์ตูน

นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหนึ่งเหตุผลทางจิตวิทยาเกี่ยวกับการใช้สี ซึ่งเราจะสังเกตได้จากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Inside out ที่มีการใช้สีต่างๆ ในการสื่ออารมณ์ ความรู้สึก เช่น ตัว Anger ใช้สีแดงเป็นตัวแทนของความโกรธ, ตัว Sad ใช้น้ำเงินสื่อถึงความเศร้า และ ตัว Joy ใช้สีเหลืองเป็นตัวแทนของความสนุกสนาน ร่าเริง มีความสุข โดยที่เขาสื่อให้เราได้เห็นว่าสีเหลืองเป็นสีที่ทำให้คนรู้สึกมีความสุขแฮปปี้ ดังนั้นจึงทำให้สีเหลืองกลายเป็นสีหลักในการทำแอนิเมชันต่างๆ ไปโดยปริยาย

ตัวการ์ตูนจาก Inside out

สุดท้ายแล้วสายตาของคนเราก็สามารถรับรู้ถึงสีเหลืองได้เร็วกว่าสีอื่นๆ จนทำให้สีของรถแท็กซี่จึงเป็นสีเหลืองตัดกับสีเขียว หรือไม่ก็เหลืองทั้งคัน ป้ายเตือนต่างๆ ก็ใช้สีเหลืองเป็นหลักด้วย และสำหรับคนตาบอดสีที่ไม่สามารถแยกแยะสีในบางสีได้นั้น การใช้สีเหลืองก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะคนตาบอดสีสามารถมองเห็นสีเหลืองได้อย่างชัดเจน ฉะนั้นการใช้สีเหลืองกับตัวละครหรือตัวการ์ตูนก็จะทำให้คนตาบอดสีสามารถรับชมแอนิเมชันได้อย่างสนุกสนาน ไม่ต้องกลัวว่าจะแยกสีไม่ออกเลย

คลิปการอธิบายถึงความหมายของการใช้สีเหลืองกับตัวการ์ตูน 

บทความที่เกี่ยวข้อง 

ที่มา : www.buzzfeed.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง