‘เหนียง’ เป็นลักษณะเนื้อย้อยที่อยู่บริเวณใต้คาง หรือที่เรียกว่าคางสองชั้น เกิดจากสะสมของไขมันใต้คาง โดยผิวหนังส่วนนั้นจะมีความบาง หย่อนคล้อยทำให้ห้อยลงมาคล้ายกับก้อนถุง ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ทำให้กรอบหน้าไม่ชัดเจน คอดูยาน ดูตัน และบางคนแม้จะมีรูปร่างที่ผอม แต่หากมีเหนียงที่ใต้คางแล้ว ก็ยังคงทำให้ดูอ้วน ดูไม่เฟิร์มกระชับ ทั้งยังดูมีอายุมากกว่าวัย จนทำให้สูญเสียความมั่นใจในใบหน้าตัวเองไป สำหรับใครที่เริ่มมีเหนียงหย่อนคล้อย กำลังมองหาสาเหตุ และวิธีลดเหนียงที่แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ในบทความนี้ชวนมาสำรวจสาเหตุของการก่อเหนียง และวิธีการลดเหนียงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันกัน!
สาเหตุของการเกิดเหนียง
สาเหตุของการเกิดเหนียง หรือคางสองชั้นนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเลย ทั้งจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น อายุที่เพิ่มมากขึ้น พันธุกรรม สรีระของคางที่เล็กกว่าปกติ ไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของมัน อาหารที่มีโซเดียมสูง และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นไม่เพียงแค่คนที่มีรูปร่างอ้วน แต่ทุกคนก็สามารถมีเหนียงได้เช่นเดียวกัน และยังเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัยอีกด้วย
รวมวิธีลดเหนียง เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
อยากลดและบอกลาปัญหาเหนียงที่ทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ดูหย่อนคล้อย และดูมีอายุมากกว่าวัย ลองมาดูวิธีการลดเหนียงที่ได้รับความนิยมและให้ผลลัพธ์ค่อนข้างชัดเจนกัน
1. การบริหารใบหน้า
การบริหารใบหน้าเป็นวิธีเบสิกที่สุดที่ช่วยยกกระชับผิวหน้า ช่วยลดชั้นไขมันส่วนเกินที่อยู่บริเวณรอบลำคอและคางของเรา ซึ่งท่าบริหารหน้าที่มีส่วนช่วยลดเหนียง และสามารถทำตามได้ง่ายๆ มีจำนวน 5 ท่า ดังนี้
- ก้มและเงยศีรษะ
เริ่มต้นด้วยการตั้งศีรษะให้ตรงแล้วเงยหน้าไปข้างหลังจนรู้สึกตึง ค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาที จากนั้นให้ก้มหน้าให้คางชิดลำคอ ค้างไว้อีกประมาณ 5-10 วินาที ให้ทำอย่างนี้สลับไปมาจำนวน 8 รอบ = 1 เซ็ต ควรทำท่านี้อย่างน้อยวันละ 1 เซ็ต
- ยื่นคางออกไปข้างหน้า
ท่าที่สองให้ยื่นคางออกไปข้างหน้าให้ได้มากที่สึดจนรู้สึกตึงบริเวณหลังคอ ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที ให้ทำอย่างนี้สลับไปมาจำนวน 8 รอบ = 1 เซ็ต ควรทำท่านี้อย่างน้อยวันละ 1 เซ็ต
- จูบเพดาน
ท่าถัดมา ให้เงยหน้าขึ้นไปด้านบน หรือมองเพดาน แล้วยื่นปากจู๋เหมือนกับกำลังจูบเพดาน จนรู้สึกเกร็งบริเวณลำคอและกราม ค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที ให้ทำอย่างนี้วันละ 3 รอบ
- ทำปากจู๋
อีกท่าง่ายๆ คือการทำปากจู๋ ให้นั่งศีรษะตรง อ้าปากให้กว้างมากที่สุด จากนั้นพยายามทำปากจู๋ขณะที่กำลังอ้าปากกว้าง ค้างไว้อีกประมาณ 10-15 วินาที ให้ทำอย่างนี้วันละ 3 รอบ
- หมุนคอไปรอบๆ
ท่าสุดท้าย ให่นั่งหรือยืนให้มั่นคง หมุนคอเป็นวงกลมรอบๆ ไปทางขวาช้าๆ 3-5 รอบ จากนั้นให้ทำเหมือนเดิมอีกครั้ง แต่หมุนทวนไปทางซ้ายจำนวน 3-5 รอบ ให้ทำอย่างนี้วันละ 3 รอบเช่นเดียวกัน
2. ลดน้ำหนัก
น้ำหนักและไขมันที่สะสมเพิ่มมากขึ้นเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียง อย่างที่เราได้บอกไป ดังนั้นการลดน้ำหนักจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยลดและกำจัดเหนียงได้แบบชัดเจน โดยวิธีในการลดน้ำหนักก็มีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการเน้นการออกกำลังกาย การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การรับประทานคีโต หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันทรานส์และโซเดียมสูง รวมถึงควบคุมแคลอรี่ให้ร่างกายมีการเผาผลาญอย่างเหมาะสม ส่วนวิธีที่ไม่แนะนำในการลดน้ำหนักอย่างเด็ดขาด คือการไดเอต เพราะหากอดอาหาร ทรมานร่างกายอย่างผิดวิธี อาจส่งผลให้เกิด Yoyo Effect แม้น้ำหนักจะลดไว แต่ก็เพิ่มไวเช่นเดียวกัน ถึงตอนนั้นเหนียงที่เราต้องการลดหรือกำจัด อาจเยอะกว่าเดิมก็เป็นได้
3. พยายามงดหรือเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มเครื่องดื่มแอลกออล์ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า เบียร์ ไวน์ หรือโซจูมีผลต่อการทำงานของระบบเลือด ทำให้ความเข้มข้นในเลือดสูง และเมื่อความเข้มข้นในเลือดขึ้นสูง กระบวนร่างกายจะเกิดการปรับสมดุล พยายามดึงเอาน้ำที่อยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมาเจือจางในเลือด เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำที่เป็นอันตราย โดยน้ำที่ถูกดึงมากจะไปสะสมอยู่ที่บริเวณใบหน้าและแก้ม ทำให้หน้าบวม แก้มป่อง และดูมีเหนียงเห็นชัด นอกจากนี้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์ ยังมีน้ำตาลสูงมาก ให้แคลลอรี่ที่สูง หากดื่มเยอะเกินไป ก็ส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้เราอ้วนมากขึ้น
4. การฉีดโบท็อกซ์
นอกเหนือจากการบริหารใบหน้า การลดน้ำหนัก และการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว การใช้เทคนิคทางการแพทย์และความงามก็เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม และสามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน อย่างการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งจะไม่ใช่การสลายไขมันที่สะสมอยู่โดยตรง แต่จะเป็นการใช้เทคนิคโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าให้กระชับมากขึ้น ซึ่งโบท็อกซ์นั้นจะออกฤทธิ์ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ โดยแพทย์มากประสบการณ์จะฉีดไปที่บริเวณกรอบหน้าและใต้คาง เพื่อให้แรงของกล้ามเนื้อที่ดึงหน้าน้อยลง จึงช่วยยกกระชับกรอบหน้าและลดเหนียงใต้คางได้นั่นเอง
5. การดูดไขมันเหนียงกรอบหน้า
การดูดไขมันเหนียงกรอบหน้า เป็นเทคนิคทางการแพทย์และความงามอีกวิธีที่แนะนำ และให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้กับการฉีดโบท็อกซ์ ทั้งยังเป็นการดูดไขมันที่สะสมอยู่ที่บริเวณลำคอและใต้คางออกไป เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวหนังบริเวณใต้คางมีไขมันสะสมอยู่มาก ซึ่งการดูดไขมันเหนียงกรอบหน้านั้นมีการผ่าตัดหลายเทคนิค ไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันแบบธรรมดา การดูดไขมันและกระชับผิวหนังไปพร้อมกันด้วยการใช้เลเซอร์และเทคนิคอื่นๆ โดยวิธีนี้จะช่วยให้ลดเหนียงและผิวหนังใต้คางดูกระชับมากขึ้น ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างยาวนาน อย่างการดูดไขมันเหนียงกรอบหน้าพร้อมกระชับผิวหนังด้วยเลเซอร์ NeckTite สามารถอยู่ได้นานถึง 5 ปีเลย
‘เหนียง’ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย และสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และบางสาเหตุนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่หลายวิธีที่ช่วยลดเหนียงได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งจะเน้นไปที่การปรับพฤติกรรม อย่างการบริหารหน้า การลดน้ำหนัก และการงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่สำหรับคนที่มีผิวหนังบริเวณใต้คางมีไขมันสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก และต้องการลดเหนียงที่ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างชัดเจน อยู่ได้ยาวนาน เทคนิคทางการแพทย์และความงามก็เป็นวิธีที่ตอบโจทย์และได้รับความนิยม ทั้งการฉีดโบท็อกซ์ หรือการดูดไขมันเหนียงกรอบหน้าซึ่งต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์มากประสบการณ์ และใช้เครื่องมีที่มาตรฐานผ่านการรับรองเท่านั้น
สำหรับใครที่อยากลดหนียงแบบกึ่งถาวร ต้องการดูรีวิวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูดไขมันเหนียงกรอบหน้า หรือต้องการปรึกษาปัญหาด้านการปรับรูปหน้าให้เข้ากับตนเองมากที่สุด ที่ HERS Clinic – เฮอร์สคลินิกเป็นคลินิกเวชกรรมที่ให้บริการศัลยกรรมความงาม ทรีตเมนต์ การบำรุงผิวพรรณ พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลผิวหน้าครบวงจรเลย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
HERS Clinic
MRT สุทธิสาร ทางออกที่ 4
ที่อยู่: 211/3-4 ชั้น 1-2 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ
เปิดบริการ: จันทร์-เสาร์: 10.00 – 20.00 น.
ติดต่อ: contact@hersclinic.com | 099-1890189