หลายๆ คนที่ใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะทำงานที่บ้าน หรือที่ออฟฟิศสำนักงาน คงรู้กันดีอยู่แล้วว่า เครื่องสำรองไฟฟ้า หรือ UPS นั้นมีประโยชน์มากมายจริงๆ เพราะนอกจากจะช่วยให้งานที่กำลังทำอยู่ไม่สูญหายแล้ว ยังช่วยดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องมือการทำงาน ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หากเกิดไฟฟ้าดับ ไฟตก ไฟกระชาก หรือกรณีไฟฟ้าลัดวงจรก็ตาม แต่ตัวเครื่องสำรองไฟฟ้าเองนั้น ก็ต้องมีการใช้งานอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ UPS ให้ใช้ได้นานๆ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่จะทำอย่างไรนั้น วันนี้เรามาดูกันว่า 5 ข้อห้ามที่ไม่ควรทำกับเครื่องสำรองไฟฟ้า มีอะไรบ้าง
เครื่องสำรองไฟฟ้า UPS คืออะไร
เครื่องสำรองไฟฟ้า UPS หรือ Uninterruptible Power Supply คือ อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ช่วยจ่ายไฟสำรองฉุกเฉินเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงชนิดต่างๆ เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านั้น สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องปกติไปสักระยะหนึ่ง ในเวลาที่เกิดไฟดับ ไฟตก ไฟกระชาก หรือเกิดปัญหาเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า จุดเด่นก็คือทำให้เรามีเวลาในการเซฟ หรือบันทึกงานสำคัญที่ทำค้างไว้ งานไม่สูญหาย ไม่ต้องทำใหม่ หรือมีเวลาในการปิดอุปกรณ์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายตามมานั่นเอง ซึ่งเครื่องสำรองไฟฟ้า UPS ก็มีให้เลือกหลายแบบหลายขนาด ตามลักษณะการใช้งาน
มาดู 5 ข้อห้ามที่ไม่ควรทำกับเครื่องสำรองไฟฟ้า
แบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟฟ้า ส่วนใหญ่มักจะมีอายุการใช้งานไม่เกิน 3 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน แต่หากแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ก็จะต้องซื้อใหม่มาเปลี่ยน หรืออาจจะต้องซื้อเครื่องใหม่เลยก็ได้ ส่วนแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพ ช้าหรือเร็ว รวมทั้งการใช้งานเครื่องสำรองไฟฟ้าให้ใช้ได้คงทนยาวนานอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับการดูแลใช้งานด้วยดังนี้
- ห้ามวางเครื่องสำรองไฟไว้ในมุมอับ
เครื่องสำรองไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องมีการระบายความร้อนออกมา การวางเอาไว้ในมุมอับ ที่อับชื้น บริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก บริเวณที่โดนแสงแดด หรือบริเวณที่มีอุณหภูมิความร้อนสูง อาจส่งผลต่อเครื่องสำรองไฟฟ้าร้อนผิดปกติ และทำให้ระบบรวนหรือเสียหายได้ เช่น ระบบชาร์จไฟเข้าชำรุด แบตเตอรี่เสื่อมสภาพก่อนกำหนด
- ห้ามวางไว้ในที่มีฝุ่น
นอกจากมุมอับแล้ว ในบ้านหรือออฟฟิศสำนักงาน อาจมีจุดที่มีฝุ่นสกปรกหนาแน่น ซึ่งหากวางเครื่องสำรองไฟฟ้าไว้บริเวณนั้น อาจทำให้ฝุ่นเข้าไปเกาะแผงวงจรภายในเครื่องสำรองไฟ หรือไปเกาะแผงป้องกันความร้อนจนเครื่องเกิดความร้อนสะสม ระบายความร้อนได้ไม่ดี ก็ส่งผลให้เครื่องรวนหรือแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วเช่นกัน ควรเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำรองไฟบ่อยๆ ด้วยผ้าแห้งหรือแปรงขนนุ่ม เพื่อไม่ให้มีฝุ่นเกาะรอบเครื่อง
- ห้ามใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าบางประเภท
อีกหนึ่งข้อห้ามสำคัญก็คือ ไม่ควรนำเครื่องสำรองไฟฟ้า UPS มาใช้ร่วมกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ประเภทที่กินไฟค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์เกี่ยวกับการทำความร้อน เช่น เครื่องทำความร้อน กาต้มน้ำร้อน เพราะเครื่องจะทำงานหนักเกินไป อาจก่อให้เกิดปัญหาบางอย่าง เช่น แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือทำให้เครื่องสำรองไฟเสียหายได้
- ห้ามต่อพ่วงกับอุปกรณ์ไฟฟ้าเกินกำหนด
เครื่องสำรองไฟฟ้า UPS มีหลายประเภท หลายขนาด ให้เลือกตามลักษณะการใช้งานที่เหมาะสม หากเรานำอุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ มาต่อพ่วงผ่านเครื่องสำรองไฟจนเกินกำลัง หรือเกิดการโอเวอร์โหลดขึ้นมา เครื่องสำรองไฟฟ้าอาจจะตัดการทำงาน และยังทำให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เช่น ไม่จ่ายไฟสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน จนส่งผลให้อุปกรณ์เสียหาย
- ห้ามซ่อมแซม ดัดแปลง หรือแก้ไขด้วยตัวเอง
เป็นไปได้ว่าการใช้งานไปนานๆ เครื่องสำรองไฟฟ้าอาจจะรวน หรือเกิดขัดข้องขึ้นมา แต่สิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอันขาดก็คือ พยายามเปิดฝาเพื่อซ่อมแซม หรือแก้ไขด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้แผงวงจรภายในตัวเครื่องเสียหายมากกว่าเดิม จนเครื่องสำรองไฟเสียหายมากกว่าที่คิด หรือหากยังอยู่ในระยะประกัน ก็จะทำให้เงื่อนไขการรับประกันสิ้นสุดลง ทางที่ดีควรรีบติดต่อศูนย์บริการของยี่ห้อนั้นๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญซ่อมแซมดูแล
ยังมีหลายคนเข้าใจผิดไปว่า เครื่องสำรองไฟฟ้าใช้สำรองไฟไว้ทำงานเวลาเกิดไฟดับ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเพียงการทำงานช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อจ่ายไฟฟ้าเท่านั้น ควรศึกษาทำความเข้าใจข้อมูลรายละเอียดให้ชัดเจนก่อนใช้งาน เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง และหมั่นคอยตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เครื่องสำรองไฟ ตามคำแนะนำอย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ใครสนใจข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องสำรองไฟ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย บริการหลังการขายที่รวดเร็ว แนะนำให้เข้าไปที่เว็บไซต์ Chuphotic https://chuphotic.com/product/battery/ ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องสำรองไฟฟ้าUPS ที่จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบถ้วน